Explore 360° Northern Light in Lofoten

ประเทศ : นอร์เวย์ / เมือง : เล็กเนส, สโวแวร์ม,เรเน่, ทรอมโซ่, คีร์คิเนส

โดยสายการบินไทย (TG)
27 ก.พ. - 7 มี.ค. 2563 (10 วัน)

ขี่ม้าล่าแสงเหนือที่นอร์เวย์ ณ โลโฟเทน เกาะสวรรค์ของคนรักทะเล

  • “หมู่เกาะโลโฟเทน” (Lofoten Island) เป็นถิ่นเก่าแก่ของไวกิ้งและหมู่บ้านชาวประมง ธรรมชาติตระการตา
  • พลาดไม่ได้! ต้องลองชิมปลาค็อดลอฟโฟเทน แสนอร่อยที่โด่งดังไปทั่วประเทศนอร์เวย์
  • เดินเที่ยว “พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง” (Lofotr Viking Museum) เยือนเมือง “สโวแวร์” (Svolvær) ล่องเรือชมนกอินทรีทะเล
  • เฮนนิ่งแสวร์” (Henningsvaer) เมืองท่าและหมู่บ้านชาวประมงที่ได้ชื่อว่าเป็น Venice Of Lofoten
 


โปรแกรมท่องเที่ยวตามวัน-เวลา

วันแรก 5 มี.ค. 63  
กรุงเทพฯ

21.30 น. พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณชั้นผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 2

เคาน์เตอร์สายการบินไทย เคาน์เตอร์เช็คอิน แถว D

เจ้าหน้าที่เวิลด์ เซอร์ไพร้ส รอต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวก

00.20 น. โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG954 นำท่านเหิรฟ้าสู่ กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์

อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม

 

วันที่สอง 6 มี.ค.  63  
ออสโล – โบโด – เล็กเนส – พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง – สตามซุนด์

เช้า อาหารเช้า บริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม

06.50 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติ กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง

และศุลกากรพร้อมตรวจเช็คสัมภาระ แล้วนำท่าน ทำการเช็คอินและโหลดกระเป๋าสำหรับต่อเครื่องบินภายในประเทศ

10.40 น. โดยสายการบินสแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SK4106 นำท่านเหินฟ้าสู่ท่าอากาศยาน โบโด

12.10 น. ถึงท่าอากาศยาน โบโด แวะพักเพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง

12.40 น. โดยสายการบินไวเดอร์โร เที่ยวบินที่ WF810 นำท่านเหินฟ้าสู่ท่าอากาศยาน เล็กเนส

13.05 น. ถึงท่าอากาศยานเล็กเนส หมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten Island) เกาะสวรรค์ของคนรักทะเล ซึ่งมีหมู่บ้านชาวประมง ธรรมชาติตระการตา และเป็นสวรรค์ของนักตกปลา

เกาะลอฟโฟเทนตั้งอยู่ทางตอนเหนือ ของประเทศนอร์เวย์ บริเวณเหนือเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล เป็นถิ่นเก่าแก่ของไวกิ้ง มีอากาศดีด้วยกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีมที่ไหลผ่าน

มีเกาะสำคัญ คือ เอาสโตไก (Austvågøya)  อิมไซ (Gimsøy) เวสโตไก (Vestvågøya) ฟลอคสตอได (Flakstadøy)  มุสเคอ เนสเซอยา (Moskenesøya) วาไร (Værøy) และโรสต์ (Røst) โดยมีเมืองสำคัญคือ สโววาร์ (Svolvær) เป็นศูนย์กลางการประมงและการค้ามาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17

ซึ่งหากมาถึงที่เกาะ ลอฟโฟเทนแห่งนี้แล้ว อย่าพลาดชิมปลาค็อด ลอฟโฟเทน ที่อร่อยและโด่งดังไปทั่วประเทศ นอร์เวย์ แล้วนำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง (Lofotr Viking Museum)

กลางวัน  อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่นของชาวไวกิ้ง

หลังอาหาร นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง เนื่องจากบริเวณหมู่เกาะลอฟโฟเทน มีการค้นพบว่า เป็นที่ตั้งของชุมชนชาวไวกิ้งในอดีต บนเกาะจึงมีการก่อตั้ง พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง เพื่อแสดงเรื่องราวและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ของชาวไวกิ้งที่จัดแสดงไว้อย่างมากมาย

ซึ่งรูปแบบพิพิธภัณฑ์ ถูกออกแบบโดยใช้โครงเรือไวกิ้งโบราณและภายในได้จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้และเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวไวกิ้งในอดีต แล้วอิสระให้ท่านชมพิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง และถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ตามอัธยาศัย จนถึงเวลานัดหมาย

 

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่โรงแรม

ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม Live Lofoten หรือในระดับเดียวกัน

วันที่สาม 7 มี.ค. 63  

สตามซุนด์ – สโวแวร์ – ล่องเรือชมนกอินทรีทะเล –  เฮนนิ่งแสวร์ – สตามซุนด์

 

เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ สโวแวร์ (Svolvær) เมืองศูนย์กลาง เขตชุมชน Vågan ตั้งอยู่บนโค้งอ่าวทางใต้สุดของเกาะเอาสโตไก (Austvågøya) นำท่านล่องเรือ เพื่อชมนกอินทรีทะเลและให้อาหาร โดยในหมู่เกาะลอฟโฟเทนนี้ มีนกอินทรีทะเลสีขาวเป็นสายพันธุ์ ที่พบมากที่สุด แต่ถ้าโชคดีท่านอาจได้เห็นนกอินทรีสีทองขนาดเล็กที่หาชมได้ยาก

 

 

กลางวัน อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ เฮนนิ่งแสวร์ (Henningsvaer) เมืองท่าและหมู่บ้านชาวประมงที่ปัจจุบันชาวบ้านยังคงทำประมงกัน อย่างคึกคัก ซึ่ง เป็นอีกเมืองยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต่างพากันมา แวะเวียน และยังได้ชื่อว่าเป็น Venice Of Lofoten

ซึ่งจุดเด่นของเมืองนี้ คือ บ้านชาวประมงสีแดง (Rorbuer) ตั้งอยู่ริมทะเลและมีอ่าวจอด เรือประมงเรียงรายอยู่มากมาย  เป็นภาพที่สวยงามตัดกับวิวภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะในช่วงฤดูหนาวถือเป็นภาพที่สวยงามไม่น้อย อิสระให้ท่านเดินเล่น เก็บภาพบรรยากาศตามอัธยาศัย

 

 

ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

หลังอาหารค่ำ นำท่านเปิดประสบการณ์ ขี่ม้าพันธุ์ไอซ์แลนด์ล่าแสงเหนือ บริเวณชายหาด

ซึ่ง แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเฉพาะดินแดนที่อยู่เหนือเส้นอาร์คติกเซอร์เคิล หรือ ในเขตขั้วโลกเหนือ อันเป็นประสบการณ์ ที่ไม่รู้ลืม

**หมายเหตุ : การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้ โอกาสที่จะได้เห็น ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสำคัญ

 

 

พักค้างแรม ณ โรงแรม Live Lofoten หรือในระดับเดียวกัน

วันที่สี่ 8 มี.ค. 63  

สตามซุนด์ – หมู่บ้าน Å – หมู่บ้านเรนเน่  – หาดแรมเบิร์จ – สตามซุนด์

 

เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ตอนใต้ ของเกาะที่เมืองมอคคาเนส อันเป็นที่ตั้งของหมู่บ้าน Å นำท่านชมหมู่บ้าน Å  ที่ได้ ชื่อว่าเป็นหมู่บ้าน ที่สวยที่สุดบนหมู่เกาะลอฟโฟเทน และเป็นจุดสิ้นสุดของถนนสายหลัก E10 ถนน King Olav’s ถนนหลวงสายหลักสายเดียวของหมู่เกาะ ลอฟโฟเทน

 

 

กลางวัน อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านชาวประมงเรนเน่ (Reine) บนเกาะมุสเคอเนสเซอยา (Moskenesøya) ซึ่งอยู่ทางใต้ของหมู่เกาะ ลอฟโฟเทน อันได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่มี  Landscape ในการถ่ายภาพวิว ธรรมชาติที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของหมู่เกาะลอฟโฟเทน

ระหว่างทาง แวะเก็บภาพสวยๆที่ สะพาน Hammroey bridge แล้วนำท่านแวะ ถ่ายภาพที่ หาดแรมเบิร์จ ซึ่งความงามของหาดทรายสีขาวที่มีน้ำทะเลสีฟ้า และภูเขาที่สวยงามเป็นฉากหลัง

 

 

ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก

พักค้างแรม ณ โรงแรม Live Lofoten หรือในระดับเดียวกัน

วันที่ห้า 9 มี.ค. 63  
สตามซุนด์ – หาด Uttakleiv – หาด Haukland – ช้อปปิ้งที่ Lofotsenteret – ท่าอากาศยานเล็กเนส – ท่าอากาศยานทรอมโซ – ทรอมโซ

 

เช้า  อาหารเช้า ณ ภัตตาคาร ภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านชมความสวยงามของหาด Uttakleiv เป็นหนึ่งในชายหาดที่เหมาะกับการถ่ายภาพแบบ Sea Scape มากที่สุดในหมู่เกาะลอฟโฟเทน แล้ว นำท่านชมหาด Haukland ที่อยู่ติดกับ หาด Uttakleiv เพียงคั่นด้วยภูเขาและอุโมงค์

ชายหาดแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น “Lofoten’s Most Scenic Beaches”  ในฤดูร้อนจะเห็นชายหาดแห่งนี้จะมีทรายขาวและน้ำทะเลสีฟ้าใสที่เงียบสงบ นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมวิวที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งหนึ่งในการชมพระอาทิตย์ขึ้น หรือพระอาทิตย์ตก

 

 

แล้วนำท่านเดินทางสู่แหล่งช้อปปิ้งของชาวโลโฟเทนที่ Lofotsenteret ให้ท่านอิสระเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัยจนถึงเวลานัดหมาย

 

 

ได้เวลานัดหมาย นำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยานเล็กเนส

18.10 น. โดยสายการบินไวเดอร์โร เที่ยวบินที่ WF816 นำท่านเหินฟ้าสู่ท่าอากาศยานทรอมโซ

19.00 น. ถึงท่าอากาศยานทรอมโซ เมืองทรอมโซ

หลังรับสัมภาระและตรวจเช็คเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางสู่ ทรอมโซ (Tromsø) เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนเกาะกลาง ทะเลทางเหนือของนอร์เวย์  มีหิมะปกคลุม ภูเขาลูกใหญ่ที่โอบล้อมเมืองเอาไว้ราวกับป้อมปราการ มีสะพานทอดยาวระหว่างเกาะ ไปยังแผ่นดินใหญ่ เมืองที่ผู้คนมีความน่ารักและมีมิตรไมตรี คอยหยิบยื่นให้กับผู้ไปเยือน

ค่ำ อาหารค่ำ  ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม Radisson Blu หรือในระดับเดียวกัน

 

วันที่หก 10 มี.ค. 63  
ทรอมโซ – Lyngsfjord Adventure – ทรอมโซ – มหาวิหารอาร์คติก

 

เช้า  อาหารเช้า ณ ภัตตาคาร ภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ Lyngsfjord Adventure ให้ท่านสัมผัสประสบการณ์บนหิมะ

โดยท่านสามารถเลือกทำกิจกรรม 1 ใน 3  กิจกรรมต่อท่าน

Option 1  การขับสโนว์โมบิล (Snowmobile safari) (ใช้เวลาประมาณ 2 – 2.30 ชั่วโมง)

นำท่านทำกิจกรรมสุดประทับใจ กิจกรรมอันดับหนึ่ง ของการท่องเที่ยว แบบตะลยุหิมะ กับการขับสโนว์โมบิล (Snowmobile safari) โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ และชำนาญ เส้นทางในการเดินทาง ให้คำแนะนำในการขับขี่ และดูแลระหว่างการเดินทาง โดยทางบริษัทฯ จะมีการจัดเตรียมเครื่องกันหนาวให้ท่านอย่างครบถ้วนตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า (ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร)

**หมายเหตุ: ท่านใดมีความประสงค์ขับรถสโนว์โมบิล กรุณานำ ใบขับขี่รถยนต์สากลติดตัวไปด้วย

 

Option 2 การขับเคลื่อนสุนัขลากเลื่อน (Dog sledding) (ใช้เวลาประมาณ 1.30 – 2 ชั่วโมง)

นำท่านเปิดประสบการณ์ ด้วย การขับเคลื่อน สุนัขลากเลื่อน (Dog sledding) ฮัสกี้เป็นสุนัขที่ถูกใช้ในการลากเลื่อน บรรทุกสิ่งของหรือใช้ลากพาหนะในพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะมาตลอด ฮัสกี้เป็นสุนัขลากเลื่อนพันธุ์แท้ที่มีประสิทธิภาพในการลากเลื่อน สูงสุด โดยมีความอดทนต่ออุณหภูมิต่ำและหนาวเย็นได้เป็นอย่างดีเยี่ยม (ระยะทางประมาณ 10-12 กิโลเมตร)

 

option 3 การนั่งเลื่อนกวางเรนเดียร์ (Reindeer Sledding) (ใช้เวลาประมาณ 2 – 2.30 ชั่วโมง)  

ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นพาหนะของซานตาคลอสในวันคริสต์มาส ซึ่งท่านสามารถสัมผัสประสบการณ์แบบนี้ได้ในเขตแลปแลนด์เท่านั้น จากนั้นอิสระให้ท่านพักผ่อนและชมวิวทิวทัศน์ ซึ่งปกคลุมไปด้วยหิมะอันขาวโพลนสุดหูสุดตาได้ตามอัธยาศัย

 

กลางวัน  อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านเดินทางกลับสู่ตัวเมืองทรอมโซ นำท่านชมย่านใจกลางเมือง ให้ท่านได้ชื่นชมความงดงามของสถาปัตยกรรมที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมโดยเฉพาะเหล่าอาคารบ้านไม้เก่าแก่ที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันสดใส

 

 

แล้ว นำท่านชมมหาวิหารอาร์คติก แลนด์มาร์คสำคัญของทรอมโซ มหาวิหารที่สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ สร้างขึ้นในปี 1965 มีโครงสร้างที่โดดเด่น ซึ่งได้แรงบันดาลใจในการสร้างมาจากสภาพภูมิทัศน์ในแถบภาคเหนือของนอร์เวย์

 

 

ค่ำ อาหารค่ำ  ณ ภัตตาคาร

หลังอาหารค่ำ ให้ท่านได้เปิดประสบการณ์ชมแสงเหนือ โดยเรือเดินสมุทร ท่านจะได้สัมผัสอีกหนึ่งประสบการณ์ในการนั่งเรือล่าแสงเหนือกลางทะเล ระหว่างล่องเรือท่านจะได้เห็นเมืองทรอมโซในอีกมุมมองหนึ่ง ซึ่งทรอมโซเป็นเมืองสวย ชื่อดังของนอร์เวย์ เป็นส่วนหนึ่งของแลปป์แลนด์ และเป็นจุดยอดนิยม อีกแห่งหนึ่งในการล่าแสงเหนือ เพราะมีพิกัดอยู่ตรงเส้นอาร์กติก และเป็นหนึ่งในเมืองวงแหวนแสงเหนือของโลก

 

**หมายเหตุ : การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้ โอกาสที่จะได้เห็น ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสำคัญ

 

 

พักค้างแรม ณ โรงแรม Radisson Blu หรือในระดับเดียวกัน

วันที่เจ็ด 11 มี.ค. 63  
ทรอมโซ – คีร์คิเนส – จับปูยักษ์ที่ King crab safari

 

เช้า  อาหารเช้า ณ ภัตตาคาร ภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยาน ทรอมโซ

10.15 น. โดยสายการบินไวเดอร์โร เที่ยวบินที่ WF914 นำท่านเหินฟ้าสู่ท่าอากาศยาน คีร์คิเนส

11.25 น. ถึงท่าอากาศยานคีร์คิเนส เมืองคีร์คิเนส (Kirkenes) เป็นเมืองทำเหมืองเหล็กเล็กๆ ตั้งอยู่บนคาบสมุทรสุดฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศนอร์เวย์ เมืองแห่งนี้ จะคึกคักเป็นพิเศษในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากในฤดูหนาว อากาศจะเย็นจนถึงจุดเยือกแข็ง โดยท่านสามารถพักที่โรงแรมหิมะ ตกปลาในน้ำแข็ง หรือชมแสงเหนือที่สวยงาม น่าอัศจรรย์ใจ กระทบไหล่ลูกทีมลุงซานต้าได้ที่สวนซาฟารีแกบบ้าเรนเดียร์ นั่งรถลากด้วยสุนัขสุดระทึก หรือลิ้มรสปูยักษ์สดๆ ซึ่งเป็นอาหาร พื้นเมืองสุดพิเศษ ของเมืองคีร์คิเนส

กลางวัน ให้ท่านสนุกกับกิจกรรมชมการสาธิตการจับปูยักษ์ที่ King crab safari และการรับประทานปูยักษ์ (King crab) ซึ่งปูยักษ์บางตัวจะมีขนาด ความยาวถึง 2 เมตร และมีน้ำหนักถึง 10 กก.

ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับปูยักษ์ พร้อมรับประทานอาหารกลางวัน ด้วยเมนูอาหารปรุงพิเศษจากเนื้อปูยักษ์ แบบสดๆ

 

 

ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรม

พักค้างแรม ณ โรงแรม Kirkines Snow  หรือในระดับเดียวกัน

 

วันที่แปด 12 มี.ค. 63  
คีร์คิเนส –  ออสโล – สวนประติมากรรมวิกเกอร์แลนด์

 

เช้า  อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยาน คีร์คิเนส

กลางวัน อาหารกลางวันอิสระตามอัธยาศัยภายในท่าอากาศยาน

โดยท่านสามารถเลือกทานอาหารจากร้านที่ท่านชื่นชอบได้ตามอัธยาศัย ซึ่งทางบริษัทฯ จัดเตรียมค่าอาหารให้ท่านละ 30 Euro

 

11.30 น. โดยสายการบินสแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SK4473 นำท่านเหินฟ้าสู่ท่าอากาศยาน ออสโล

13.40 น. ถึงท่าอากาศยานออสโล เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์  เมืองสวยในเขตชายฝั่งทะเลแบบฟยอร์ดของยุโรปเหนือ ที่มีบรรยากาศงดงามด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยที่มีอยู่มากมาย หลังพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร พร้อมตรวจเช็คสัมภาระ

นำท่านเดินทางสู่ สวนประติมากรรมวิกเกอร์แลนด์ ความพิเศษของสวนแห่งนี้อยู่ที่ผลงานศิลปะประติมากรรม การแกะสลักรูปเหมือนจากหินแกรนิต และการหล่อรูปคนด้วยสำริด ในเรื่องราวเกี่ยวกับวัฏจักรชีวิตมนุษย์ เป็นผลงานของกุสตาฟ วิกเกอร์แลนด์ ปฏิมากรชาวนอร์เวย์ชื่อดัง อีกทั้งสวนนี้ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นสวนประติมากรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก

 

 

จากนั้น นำท่านช้อปปิ้งบริเวณย่านช้อปปิ้งที่เลื่องชื่อของเมืองออสโล สินค้าของฝากที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวคือ เครื่องครัว พวงกุญแจ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม สินค้าและของที่ระลึกต่าง ๆ ที่ขายกันในประเทศนี้จะมีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากนอร์เวย์เป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร

 

ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม Radisson Blu Plaza หรือในระดับเดียวกัน

วันที่เก้า 13 มี.ค. 63  
ออสโล – กรุงเทพฯ

เช้า  อาหารเช้า ณ ภัตตาคาร ภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยาน ทรอมโซ

10.15 น. โดยสายการบินไวเดอร์โร เที่ยวบินที่ WF914 นำท่านเหินฟ้าสู่ท่าอากาศยาน คีร์คิเนส

11.25 น. ถึงท่าอากาศยานคีร์คิเนส เมืองคีร์คิเนส (Kirkenes) เป็นเมืองทำเหมืองเหล็กเล็กๆ ตั้งอยู่บนคาบสมุทรสุดฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศนอร์เวย์ เมืองแห่งนี้ จะคึกคักเป็นพิเศษในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากในฤดูหนาว อากาศจะเย็นจนถึงจุดเยือกแข็ง

โดยท่านสามารถพักที่โรงแรมหิมะ ตกปลาในน้ำแข็ง หรือชมแสงเหนือที่สวยงาม น่าอัศจรรย์ใจ กระทบไหล่ลูกทีมลุงซานต้าได้ที่สวนซาฟารีแกบบ้าเรนเดียร์ นั่งรถลากด้วยสุนัขสุดระทึก หรือลิ้มรสปูยักษ์สดๆ ซึ่งเป็นอาหาร พื้นเมืองสุดพิเศษ ของเมืองคีร์คิเนส

กลางวัน ให้ท่านสนุกกับกิจกรรมชมการสาธิตการจับปูยักษ์ที่ King crab safari และการรับประทานปูยักษ์ (King crab) ซึ่งปูยักษ์บางตัวจะมีขนาด ความยาวถึง 2 เมตร และมีน้ำหนักถึง 10 กก.

ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับปูยักษ์ พร้อมรับประทานอาหารกลางวัน ด้วยเมนูอาหารปรุงพิเศษจากเนื้อปูยักษ์ แบบสดๆ

 

ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรม

พักค้างแรม ณ โรงแรม Kirkines Snow  หรือในระดับเดียวกัน

 

วันที่สิบ 14 มี.ค. 63  
กรุงเทพฯ

เช้า อาหารเช้าบริการบนเครื่องบิน พร้อมเครื่องดื่ม

06.15 น. ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ

  • ทางบริษัท ฯ เป็นตัวแทนในการยื่นเอกสารกับทางสถานทูตเท่านั้น ผลการพิจารณาขึ้นอยู่กับสถานทูตแต่เพียงผู้เดียว
  • ทางบริษัท ฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมการเดินทาง โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ และความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นหลัก
  • ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิเนื่องจากข้อผิดพลาดทางการพิมพ์
  • กรณีไม่สามารถเดินทางได้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง

 

ค่าบริการรวม

  • ตั๋วเครื่องบินรวมภาษีภายในประเทศเส้นทาง ออสโล – โบโด – เล็กเนส – ทรอมโซ – คีร์คิเนส //คีร์คิเนส– ออสโล โดยสายการบินสแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ และ สายการบินไวเดอร์โร (สำหรับเดินทางเป็นหมู่คณะพร้อมกัน)
  • ค่ารถรับส่งตามรายการ
  • ค่าห้องพัก สองท่านต่อหนึ่งห้อง ในโรงแรมที่ระบุ หรือในระดับเดียวกัน
  • ค่าอาหารตามรายการ
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่ายกเว้นคนต่างด้าว
  • ค่าภาษีน้ำมันซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามภาวะตลาดน้ำมันโลกซึ่งประกาศโดยสายการบินทางบริษัทฯ อาจมีการเรียกเก็บเพิ่มหากมีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าสำหรับเที่ยวบินภายใน ท่านละ 2 ใบ น้ำหนักไม่เกินใบละ 20 กิโลกรัม
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ น้ำหนักไม่เกินท่านละ 30 กิโลกรัม
  • ค่าประกันภัยการเดินทางวงเงินท่านละ 1,500,000 บาท
  • ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศ (รวมเจ็บป่วย) วงเงินท่านละ 2,000,000 บาท
  • ค่าทิปคนขับรถและไกด์ท้องถิ่น
  • Internet Sim Card 1 ซิมต่อท่าน
  • หัวหน้าทัวร์ จากกรุงเทพฯ คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง

 

ค่าบริการนี้ไม่รวม

ทางบริษัทฯ อาจมีการเรียกเก็บเพิ่มหากมีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

  • ค่าตั๋วเครื่องบินชั้นทัศนาจรระหว่างประเทศ กรุงเทพฯ – ออสโล / ออสโล – กรุงเทพฯ
  • ค่าภาษีท่าอากาศยาน
  • ค่าภาษีน้ำมัน ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามภาวะตลาดน้ำมันโลกซึ่งประกาศโดยสายการบินทางบริษัทฯ อาจมีการเรียกเก็บเพิ่มหากมีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
  • ค่าขนกระเป๋าโดยสายการบิน
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (คิดคำนวณจากค่าบริการ)
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ทางไกล ค่าเครื่องดื่มนอกรายการ

 

ระเบียบการ และเงื่อนไข:

  • อัตราค่าบริการนี้ใช้สำหรับการเดินทางในช่วงวันที่ 27 กุมภาพันธ์  – 7 มีนาคม  2563 ซึ่งใช้การคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ ปัจจุบัน (วันที่ 7 ตุลาคม 2562) 1 EUR = 33.95 บาท อัตราค่าบริการจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงหากอัตราแลกเปลี่ยนปรับเพิ่มขึ้น หรือลดลงไม่เกิน 25 สตางค์ (ซึ่งยึดถือตามอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นหลัก)
  • บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกหรือเลื่อนหรือเปลี่ยนแปลงกำหนดการเดินทาง กรณีที่มีผู้สำรองการเดินทางไม่ครบตามจำนวนที่บริษัทฯกำหนด
  • บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายใด ๆ อันเกิดจากเหตุสุดวิสัย เช่น อุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ การนัดหยุดงาน การก่อการจลาจล ความล่าช้าของเที่ยวบิน การถูกปฏิเสธไม่ให้ออกหรือเข้าประเทศ เป็นต้น
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนรายการท่องเที่ยวตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะของสายการบิน โรงแรม และสภาวะทางการเมืองโดยถือผลประโยชน์และความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นหลัก

 

การยกเลิก

  • กรณียกเลิกการจองน้อยกว่า 90 วัน ก่อนการเดินทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินมัดจำทั้งหมด
  • กรณีแจ้งยกเลิกภายใน 60 วัน ก่อนการเดินทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคืนค่าทัวร์ 50% ของราคาเต็มเท่านั้น
  • กรณีแจ้งยกเลิกการจองภายใน 45 วัน ก่อนการเดินทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินค่าทัวร์ทั้งหมด

 

หมายเหตุ

  • บริษัทฯรับเฉพาะผู้มีวัตถุประสงค์เดินทางเพื่อท่องเที่ยวเท่านั้น กรณีที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไม่อนุญาตให้ผู้เดินทางออกหรือเข้าประเทศ บริษัทฯไม่สามารถคืนค่าทัวร์ให้
  • ในระหว่างการท่องเที่ยวนี้ หากท่านไม่ใช้บริการใด ๆ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่สามารถขอคืนค่าบริการได้ หากท่านไม่เดินทางกลับพร้อมคณะ ตั๋วเครื่องบินขากลับซึ่งยังไม่ได้ใช้ ไม่สามารถนำมาขอคืนได้

หมายเหตุ

  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับราคา ถ้าจำนวนผู้ใหญ่เดินทางต่ำกว่า 10 ท่าน
  • ทางบริษัท ฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมการเดินทาง โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ และความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นหลัก
  • ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิเนื่องจากข้อผิดพลาดทางการพิมพ์
  • กรณีไม่สามารถเดินทางได้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง

อัตราค่าบริการรวม

  • ค่ารถรับส่งตามรายการ
  • ค่าห้องพัก สองท่านต่อหนึ่งห้อง ในโรงแรมที่ระบุ หรือในระดับเดียวกัน
  • ค่าอาหาร ตามรายการ
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่า ยกเว้นคนต่างด้าว
  • ค่าประกันภัยการเดินทางวงเงินท่านละ 1,500,000 บาท
  • ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ วงเงินท่านละ 2,000,000 บาท
  • หัวหน้าทัวร์จากกรุงเทพฯ คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง

ค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินชั้นทัศนาจรสำหรับสายการบินฟินน์แอร์
  • ค่าภาษีสนามบินทุกแห่ง
  • ค่าภาษีน้ำมัน ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามภาวะตลาดน้ำมันโลกซึ่งประกาศโดยสายการบินทางบริษัทฯ อาจมีการเรียกเก็บเพิ่มหากมีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
  • ค่าขนกระเป๋าท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 23 กิโลกรัม
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (คิดคำนวณจากค่าบริการ)
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่น ๆ เช่น ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ทางไกล ค่าเครื่องดื่ม

ระเบียบการ และเงื่อนไข:

  1. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกหรือเลื่อนหรือเปลี่ยนแปลงกำหนดการเดินทาง กรณีที่มีผู้สำรองการ เดินทางไม่ครบตามจำนวนที่บริษัทฯ กำหนด (10 ท่านขึ้นไป)
  2. การสำรองที่นั่ง: บริษัทฯ ขอรับค่ามัดจำสำหรับการจองท่านละ 80,000 บาท โดยกรุณานำเงินเข้าบัญชีธนาคาร แล้วส่งสำเนาใบนำฝากทางแฟกซ์หมายเลข 0-2634-7365-6 กรณีชำระด้วยเช็ค การจองจะสมบูรณ์ต่อเมื่อเราได้รับเงินจากการสั่งจ่ายนั้นแล้ว ส่วนที่เหลือโปรดชำระให้ครบถ้วนก่อนการเดินทาง อย่างน้อย 30 วัน
  3.  กรุณาชำระค่าทัวร์ส่วนที่เหลือทั้งหมดก่อนการเดินทางอย่างน้อย 30 วัน มิฉะนั้นจะถือว่าสละสิทธิ์
  4. บริษัทฯรับเฉพาะผู้มีวัตถุประสงค์เดินทางเพื่อท่องเที่ยวเท่านั้น กรณีที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไม่อนุญาต ให้ผู้เดินทางออกหรือเข้าประเทศ บริษัทฯไม่สามารถคืนค่าทัวร์ให้
  5. ในระหว่างการท่องเที่ยวนี้ หากท่านไม่ใช้บริการใด ๆ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่สามารถขอคืนค่าบริการได้
  6. หากท่านไม่เดินทางกลับพร้อมคณะ ตั๋วเครื่องบินขากลับซึ่งยังไม่ได้ใช้ ไม่สามารถนำมาขอคืน (Refund) ได้
  7. การยกเลิก
  • กรณียกเลิกการจองน้อยกว่า 60 วัน ก่อนการเดินทางบริษัทขอสงวนสิทธิในการคืนเงินมัดจำทั้งหมด
  • กรณีแจ้งยกเลิกภายใน 45 วัน ก่อนการเดินทาง บริษัทขอสงวนสิทธิในการคืนค่าทัวร์ 50% ของราคาเต็มเท่านั้น
  • กรณีแจ้งยกเลิกการจองภายใน 30 วัน ก่อนการเดินทาง บริษัทขอสงวนสิทธิในการคืนเงินค่าทัวร์ทั้งหมด

หมายเหตุ

  1. บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการ โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  2. บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายใด ๆ อันเกิดจากเหตุสุดวิสัย เช่น อุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ การนัดหยุดงาน การก่อการจลาจล ความล่าช้าของเที่ยวบิน การถูกปฏิเสธไม่ให้ออกหรือเข้าประเทศ เป็นต้น
  3. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนรายการท่องเที่ยวตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะของสายการบิน โรงแรม และสภาวะทางการเมืองโดยถือผลประโยชน์และความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นหลัก
  4. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อการออกนอกประเทศ ห้ามเข้าประเทศญี่ปุ่น การนำสิ่งของผิดกฎหมาย เอกสารการเดินทางไม่ถูกต้อง และความประพฤติส่อไปในทางเสื่อมเสีย