ดาวน์โหลดโปรแกรมการเดินทาง

ส่งท้าย ฤดูใบไม้ร่วง พร้อมเข้าสู่ ต้นฤดูหนาว

ณ แคว้นทัสคานี ดินแดนแห่งไวน์ชื่อดัง

พาท่านย้อนกลับไปสัมผัสกับวิถีชีวิตในอดีตช่วงยุคเรอเนสซองส์ 

พร้อมต้อนรับประสบการณ์ขึ้นบอลลูนที่คุณจะประทับใจไปชั่วชีวิต

วันแรก พฤ. 1 พ.ย. 61 
กรุงเทพฯ – อิตาลี

21.00 น. พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณชั้นผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 2 เคาน์เตอร์ สายการบินไทย เคาน์เตอร์เช็คอินแถว D

เจ้าหน้าที่ เวิลด์ เซอร์ไพร้ส รอต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวก

00.01 น. โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG944 นำท่านเหินฟ้าสู่ กรุงโรม ประเทศอิตาลี

อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม

พักค้างแรมบนเครื่องบิน

วันที่สอง ศ. 2 พ.ย. 61 
โรม – เปียนซา – มอนเตปุลชิอาโน –  เปียซซ่า กรานเด – ชิมไวน์ – คาสเทลโล เดล เนโร

05.55 น. ถึงท่าอากาศยานฟุมิชิโน กรุงโรม ประเทศอิตาลี หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรแล้ว นำท่านเดินทางสู่ เปียนซา หนึ่งในหมู่บ้านเล็กๆ ทางตอนใต้ของแคว้นทัสคานี ในหุบเขา Val d’Orcia ตั้งอยู่ระหว่างเมือง มอนตาลชิโน กับ มอนเตปุลชิอาโน

เช้า อาหารเช้าบริการบนเครื่องบิน พร้อมเครื่องดื่ม

แล้วนำท่านชมเมืองแห่งนี้ที่จะพาท่านย้อนกลับไปสัมผัสกับวิถีชีวิตในอดีตช่วงยุคเรอเนสซองส์ นอกจากนี้ เปียนซา ยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ต่างๆ อาทิเช่น Romeo and Juliet (1968) , The English Patient (1996)

กลางวัน  อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ มอนเตปุลชิอาโน เมืองบนเขาที่ใหญ่ที่สุด และตั้งอยู่บนภูเขาที่สูงที่สุดทางใต้ของแคว้นทัสคานี สูงจากระดับน้ำทะเล 605 เมตร บ้านเรือนสร้างอยู่บนแนวสันหินปูนแคบ ๆ ให้ท่านเพลิดเพลินกับการชมทัศนียภาพของชนบทในแคว้นทัสคานี อีกทั้งเมืองนี้ยังเป็นเมืองที่ผลิตไวน์ชื่อดัง อาทิเช่น Vino Nobile di Montepulciano และ Rosso di Montepulciano ซึ่งต่อมานักเขียนกลอนชื่อดังนามว่า Francesco Redi เคยกล่าวถึงไวน์ที่นี่ว่าเป็น “The king of all wines”

แล้วนำท่านชมจัตุรัสกลางเมือง เปียซซ่า กรานเด ซึ่งเป็นจตุรัสกลางเมืองที่มีความงดงามมาก จนกลายเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เมืองนี้ถูกขนานนามว่าเมืองไข่มุกแห่งศตวรรษที่ 17 และเป็นศูนย์กลางของศิลปะทัสคาน-เรอเนสซองส์

พิเศษ!!! ให้ท่านได้ลิ้มลองรสชาติของไวน์องุ่น และเลือกซื้อไวน์เป็นของฝากกลับ

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ที่พัก

ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม Castello del Nero หรือระดับเดียวกัน

วันที่สาม ส. 3 พ.ย. 61 
ขึ้นบอลลูนชมพระอาทิตย์ทอแสงยามเช้า – คาสเทลโล เดล เนโร – ซาน จิมินญาโน – ชิมเจลาโต้ – คาสเทลโล เดล เนโร


ขึ้นบอลลูนชมพระอาทิตย์ทอแสงยามเช้า

05.45 น. นำท่านออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ จุดปล่อยบอลลูนในแคว้นทัสคานี เพื่อนำท่านสัมผัสประสบการณ์อันน่าประทับใจไปกับการ ขึ้นบอลลูนชมพระอาทิตย์ทอแสงยามเช้า ที่ปลายขอบฟ้า ณ ดินแดนประเทศอิตาลีแห่งนี้

06.00 น. จากนั้น คณะนักบินและพนักงานผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทบอลลูนรอต้อนรับพร้อมอธิบายรายละเอียดต่างๆที่จำเป็นจะต้องทราบเกี่ยวกับการขึ้นบอลลูน พร้อมชมการสาธิตขั้นตอน

ต่าง ๆ โดยละเอียด แล้วให้ทุกท่านได้สัมผัสประสบการณ์อันน่าประทับใจที่จะทำให้ท่านจดจำไปชั่วชีวิต กับการล่องลอยขึ้นเหนือฟากฟ้าแคว้นทัสคานี ซึ่งมีธรรมชาติอันแสนพิสุทธิ์บวกกับสายลมแผ่วพลิ้วเย็นสบายในยามเช้า รับอรุณกับวันใหม่เหนือแสงอาทิตย์สีสันสดใสที่รอคอยมอบความสุขให้แก่ท่านไปนานแสนนาน (รวมระยะเวลาที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าประมาณ 1 ชั่วโมง)

หมายเหตุ : ภาพประกอบเพื่อการโฆษณาเท่านั้น และ การขึ้นบอลลูนขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ณ วันนั้นๆ

08.00 น. อาหารเช้า บริเวณลานปล่อยบอลลูน

จากนั้น นำท่านเดินทางกลับสู่ที่พัก

อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ ซาน จิมินญาโน เมืองเล็ก ๆ ตั้งอยู่บนเนินเล็ก ๆ ของหุบเขาเอลซา ที่มีมากว่า 300 ปีก่อนคริสต์ศักราช เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาที่ล้อมรอบด้วยกำแพง เมืองโบราณ และยังเป็นเมืองแห่งสุดยอดสถาปัตยกรรมของยุคกลาง โดยเฉพาะหอคอยสูงตระหง่าน 14 หอ ที่สามารถมองเห็นได้แม้อยู่ห่างจากตัวเมืองหลายกิโลเมตร เป็นเมืองเดียวในอิตาลีที่สามารถอนุรักษ์สิ่งก่อสร้างและสถาปัตยกรรมยุคกลางไว้ได้อย่างครบถ้วนจน และเมืองเก่านี้ได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกของ UNESCO ในปี ค.ศ. 1990

กลางวัน อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร พิเศษ นำท่านชิม เจลาโต้ ไอศกรีมโฮมเมดที่มีจุดกำเนิดมาอย่างยาวนานในอิตาลี โดยจุดเด่นที่ทำให้เจลาโต้แตกต่างจากไอศกรีมทั่วไป คือ ปริมาณอากาศที่เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องปั่นไอศกรีมกำลังปั่นส่วนผสมนั้นมีน้อยกว่าไอศกรีมทั่วๆไป ซึ่งข้อแตกต่างนี้ จึงทำให้เจลาโต้นั้นแตกต่างจากไอศกรีมทั่วไปอย่างชัดเจน มีรสชาติที่เข้มข้น เนียนนุ่มและละมุนลิ้น

จากนั้น อิสระให้ท่านเดินเล่นภายในเมืองจนถึงเวลานัดหมาย

ได้เวลานัดหมาย นำท่านเดินทางสู่ภัตตาคาร

ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม Castello del Nero หรือระดับเดียวกัน

วันที่สี่ อา. 4 พ.ย. 61 
คาสเทลโล เดล เนโร – กิจกรรมตามหาเห็ดทรัฟเฟิล 

เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเปิดประสบการณ์ในการตามหาเห็ดทรัฟเฟิล สุดยอดของอาหารประเภทเครื่องปรุงจนได้รับฉายาว่าเป็น Diamond of the Kitchen มีรสจัดและกลิ่นหอมเฉพาะตัว

สัมผัสเสน่ห์ของการออกตามหาเห็ดทรัฟเฟิล ประเพณีอันเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นโดยมีแคว้นทัสคานีเป็นศูนย์กลางของการเก็บเกี่ยวเห็ดทรัฟเฟิล

ท่านจะได้ออกตามหาเห็ดไปพร้อมๆ กับสุนัขแสนรู้ ที่จะเป็นผู้นำทาง พร้อมเรียนรู้ขั้นตอนในการออกหาเห็ด ไปจนถึงวงจรชีวิตของเห็ดทรัฟเฟิล

กลางวัน ให้ท่านได้ลิ้มลองอาหารท้องถิ่น โดยมีเห็ดทรัฟเฟิลอันเลื่องชื่อ ที่เราเก็บกันมาแบบสดๆ เป็นวัตถุดิบในการปรุงแต่งอาหาร

หลังอาหาร นำท่านเดินทางกลับสู่ที่พัก

อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย

ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม Castello del Nero หรือระดับเดียวกัน

วันที่ห้า จ. 5 พ.ย. 61 
คาสเทลโล เดล เนโร – มาราเนลโล – พิพิธภัณฑ์เฟอร์รารี่
Option : ขับรถ Super Car – ฟิเดนซ่า วิลเลจ – ปาร์มา

เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ มาราเนลโล เมืองปริมณฑลของโมเดน่า เป็นที่ตั้งของโรงงานเฟอร์รารี่ในปัจจุบัน หลังจากที่ย้ายฐานการผลิตจากโมเดน่าในสมัย ค.ศ. 1940 เมืองนี้ก็ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น เมืองแห่งเฟอร์รารี่ เนื่องจากทั้งโรงงานการผลิต และที่ทำการทีม Scuderia Ferrari Formula One Racing ก็ได้อยู่ที่นี่

นำท่านชม พิพิธภัณฑ์เฟอร์รารี่ พิพิธภัณฑ์ที่รองรับนักท่องเที่ยวกว่า 200,000 คนจากทุกมุมโลกต่อปี ด้านในเป็นที่รวบรวมเรื่องราวความเป็นมาของยนตกรรมสุดหรู ชมเฟอร์รารี่รุ่นต่างๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่ถูกจัดแสดงแยกไปตามรุ่นของรถ เช่น Formula One, Sport & Sport Prototype cars, Granturismo เป็นต้น รวมไปถึงห้องจัดแสดงถ้วยรางวัล World Champion Racers กว่า 110 ถ้วยรางวัล

กลางวัน  อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

Option: ทดลองขับรถ Super Car ระยะเวลา 10 นาที (โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)

หมายเหตุ:

1) การทดลองขับรถ Super Car ผู้ขับจำเป็นต้องมีใบอนุญาตขับขี่พาหนะในต่างประเทศ

2) หากท่านประสงค์ในการขับรถ Super Car กรุณาแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนออกเดินทาง

(หากไม่มีท่านใดประสงค์ทดลองขับรถ Super Car หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ฟิเดนซ่า วิลเลจ)

 

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ ฟิเดนซ่า วิลเลจ ซึ่งมีร้านค้ามากมายให้ท่านได้เลือกชมกว่า 100 ร้านค้า เช่น Armani Diesel, Camper, Polo Ralph Lauren, Versace และ

อื่น ๆ อีกมากมาย ท่านสามารถสนุกสนานกับการจับจ่ายสินค้ามากมายไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้าบุรุษ เสื้อผ้าสตรี อุปกรณ์กีฬา ของใช้ภายในบ้าน และอื่น ๆ อีกมายมาย ซึ่งเป็นแบรนด์ดัง ๆ มีชื่อเสียง ในราคาลดพิเศษสุด ตั้งแต่ 30 – 70% อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

ค่ำ อาหารค่ำอิสระตามอัธยาศัยภายในเอาท์เล็ต

ท่านสามารถเลือกทานอาหารจากร้านที่ท่านชื่นชอบได้ตามอัธยาศัย ซึ่งทางบริษัทฯ จัดเตรียมค่าอาหารให้ท่านละ 20 ยูโร

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ที่พัก

พักค้างแรม ณ โรงแรม Starshotel Du Parc หรือระดับเดียวกัน

วันที่หก อ. 6 พ.ย. 61 
ปาร์มา – มิลาน – แกลเลอเรีย วิคตอริโอ เอมมานูเอลที่ 2

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ มิลาน นครที่มีชื่อทางด้านอุตสาหกรรม และเมืองใหญ่อันดับสองของอิตาลี ให้ท่านชมธรรมชาติที่งดงามตามเส้นทางจนกระทั่งถึงมิลาน เมืองที่เป็นศูนย์กลางทางด้านธุรกิจการค้าและแฟชั่นเช้า  อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

กลางวัน อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านช้อปปิ้งที่ แกลเลอเรีย วิคตอริโอ เอมมานูเอลที่ 2 ซึ่งเป็นย่านช้อปปิ้งอาเขตที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 12 ปี เพื่อให้เป็นห้องรับแขกแห่งเมืองมิลานเป็นอาคารหลังแรก ๆ ของยุโรปที่ใช้โครงเหล็กในการก่อสร้าง พื้นตกแต่งด้วยโมเสกเป็นรูปทวีปต่าง ๆ อาคารอย่างมีรสนิยมโดยสถาปนิกชื่อดังของอิตาลี Giuseppe Mengoni

หรือ ที่ห้าง La Rinascente ห้างชื่อดังสุดคลาสสิกอยู่ไม่ไกลนักจากมหาวิหารดูโอโม่ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ในปีค.ศ. 2011 บริษัทห้างชื่อดังยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย Central Retail Corporation หรือที่รู้จักกันในนามของห้างเซ็นทรัล ได้ซื้อต่อห้างแห่งนี้ที่มีอายุกว่า 150 ปี และกลายเป็นผู้ถือหุ้น 100 เปอร์เซ็นต์อย่างสมบูรณ์

หรือ ณ ถนนสายแฟชั่นที่ทุกท่านไม่ควรพลาด Via Montenapoleone แหล่งรวมสินค้าแบรนด์ดังของอิตาลีไม่ว่าจะเป็น Salvatore, Ferragamo, Valentino, Giorgio, Armani เรื่อยไปจนถึง Prada หรือ Gucci เป็นต้น อิสระให้ท่านได้สนุกสนานกับการช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์ดังรุ่นใหม่ ๆ ตามอัธยาศัย

ค่ำ  อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม Me Melia Duca หรือระดับเดียวกัน

วันที่เจ็ด พ. 7 พ.ย. 61 
มิลาน – ท่าอากาศยานมาลเพนซ่า

เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานมาลเพนซ่า

กลางวัน  อิสระตามอัธยาศัยภายในท่าอากาศยาน

13.05 น. โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG941 นำท่านเหินฟ้าสู่ กรุงเทพฯ

อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม

พักค้างแรมบนเครื่องบิน

วันที่แปด พฤ. 8 พ.ย. 61 
กรุงเทพฯ

 

05.55 น. ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ

เช้า อาหารเช้าบริการบนเครื่องบิน พร้อมเครื่องดื่ม

Comments

comments