วันแรก 24 มิถุนายน 2562
กรุงเทพฯ

21.30 น. พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณชั้นผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 2

เคาน์เตอร์สายการบินไทย เคาน์เตอร์เช็คอินแถว D

เจ้าหน้าที่ เวิลด์ เซอร์ไพร้ส รอต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวก

00.20 น. โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG954 นำท่านเหินฟ้าสู่ กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์

อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม

พักค้างแรมบนเครื่องบิน

วันที่สอง 25 มิถุนายน 2562
หมู่เกาะลอฟโฟเทน ประเทศนอร์เวย์ – พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง – หาดแรมเบิร์จ – หมู่บ้านเรนเน่ – สะพาน Hammroey – หมู่บ้าน Å

เช้า อาหารเช้าบริการบนเครื่องบิน พร้อมเครื่องดื่ม

07.25 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติ กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง

10.55 น. โดยสายการบินไวเดอร์โร เที่ยวบินที่ WF800 นำท่านเหินฟ้าสู่ท่าอากาศยาน เล็กเนส ประเทศนอร์เวย์

กลางวัน  อาหารกลางวันบริการบนเครื่องบิน พร้อมเครื่องดื่ม

13.20 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานเล็กเนส หมู่เกาะลอฟโฟเทน (Lofoten Island) ประเทศนอร์เวย์

เกาะสวรรค์ของคนรักทะเล ซึ่งมีหมู่บ้านชาวประมง ธรรมชาติตระการตา และเป็นสวรรค์ของนักตกปลา เกาะลอฟโฟเทนตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ บริเวณเหนือเส้นอาร์กติก เซอร์เคิล เป็นถิ่นเก่าแก่ของไวกิ้ง มีอากาศดีด้วยกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีมที่ไหลผ่าน

มีเกาะสำคัญคือ เกาะเอาสโตไก (Austvågøya) อิมไซ (Gimsøy) เวสโตไก (Vestvågøya) ฟลอคสตอได (Flakstadøy) มุสเคอ เนสเซอยา (Moskenesøya) วาไร (Værøy) และโรสต์ (Røst) โดยมีเมืองสำคัญคือ สโวแวร์ (Svolvær) เป็นศูนย์กลางการประมงและการค้ามาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17 ซึ่งหากมาถึงที่เกาะลอฟโฟเทนแห่งนี้แล้วอย่าพลาดชิมปลาค็อดลอฟโฟเทน ที่อร่อยและโด่งดังไปทั่วประเทศนอร์เวย์

หลังพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรพร้อมตรวจเช็คสัมภาระแล้ว นำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง (Lofotr Viking Museum) เนื่องจากบริเวณหมู่เกาะลอฟโฟเทน มีการค้นพบว่าเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวไวกิ้งในอดีต บนเกาะจึงมีการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง เพื่อแสดงเรื่องราวและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของชาวไวกิ้งที่จัดแสดงไว้อย่างมากมาย

ซึ่งรูปแบบพิพิธภัณฑ์ถูกออกแบบโดยใช้โครงเรือไวกิ้งโบราณและภายในได้จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้และเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวไวกิ้งในอดีต

อิสระให้ท่านชมด้านในพิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง และถ่ายภาพเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย จนถึงเวลานัดหมาย

จากนั้น นำท่านแวะถ่ายภาพที่ หาดแรมเบิร์จ ซึ่งความงามของหาดทรายสีขาวที่มีน้ำทะเลสีฟ้าและภูเขาที่สวยงามเป็นฉากหลัง นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านชาวประมงเรนเน่ (Reine) บนเกาะมุสเคอเนสเซอยา (Moskenesøya) ซึ่งอยู่ทางใต้ของหมู่เกาะลอฟโฟเทน อันได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่มี Landscape ในการถ่ายภาพวิวธรรมชาติที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของหมู่เกาะลอฟโฟเทน ระหว่างทางแวะเก็บภาพสวยๆที่ สะพานHammroey bridge

จากนั้นนำท่าน เดินทางสู่ตอนใต้ ของเกาะที่เมืองมอคคาเนส อันเป็นที่ตั้งของหมู่บ้าน Å นำท่านชมหมู่บ้าน Å ที่ได้ ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดบนหมู่เกาะลอฟโฟเทนและเป็นจุดสิ้นสุดของถนนสายหลัก E10 ถนน King Olav’s ถนนหลวงสายหลักเดียวของหมู่เกาะลอฟโฟเทน

ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก

พักค้างแรม ณ LIVE LOFOTEN HOTEL หรือระดับเดียวกัน

วันที่สาม 26 มิถุนายน 2562
จิมซูยา – เฮนนิ่งแสวร์ – สโวแวร์ – ทรอมโซ ประเทศนอร์เวย์

เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านสัมผัสประสบการณ์ขี่ม้าพันธุ์ไอซ์แลนด์ บริเวณชายหาด ซึ่งตามประวัติแล้ว ชาวไวกิ้งเดินทางมาที่ดินแดนแห่งนี้โดยม้าของพวกเขา แล้วนำท่านเดินทางสู่ เฮนนิ่งแสวร์ (Henningsvaer) เมืองท่าและหมู่บ้านชาวประมงที่ปัจจุบันชาวบ้านยังคงทำประมงกันอย่างคึกคัก ซึ่ง เป็นอีกเมืองยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต่างพากันมาแวะเวียน และยังได้ชื่อว่าเป็น Venice Of Lofoten

ซึ่งจุดเด่นของเมืองนี้คือ บ้านชาวประมงสีแดง (Rorbuer) ตั้งอยู่ริมทะเล และมีอ่าวจอดเรือประมงเรียงรายอยู่มากมาย เป็นภาพที่สวยงามตัดกับวิวภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะในช่วงฤดูหนาวถือเป็นภาพที่สวยงามไม่น้อย อิสระท่านเดินเล่น เก็บภาพบรรยากาศตามอัธยาศัย

กลางวัน   อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ สโวแวร์ (Svolvær) เมืองศูนย์กลางเขตชุมชน Vågan ตั้งอยู่บนโค้งอ่าวทางใต้สุดของเกาะเอาสโตไก (Austvågøya) นำท่านล่องเรือ เพื่อชมนกอินทรีทะเลและให้อาหาร

โดยในหมู่เกาะลอฟโฟเทนนี้ มีนกอินทรีทะเลสีขาวเป็นสายพันธุ์ที่พบมากที่สุด แต่ถ้าโชคดีท่านอาจได้เห็นนกอินทรีสีทองขนาดเล็กที่หาชมได้ยาก

 

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยาน เล็กเนส ประเทศนอร์เวย์

18.10 น. โดยสายการบินไวเดอร์โร เที่ยวบินที่ WF816 นำท่านเหินฟ้าสู่ท่าอากาศยาน ทรอมโซ ประเทศนอร์เวย์

19.00 น.  ถึงท่าอากาศยาน ทรอมโซ ประเทศนอร์เวย์ เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลทางเหนือของนอร์เวย์ มีหิมะปกคลุมภูเขาลูกใหญ่ที่โอบล้อมเมืองเอาไว้ราวกับป้อมปราการ มีสะพานทอดยาวระหว่างเกาะไปยังแผ่นดินใหญ่ เมืองที่ผู้คนมีความน่ารักและมีมิตรไมตรีคอยหยิบยื่นให้กับผู้ไปเยือนผสมผสานกับความคลาสสิคของสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่ที่ชาวทรอมโซยังอนุรักษ์ไว้ ยิ่งเพิ่มมนต์สเน่ห์ให้กับที่นี่

ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์เก่าแก่ชื่อว่า Arctic Cathedral ที่ถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คของทรอมโซที่สร้างขึ้นราวปี 1965 ก็ยังคงความงดงามเช่นเดิม บ้านไม้โบราณที่ว่ากันว่าสร้างตั้งแต่ปี 1789 หลายหลังที่ยังคงความเก่าแก่และคลาสสิคที่ชาวเมืองยังคงอนุรักษ์ไว้ โบสถ์ไม้เก่าแก่ชื่อ Tromso Cathedral ที่สร้างขึ้นในปี 1861 ก็มีความขลังและงดงามที่ไม่เคยเสื่อมคลาย และสิ่งปลูกสร้างอีกหลายแห่งที่ต่างก็มีมนต์สเน่ห์แห่งความเก่าแก่ที่ชาวเมืองทรอมโซยังอนุรักษ์ไว้อย่างดีอีกด้วย

นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรพร้อมตรวจเช็คสัมภาระแล้ว จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ที่พัก

ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

พักค้างแรม ณ CLARION HOTEL THE EDGE หรือระดับเดียวกัน

วันที่สี่ 27 มิถุนายน 2562
ทรอมโซ – ลองเยียร์เบียน หมู่เกาะสวาลบาร์ด ประเทศนอร์เวย์

เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยาน ทรอมโซ ประเทศนอร์เวย์

12.25 น.โดยสายการบินสแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SK4414 นำท่านเหินฟ้าสู่ท่าอากาศยาน ลองเยียร์เบียน หมู่เกาะสวาลบาร์ด ประเทศนอร์เวย์

กลางวัน อาหารกลางวัน บริการบนเครื่องบิน พร้อมเครื่องดื่ม

14.00 น. ถึงท่าอากาศยาน ลองเยียร์เบียน หมู่เกาะสวาลบาร์ด ประเทศนอร์เวย์ หลังพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรพร้อมตรวจเช็คสัมภาระแล้ว จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ที่พัก

ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

พักค้างแรม ณ SVALBARD HOTEL THE VAULT หรือระดับเดียวกัน

วันที่ห้า ศ. 28 มิ.ย. 62
ลองเยียร์เบียน 

เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเยี่ยมชม เมืองลองเยียร์เบียน ตั้งอยู่บนเกาะสปิตซ์เบอร์เกน ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและเป็นศูนย์กลางของสวาลบาร์ด โดยบนหมู่เกาะสวาลบาร์ด มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 2,500 คนเท่านั้น และเป็นที่อยู่อาศัยของหมีขั้วโลก ซึ่งมีจำนวนถึง 3,000 ตัว

โดยรอบหมู่เกาะ เป็นหมู่เกาะที่อยู่ทางเหนือสุดของทวีปยุโรป และนับเป็นส่วนหนึ่งของประเทศนอร์เวย์ ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปจากแผ่นดินใหญ่ ของนอร์เวย ์ประมาณ 1,000 กิโลเมตร และห่างจากเมืองหลวงกรุงออสโลประมาณ 2,000 กิโลเมตร

นำท่านแวะถ่ายรูปกับ เหมืองถ่านหิน ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของสวาลบาร์ดและได้ถ่านหินที่นี่ยังได้ชื่อว่าเป็นถ่านหินที่มีคุณภาพอีกแห่งหนึ่งของโลก

 

จากนั้น นำท่านเข้าชม โบสถ์สวาลบาร์ด โบสถ์ที่อยู่เหนือที่สุดในโลก แล้วนำท่านชมบ้านเรือนสีสันสดใสเรียงรายเป็นแถว และเลือกซื้อหาของที่ระลึกได้ในย่านใจกลางเมือง

16.00 น. ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ท่าเรือเพื่อเช็คอินลงเรือ M/V Plancius อิสระให้ท่านได้ผ่อนคลายอิริยาบถและพักผ่อนตามอัธยาศัย

18.00 น.  ออกเดินทางโดยเรือ M/V Plancius มุ่งหน้าไปทางทิศเหนือตามแนวชายฝั่งตะวันตก ระหว่างทางท่านสามารถชมความสวยงามของฟยอร์ดต่างๆ และอาจได้พบกับวาฬมิงค์ตัวแรกของการเดินทาง

ค่ำ อาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือ

พักค้างแรม ณ บนเรือ M/V Plancius

วันที่หก 29 มิถุนายน 2562
ล่องเรือ M/V Plancius – Krossfjorden – ธารน้ำแข็ง 14th July Glacier – Ny Ålesund

 

เช้า  อาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือ

เรือ M/V Plancius นำท่านเดินทางถึง ครอสฟอร์เด้น (Krossfjorden) นำท่านลงเรือเล็กหรือ Zodiac ชมธารน้ำแข็ง 14th July Glacier ซึ่งได้รับการตั้งชื่อโดยเจ้าชายอัลเบิร์ตแห่งโมนาโกในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เพื่อสักการะวันชาติฝรั่งเศส

ชมธารน้ำแข็งที่สวยงามและสัตว์หลากหลายชนิด เช่น นกคิตติเวก นกBrünnich’s guillemot ที่ทำรังอยู่บนโขดหินและหน้าผา และหากโชคดีท่านอาจได้เห็นสุนัขจิ้งจอกขั้วโลก(Arctic Fox) นักล่าตัวน้อยแห่งขั้วโลกเหนือ

กลางวัน  อาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในเรือ

หลังอาหาร นำท่านสู่ ไนออลิซุนด์ (Ny Ålesund) ชุมชนที่เหนือที่สุดของสวาลบาร์ด

เมืองที่ตั้งเป็นสถานีวิจัยในสวาลบาร์ด ตั้งอยู่บนแหลมบลอคเกอร์ ในบริเวณกองซ์ฟยอร์ด

เมืองเหมืองแร่เก่าของบริษัท เหมืองแร่คิงส์เบย์กัลล์คอมพ์ และเป็นประตูสู่อาร์กติก โดย โรอัลด์ อะมุนด์เซน นักสำรวจชาวนอร์เวย์ ผู้ที่สามารถพิชิตขั้วโลกใต้ และขั้วโลกเหนือได้เป็นคนแรก ได้ใช้ ไนออลิซุนด์ เป็นฐานในปี ค.ศ. 1926 เดินทางโดยเรือบอลลูน NORGE

ไนออลิซุนด์ มีประชาการอาศัยอยู่ประมาณ 30-35 คน เป็นนักวิจัยจาก 10 ประเทศ ได้แก่ นอร์เวย์ ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ อังกฤษ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ใกล้กับหมู่บ้านไนออลิซุนด์ เป็นพื้นที่สำหรับการเพาะพันธุ์ห่านสีชมพูและนกนางนวลอาร์กติก

นอกจากนี้สามารถล่องเรือชมฟยอร์ด ธารน้ำแข็ง และอาจได้พบกับหมีขั้วโลกได้ เป็นจุดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการไปพิชิตขั้วโลกเหนือห้ามพลาด โดยท่านสามารถส่งโปสการ์ดจากไปรษณีย์ที่อยู่เหนือสุดของโลกได้อีกด้วย

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางกลับสู่เรือ M/V Plancius

ค่ำ  อาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือ

พักค้างแรมบนเรือ M/V Plancius

วันที่เจ็ด 30 มิถุนายน 2562
ล่องเรือ M/V Plancius – Raudfjorden – Magdalenefjorden

เช้า อาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือ

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ เราด์ฟอร์เด้น (Raudfjorden) หรือ ฟยอร์ดสีแดง บริเวณชายฝั่งด้านเหนือของสปิตซ์เบอร์เกน โดย วิลเลิม บาเรินตส์ นักสำรวจชาวดัตช์ เป็นคนแรกที่ค้นพบเราด์ฟอร์เด้น ในปี ค.ศ. 1596 เป็นฟยอร์ดที่สวยงามและมีธารน้ำแข็งอันตระการตา โดยรอบๆเป็นอ่าว

จากนั้นนำท่านชมวิวของสปิตซ์เบอร์เกน ซึ่งเต็มไปด้วยธารน้ำแข็งที่ แมกดาเลเนฟอร์เด้น (Magdalenefjorden) ซึ่งล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาตระหง่าน ธารน้ำแข็งที่สูงตระหง่านและธรรมชาติอันงดงาม เป็นฟยอร์ดแห่งหนึ่งที่สวยที่สุดในสวาลบาร์ด

ให้ท่านชมฟยอร์ดที่ปกคลุมด้วยธารน้ำแข็ง และสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามและสัตว์ป่าในระยะใกล้ บริเวณแนวชายฝั่งของฟยอร์ดที่มีความอุดมสมบูรณ์ เช่น นกลิตเติ้ลอ็อก นกทะเลสีดำ นกบรึนนิคส์กิลลิมอต นกพัฟฟินอาร์กติก นกสกัวอาร์กติก วาฬ แมวน้ำ และอาจได้พบกับหมีขั้วโลกได้

อาหารกลางวันและอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือ

พักค้างแรมบนเรือ M/V Plancius

 

วันที่แปดและเก้า 1-2 กรกฎาคม 2562
ล่องเรือ M/V Plancius – Prins Karls Forland

เช้า อาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือ

หลังอาหาร นำท่านสำรวจเกาะอาร์กติกของสปิตซ์เบอร์เกน ล่องเรือในช่องแคบ ฟอแลนด์ซันเด (Forlandsundet) ระหว่างเกาะสปิตซ์เบอร์เกน และ เกาะปริ้นคาร์ลฟอร์แลนด์ โดยเกาะปริ้นคาร์ลฟอร์แลนด์ (Prins Karls Forland) ถูกค้นพบโดย วิลเลิม บาเรินตส์ นักสำรวจชาวดัตช์ ในปี ค.ศ. 1596 ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติฟอร์แลนด์

ได้รับการจัดตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1973 ให้เป็นเขตคุ้มครองนกและอนุรักษ์พื้นที่ทางธรรมชาติขนาดใหญ่บนเกาะและทะเล มีพื้นที่ครอบคุมทั้งทะเลรอบๆและเกาะปรินซ์คาร์ลฟอร์แลนด์ มีความยาว 86 กิโลเมตร กว้าง 5 – 11 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 4,626.89 ตารางกิโลเมตร ซึ่งรวมถึงพื้นที่ทางทะเลและพื้นที่เกาะ

แล้วนำท่านชม แหลมฟูเกิลฮูเก้น (Fuglehuken) หรือ bird hook เป็นแหลมที่อยู่ปลายสุดทางเหนือของเกาะปริ้นคาร์ลฟอร์แลนด์ จุดเด่นคือมีภูเขา Fuglehukfjellet ซึ่งมีความสูงประมาณ 583 เมตร นอกจากนี้ยังเคยเป็นที่ตั้งของศูนย์วิทยุ ในปี ค.ศ. 1946

เป็นจุดที่มีนกอาศัยอยู่บริเวณผา ให้ท่านได้ชมนกหลายหลายชนิดที่อาศัยอยู่บนเกาะ หากอากาศดีท่านอาจได้พบเห็น กวางเรนเดียร์ แมวน้ำและหมีขาวในบริเวณนี้เช่นกัน

จากนั้น นำท่านลงเรือเล็กหรือ Zodiac เดินทางสู่ แหลมพูลิแฟงเทน (Poolepynten) ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะปริ้นคาร์ลฟอร์แลนด์ มีลักษณะเป็นหาดทรายกว้าง ชมฝูงวอลรัส สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งอาศัยอยู่แถบขั้วโลกเหนือ รูปร่างคล้ายสิงโตทะเล แต่ตัวใหญ่กว่ามากและมีเขี้ยวยาว วอลรัสเพศผู้โตเต็มวัยอาจมีน้ำหนักได้มากถึง 2,000 กิโลกรัม และมีอายุยืนถึง 20 – 30 ปี

วอลรัสมีความสำคัญต่อชนพื้นเมืองที่อาศัยในเขตอาร์กติก การล่าวอลรัสในช่วงศตวรรษที่ 19 -20 ส่งผลให้จำนวนวอลรัสลดลง

อาหารกลางวันและอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือ

พักค้างแรมบนเรือ M/V Plancius

วันที่สิบ 3 กรกฎาคม 2562
ล่องเรือ M/V Plancius – กลับสู่ลองเยียร์เบียน – ออสโล

เช้า อาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือ

เรือ M/V Plancius นำท่านเดินทางถึง ลองเยียร์เบียน หมู่เกาะสวาลบาร์ด ประเทศนอร์เวย์

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยาน ลองเยียร์เบียน หมู่เกาะสวาลบาร์ด ประเทศนอร์เวย์

อาหารกลางวัน ตามอัธยาศัย ณ ท่าอากาศยาน ลองเยียร์เบียน

13.35 น.โดยสายการบินสแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SK4491 นำท่านเหินฟ้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติ กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์

16.30 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติ กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ จากนั้น อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย

ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

พักค้างแรม ณ โรงแรม RADISSON BLU AIRPORT HOTEL OSLO GARDEMOEN หรือในระดับเดียวกัน

วันที่สิบเอ็ด 4 กรกฎาคม 2562
ออสโล – กรุงเทพฯ

เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติ กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย จนถึงเวลานัดหมาย

อาหารกลางวัน ตามอัธยาศัย ณ ท่าอากาศยานนานาชาติ กรุงออสโล

14.15 น.โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG955 นำท่านเหินฟ้าสู่ท่าอากาศยาน กรุงเทพฯ

อาหารค่ำ บริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม

พักค้างแรมบนเครื่องบิน

พักค้างแรม ณ โรงแรม RADISSON BLU AIRPORT HOTEL OSLO GARDEMOEN หรือในระดับเดียวกัน

วันที่สิบสอง 5 กรกฎาคม 2562
กรุงเทพฯ

06.20  ถึงท่าอากาศยานกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ

Comments

comments