Malta Undiscovered Paradise
โดยสายการบินเตอร์กิส แอร์ไลน์(TK)

8 – 15 มิถุนายน 2563 ( 8วัน )

Luxury Tanzania Safari Surprise!
โดยสายการบินกาตาร์ (QR)

18 – 25 สิงหาคม 2563  (8 วัน)

แทนซาเนีย เป็นสวรรค์บนดินของคนรักซาฟารี ให้คุณใกล้ชิดสัตว์ป่ายิ่งกว่าใคร ในบรรยากาศสุด exclusive

– ท่องซาฟารี ณ อุทยานแห่งชาติเซเรนเกติ มรดกโลกทางธรรมชาติของประเทศแทนซาเนีย
– เยือนปล่องภูเขาไฟ โกรงโกโร่ ที่พักพิงของสัตว์ป่าที่สวยงามที่สุดชนิดหนึ่งในโลก
– ขึ้นบอลลูนท่องซาฟา ดื่มด่ำทัศนียภาพของภูมิประเทศแห่งแทนซาเนียแบบ 360 องศา ชมความน่าอัศจรรย์ของฝูงสัตว์ป่าซึ่งน้อยคนที่จะมี โอกาสไดเ้ห็น

ให้ “ทุกวินาทีระหว่างทาง” เปรียบเสมือน “จุดหมายปลายทาง”
สัมผัสประสบการณ์สุดยอดครั้งหนึ่งในชีวิต ณ ประเทศแทนซาเนีย ทวีปแอฟริกา

ดาวน์โหลด โปรแกรมเดินทางฉบับเต็ม

โปรแกรมท่องเที่ยว

20.00 น. พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ ประตู 10

เคาน์เตอร์เช็คอิน แถว U เจ้าหน้าที่ เวิลด์ เซอร์ไพร้ส รอต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวก

23.00 น. โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK069 นำท่านเหินฟ้าสู่ อิสตันบูล ประเทศตุรกี

อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม

พักค้างแรมบนเครื่องบิน

05.20 น. ถึงท่าอากาศยานอิสตันบูล ประเทศตุรกี

08.10 น. โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK1369 นำท่านเหินฟ้าสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติมอลต้า  ประเทศมอลต้า

เช้า อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม

09.40 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติมอลต้า ประเทศมอลต้า

หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร พร้อมตรวจเช็คสัมภาระแล้ว

นำท่านสู่เมือง วัลเลตตา เมืองหลวงแห่งประเทศมอลต้า ถูกสร้างขึ้นโดยอัศวินแห่งเซนต์จอห์น หลังการโจมตีครั้งใหญ่โดยออตโตมานในปี ค.ศ.1565 เป็นเมืองที่มีป้อมปราการที่กล่าวกันว่า “สร้างโดยสุภาพบุรุษเพื่อสุภาพบุรุษ” และมีอนุสาวรีย์มากกว่า 320 แห่งในรัศมี 400 เมตร เป็นเมืองหลวงแบบบาโรก และยังได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรปในปี ค.ศ. 2018

นับว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์มากเมืองหนึ่งของยุโรป เนื่องจากการผสมผสานที่ลงตัวของประวัติศาสตร์

และวัฒนธรรมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่มีชีวิตชีวา

 

จากนั้น นำท่านสู่ พิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งชาติ Museum of Archaeology ที่มีการจัดแสดง เครื่องมือหินที่ละเอียดอ่อนซึ่งมีอายุตั้งแต่ 5200 ปีก่อนคริสตกาล อีกทั้งยังมีเครื่องรางของ

ชาวฟินีเซียนและแบบจำลองวิหาร Ta ‘Haġrat – Maquette สถาปัตยกรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ และรูปแกะสลักยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่มีรูปแบบสวยงาม เช่น รูปปั้น ‘ผู้หญิงอ้วน’  Sleeping Lady พบที่ Hypogeum ซึ่งมีอายุประมาณ 5,000 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ขี้เกียจโดยมีหัวของเธอหนุนแขนข้างหนึ่ง

 

แล้วนำท่านชมพระราชวังแกรนด์มาสเตอร์ (Grandmaster’s Palace) อดีตพระราชวังในยุคศตวรรษที่ 16 ซึ่งถือครองโดย อุสตาจิโอ้ เดล มอนเต้ ญาติคนสนิทของผู้ครองแคว้นมอลต้าที่มีชื่อว่า ฌองป์ เดอลา วาเลตเต้ แต่เดิมที่แห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่บัญชาการรบของอัศวินในยุคนั้น และภายหลังเสร็จสิ้นสงคราม ได้ถูกต่อเติมเป็นพระราชวัง

แต่แล้วในช่วงศตวรรษที่ 19 ก็ได้ถูกโอนย้ายเปลี่ยนมือเป็นสถานที่พำนักของผู้ปกครองจากประเทศอังกฤษ และกลับมาถือครองโดยประเทศมอลต้าอีกครั้งภายหลังประกาศเอกราชในปี ค.ศ.1964 และในปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้ถูกใช้เป็นอาคารรัฐสภาแห่งมอลต้า สถานที่ทำงานของประธานาธิบดีนั่นเอง

 

 

จากนั้น นำท่านชม โรงละครมาโนเอล (Manoel Theatre)  หนึ่งในโรงละครและสถานที่แสดงศิลปะการแสดงที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1731 โรงละครมักเรียกกันง่าย ๆ ว่า “เดอะมาโนเอล” และได้รับการตั้งชื่อตามประมุขของอัศวินแห่งฮอสพิทาลเลอร์ฟราอันโตนิโอมาโนเอลเดอวิลเฮน่า ผู้สั่งการก่อสร้างโรงละครนี้ขึ้น

 

กลางวัน อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Nenu The Baker หนึ่งในร้านขึ้นชื่อแห่งเมือง วัลเลตตา

ให้ท่านได้ลิ้มรสอาหารมอลต้าแบบดั้งเดิม

 

 

หลังอาหาร นำท่านเยี่ยมชม ความงดงามของ มหาวิหารเซนต์จอห์น  (Saint John’s Co-Cathedral) ที่สร้างโดย อัศวิน เซนต์จอห์น เพื่อมอบเป็นเกียรติแก่ผู้อุปถัมภ์เหล่าอัศวินทั้งหลาย ความพิเศษของวิหารแห่งนี้คือ ออกแบบตกแต่งโดยสถาปนิกและศิลปินชาวมอลต้าในช่วงศตวรรษที่ 16 เป็นสถาปัตยกรรมบาโรกที่หรูหราและงดงาม แสดงให้เห็นถึงอำนาจของคริสต์ศาสนาในสมัยนั้น

 

จากนั้น นำท่านชม สวนอัพเปอร์ บาร์รักก้า สวนสวยที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ส่วนบุคคล แต่ภายหลังได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมในปี ค.ศ.1824 ภายในสวนประกอบไปด้วย Upper Barracca และ Lower Barracca ในส่วน Upper นั้นได้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1661 โดยอัศวินชาวอิตาเลียน

จากบริเวณสวนจะเห็นวิวของอ่าวแกรนด์ฮาร์เบอร์ได้ชัดเจน

แล้วนำท่านล่อง เรือพาย ชมทัศนียภาพที่สวยงามของชายฝั่งทะเลแถบเมดิเตอร์เรเนียน

 

ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร Panorama บริหารอาหารสไตล์เมดิเตอร์เนียน พร้อมวิวทิวทัศน์ของอ่าว Grand Harbour อันงดงามของวัลเลตตา

 

หลังอาหาร นำท่านสู่ เซนต์จูเลียนส์ และนำท่านสู่โรงแรมที่พัก

พักค้างแรม ณ โรงแรม Malta Marriott Hotel & Spa หรือในระดับเดียวกัน

เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ เมดิน่า (Mdina) อดีตเมืองหลวงของประเทศมอลต้า เมืองเล็กๆ ที่เจริญด้วยประวัติศาสตร์เหล่านี้ ถูกล้อมรอบด้วยแนวกำแพงเมืองยุคกลาง ซึ่งเป็นเครื่องหมายสำคัญของการแสดงอาณาเขตของเมืองที่รู้จักกันทั่วไปว่า “Silent city”

จากนั้น นำท่านเปลี่ยนบรรยากาศ นั่งรถไฟเที่ยวชมสถานต่างๆที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและสถาปัตยกรรม อีกทั้งยังให้ความสนุกสนาน โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 30 นาที

 

แล้วนำท่านกลับสู่เมือง เมดิน่า นำท่านเดินชมเมืองหลวงเก่าที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ทั้งกลางวันและยามค่ำคืน นำท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับทางเข้าหลักของเมือง ที่เคยเป็นฉากประกอบภาพยนตร์ Game of Thrones

 

กลาง อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Diar Il-Bniet หนึ่งในร้านที่ดีที่สุดในย่านดิงลี ที่เกือบทุกจานใช้วัตถุดิบสดใหม่จากฟาร์มของครอบครัว

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ถ้ำบลูกร็อตโต้ นำท่านล่องเรือชมทัศนียภาพอันสวยงามของน้ำทะเล

โดยล่องผ่านช่องแคบต่างๆที่มีแสงส่องผ่านทำให้ภายในถ้ำเรืองแสงเป็นประกายสีฟ้าซึ่งเป็นที่มาของชื่อถ้ำแห่งนี้

ท่านชม พลาลาซโซ พาริซิโอ ซึ่งขุนนาง Giuseppe Scicluna ได้ซื้อวังแห่งนี้ในปี

ค.ศ 1898 และทำให้ที่นี่ได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ และวังนี้อยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ในสภาพสมบูรณ์แบบดั้งเดิม ขุนนาง Scicluna เป็นนายธนาคารและพ่อค้าชาวมอลต้าผู้มั่งคั่ง เขาได้ทำให้วังแห่งนี้เป็นตัวแทนของงานศิลปะของมอลต้า ผสมผสานความเป็นศตวรรษที่ 19 และผลงานของศิลปินชาวอิตาลี ทำให้สถานที่นี้มีประวัติศาสตร์ และเป็นมรดกที่น่าภาคภูมิใจ นำท่านเดินชมวังอย่างเป็นส่วนตัว ให้ท่านได้จิบน้ำชาพร้อมเพลิดเพลินกับทัศนียภาพของสวนที่สวยงาม

 

 

จากนั้น นำท่านชม โบสถ์มอสต้าโดม ที่ไม่ได้เป็นเพียงโบสถ์ แต่ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกด้วย

การก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1833 และเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1860 โดยจำลองแบบมาจากวิหารแพนธีออนในกรุงโรม เป็นโดมของโบสถ์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ในกรุงโรม และโบสถ์เซนต์พอลส์ในลอนดอน

อีกเรื่องราวที่น่าสนใจที่สุดคือสิ่งที่เกิดขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 9 เมษายน ปี ค.ศ. 1942 เมื่อเยอรมันทิ้งระเบิดลงบนหลังคาโบสถ์ ระเบิดเจาะลงกลางโดมซึ่งมีนักบวชอยู่ข้างในโบสถ์ แต่กลับไม่เกิดการระเบิดชึ้น ชาวเมืองจึงเชื่อว่านี่คือเรื่องปาฏิหาริย์ของโบสถ์แห่งนี้

แล้วนำท่านกลับสู่เมือง เมดิน่า เพื่อชมบรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองเก่า อดีตเมืองหลวงของมอลต้า และรับประทานอาหารภายในเมือง เมดิน่า

 

ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร The Mdina ภัตตาคารในอาคารสต์โรมาเนสก์ กำแพงหินสีน้ำผึ้งและสวนสวยสุดคลาสิก

 

 

หลังอาหาร นำท่านสู่ เซนต์จูเลียนส์ และนำท่านสู่โรงแรมที่พัก

พักค้างแรม ณ โรงแรม Malta Marriott Hotel & Spa หรือในระดับเดียวกัน

เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ป๊อปอายวิลเลจ (Popeye Village) หรือที่รู้จักกันในชื่อ  Sweethaven Village เป็นหมู่บ้านที่จำลองขึ้นเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์มิวสิคัลเรื่อง Popeye

แสดงนำโดย โรบิน วิลเลียมส์ ในปี ค.ศ. 1980 จากนั้นได้รับการดัดแปลงให้เป็นสวนสนุกเล็กๆ ที่น่าดึงดูดใจ ด้วยบ้านไม้หลังเล็กๆ แบบชนบทริมทะเล ท่านยังสามารถพบกับตัวละครจากภาพยนตร์อีกด้วย เช่น Popeye, Olive Oyl, Bluto และ Wimpy นอกจากนี้ยังมีโชว์อื่นๆ อีก เช่น การแสดงหุ่นกระบอกป๊อปอาย ฟิกาโรช่างตัดผม ที่สร้างทรงผมอันน่าอัศจรรย์ ละครมิวสิคัลโดยป๊อปอายและเพื่อน อิสระให้ท่านเดินเล่นตามอัธยาศัยจนถึงเวลานัดหมาย

 

จากนั้น นำท่านชมทิวทัศน์ในชนบทของมอลต้า เพลิดเพลินกับทัศนียภาพของทะเลสีครามและ

เกาะโกโซ แล้วนำท่านสู่ ฟาร์มในชนบท ที่เกษตรกรรมคือส่วนหนึ่งในวิถีชีวิต แต่ละหมู่บ้านต่างมีผลิตผลที่แตกต่างกันไป นำท่านลองชิมผลิตผลสดใหม่จากเกษตรกร พบปะกับคนในท้องถิ่น สัมผัสชีวิตประจำวันของพวกเขา

กลางวัน อาหารกลางวัน ภายในฟาร์ม บริการท่านด้วยอาหารท้องถิ่นมอลต้าที่ปรุงจากวัตถุดิบสดใหม่จากฟาร์ม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่เมือง มาร์ซักลอกก์ หรือที่รู้จักกันอย่างดีในนาม หมู่บ้านประมง บริเวณท่าเรือของเมืองจะมีบรรดาเรือประมงพื้นเมือง หรือ Luzzus จอดอยู่มากมาย หลากหลายสีสัน และรูปทรงของเรือที่สวยงาม ซึ่งหากลองสังเกตที่บริเวณด้านหน้าของเรือทุกลำ จะมีตาสองดวงแปะอยู่

ซึ่งเป็นดวงตาผู้พิทักษ์ Eye of Horus or Of Osiris ที่จะคอยสอดส่องคุ้มครองให้ไม่ได้เกิดภัยอันตรายกับชาวประมงขณะเดินเรือ

 

ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านร่วมงานเทศกาลเฟสต้า โดยงานเทศกาลนี้จัดขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจนถึงสุดสัปดาห์ที่สองของเดือนตุลาคม

หมู่บ้านต่างๆ ในมอลต้าจะพากันจัดงานเพื่อเฉลิมฉลองให้แด่นักบุญคริสเตียนของตน มีการประดับตกแต่งอย่างประณีต ทั้งการประดับไฟ การจุดดอกไม้ไฟ การแสดงดนตรีและปาร์ตี้ ให้ท่านเข้าร่วมสนุกกับงานเทศกาลอย่างเต็มที่

 

จากนั้น นำท่านสู่ เซนต์จูเลียนส์ และนำท่านสู่โรงแรมที่พัก

พักค้างแรม ณ โรงแรม Malta Marriott Hotel & Spa หรือในระดับเดียวกัน

เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางโดยเรือเฟอร์รี่สู่ เกาะโกโซ (Gozo Island) หรือ เกาะแห่งคาลิปโซ่ ซึ่งเป็นเกาะที่งดงามทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน อีกทั้งยังได้รับฉายาว่าเป็นเกาะน้องสาวของมอลต้า ที่มีทิวทัศน์อันสวยงามไม่ต่างจากพี่สาว เกาะนี้ มีประชากรเพียง 40,000 คน แต่พบว่ามีภาษาถิ่นที่ใช้ทั้งหมดเกือบ 11 ภาษา มีชายฝั่งคดเคี้ยวอันงดงามเหมาะแก่การมาพักผ่อน

 

จากนั้น นำท่านสู่ Dwejra Bay ก้อนหินสูงประมาณ 60 เมตร อยู่กลางทะเลสาบ ใกล้ๆบริเวณหน้าผาสูงชันทางฝั่งตะวันตกของโกโซ เป็นส่วนที่แสดงให้เห็นว่าในอดีตบริเวณแห่งนี้เคยเป็นถ้ำ แล้วเกิดการทรุดตัวลง ทำให้บางส่วนจมอยู่ในทะเสสาบ และบางส่วนแยกตัวออกซึ่งก็คือส่วนของ Fungus Rock ในปัจุบัน โดยในอดีตสมัยยุคของอัศวินเซนต์จอห์น จะมีเห็ดบางชนิดที่เติบโดบนหินแห่งนี้ จึงเป็นที่มาของชื่อ Fungus Rock ซึ่งความจริงแล้วในปัจจุบันไม่มีเห็ดหรือเชื้อราบนหินนี้แล้ว

 

จากนั้น นำท่านชม ทะเลใน Dwejra เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่มีหน้าผาโอบล้อม ซึ่งเชื่อมต่อกับทะเลเปิดโดยอุโมงค์ที่ไหลผ่านแหลม Dwejra Point เป็นอุโมงค์ที่มีระยะทาง 100 เมตร ที่เรือเล็กๆ สามารถแล่นผ่านได้ในสภาพอากาศที่สงบ

ทะเลในถูกใช้เป็นที่พักของชาวประมงมานานหลายศตวรรษ ทุกวันนี้ชาวประมงมีรายได้เสริมจากการพานักท่องเที่ยวล่องเรือลอดผ่านอุโมงค์ และชมทิวทัศน์ของหน้าผาหิน

 

กลางวัน อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านสู่ อ่าว Xlendi อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่มีวิวทัวทัศน์แสนวิเศษ และหลากหลายด้วยร้านอาหารซีฟู๊ดต่างๆ

 

จากนั้น นำท่านสู่ The Citadella & Victoria ป้อมปราการที่มีขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่กลางเกาะโกโซที่มีอายุที่ยาวนานตั้งแต่ยุคสำริดและพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงยุคโรมัน

 

 

แล้วนำท่านเดินทางโดยเรือ Ferry กลับสู่เกาะมอลต้า

ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

แล้วนำท่านสู่ เซนต์จูเลียนส์ และนำท่านสู่โรงแรมที่พัก

พักค้างแรม ณ โรงแรม Malta Marriott Hotel & Spa หรือในระดับเดียวกัน

เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบิน

10.30 น. โดยสายการบินไรอันแอร์ เที่ยวบินที่ FR7325 นำท่านเหินฟ้าสู่ เบอร์กาโม ประเทศอิตาลี

12.30 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติอิล การาวัจโจ ประเทศอิตาลี

 

กลางวัน อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ มิลาน นครที่มีชื่อทางด้านอุตสาหกรรม และเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของอิตาลี นอกจากนี้ มิลานยังเป็นเมืองศูนย์กลางทางด้านธุรกิจ การค้า และแฟชั่นที่สำคัญอีกด้วย

แล้วนำท่านเดินทางสู่ แกลเลอเรีย วิคตอริโอ เอมมานูเอลที่ 2 ซึ่งเป็นย่านช้อปปิ้งอาเขตที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก  ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 12 ปี เพื่อให้เป็นห้องรับแขกแห่งเมืองมิลานเป็นอาคารหลังแรก ๆ ของยุโรปที่ใช้โครงเหล็กในการก่อสร้าง พื้นตกแต่งด้วยโมเสกเป็นรูปทวีปต่าง ๆ อาคารได้รับการออกแบบอย่างมีรสนิยมโดยสถาปนิกชื่อดังของอิตาลี Giuseppe Mengoni

ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม Melia Milano หรือในระดับเดียวกัน

เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ Serravalle Designer Outlet เอาท์เล็ตชื่อดังของอิตาลี ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมราคาสุดพิเศษมากมายหลากหลายยี่ห้อ เช่น Bottega Verde, Bulgari, Byrberry, Dolce & Gabbana, Prada, Salvatore Ferragamo, Versace และสินค้าแบรนด์ดังอีกมากมาย

กลางวัน อาหารกลางวัน อิสระตามอัธยาศัย ภายในเอาท์เล็ต

โดยท่านสามารถเลือกทานอาหารจากร้านที่ท่านชื่นชอบได้ตามอัธยาศัย ซึ่งทางบริษัทจัดเตรียมค่าอาหารให้ท่านละ 20 ยูโร

ได้เวลานัดหมาย นำท่านเดินทางกลับสู่ มิลาน แล้วนำท่านช้อปปิ้งที่ จตุรัสกลางเมือง เปียสซ่า เดล ดูโอโม่ (Piazza del Duomo) ซึ่งท่านจะได้สัมผัสกับบ้านเรือนสไตล์อิตาลี พร้อมเดินเล่นช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองต่างๆตามร้านรวงที่เรียงรายอยู่ในบริเวณนี้ เรื่อยไปจนถึงถนนสายแฟชั่นที่ทุกท่านม่ควรพลาด Via Montenapoleone  แหล่งรวมแบรนด์ดังของอิตาลีไม่ว่าจะเป็น เฟอร์รากาโม่ วาเลนติโน่ จิออจิโอ อาร์มาร์นี่ เรื่อยไปจนถึง พราด้า หรือกุชชี่เป็นต้น

อิสระให้ท่านได้สนุกสนานกับการช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์ดังรุ่นใหม่ ๆ ตามอัธยาศัย

 

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบิน

19.45 น.โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK1876 นำท่านเหินฟ้าสู่ อิสตันบูล ประเทศตุรกี

อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม

23.40 น. ถึงท่าอากาศยานอิสตันบูล ประเทศตุรกี

 


 

วันที่แปด อิสตันบูล – กรุงเทพฯ

01.25 น. โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่  TK068 นำท่านเหินฟ้าสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย

อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม

15.25 น. ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ

ค่าบริการรวม

  • ค่ารถรับส่งตามรายการ
  • ค่าห้องพัก สองท่านต่อหนึ่งห้อง ในโรงแรมที่ระบุ หรือในระดับเดียวกัน
  • ค่าอาหารตามรายการ
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่ายกเว้นคนต่างด้าว
  • ค่าตั๋วเครื่องบินชั้นทัศนาจรเส้นทาง Malta (MLA) – Italy (BGY) โดยสายการบินไรอันแอร์
  • ค่าขนกระเป๋าสำหรับสาย การบินไรอันแอร์ ท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 20 กก.
  • ค่าประกันภัยการเดินทางวงเงินท่านละ 1,500,000 บาท
  • ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศ (รวมเจ็บป่วย) วงเงินท่านละ 1,500,000 บาท
  • หัวหน้าทัวร์ จากกรุงเทพฯ คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  • การบริการจัดเตรียมน้ำดื่ม ท่านละ 1 ขวดต่อวัน
  • ค่าทิปสำหรับมัคคุเทศก์และคนขับรถ
  • ค่ายกกระเป๋าในแต่ละโรงเเรม
  • บริการป้ายไวนิล และภาพถ่าย CD หลังการเดินทาง สำหรับลูกค้าทุกท่าน
  • พิเศษ! ของพรีเมี่ยม บริการ ณ วันเดินทาง เช่น กระเป๋า Travel Kit, Universal Adapter,
  • ร่ม, ปกพาสปอร์ทหนังเเท้, หมอนรองคอ, แท็กกระเป๋า, ปากกาไฟฉาย, ลูกอม และยาดม
  • พิเศษ! Sim2 Fly

 


 

ค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ สายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์
  • ค่าภาษีสนามบินทุกแห่ง
  • ค่าภาษีน้ำมันซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามภาวะตลาดน้ำมันโลกซึ่งประกาศโดยสายการบินทางบริษัทฯ อาจมีการเรียกเก็บเพิ่มหากมีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
  • ค่าขนกระเป๋าสำหรับสาย การบินกาตาร์ ท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 30 กก.
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (คิดคำนวณจากค่าบริการ)
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่น ๆ เช่น ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ทางไกล ค่าเครื่องดื่ม

ระเบียบการ และเงื่อนไข:

  1. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกหรือเลื่อนหรือเปลี่ยนแปลงกำหนดการเดินทาง กรณีที่มีผู้สำรองการเดินทางไม่ครบตามจำนวนที่บริษัทฯ กำหนด (15 ท่านขึ้นไป)
  2. การสำรองที่นั่ง : บริษัทฯ ขอรับค่ามัดจำสำหรับการจองท่านละ 80,000 บาท โดยกรุณานำเงินเข้าบัญชีธนาคารแล้วส่งสำเนาใบนำฝาก ทางแฟกซ์หมายเลข 0-2634-7365 กรณีชำระด้วยเช็ค การจองจะสมบูรณ์ต่อเมื่อบริษัทได้รับเงินจากการสั่งจ่ายนั้นแล้ว ส่วนที่เหลือโปรดชำระให้ครบถ้วนก่อนการเดินทางอย่างน้อย 30 วัน
  3. การสำรองที่นั่ง:


   อัตราค่าบริการ   

เดินทางในช่วง 8 – 15 มิถุนายน 2563
ราคาค่าบริการทัวร์โดยประมาณ ท่านละ 116,900 บาท
พักห้องเดี่ยว ท่านละ 22,500 บาท

อัตราค่าบริการ ไม่รวมตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ(ยึดเที่ยวบินสายการบินเตอร์กิส แอร์ไลน์  (TK) เป็นหลัก)

4. *กรณีสำรองที่นั่งหลัง 15 วันก่อนเดินทาง ทางบริษัทฯ ขอรับชำระค่าทัวร์ยอดเต็มทั้งหมด**

 กรุณาชำระค่าทัวร์ส่วนที่เหลือทั้งหมดก่อนการเดินทางอย่างน้อย 14 วัน มิฉะนั้นจะถือว่าสละสิทธิ

5.การยกเลิก

  • กรณียกเลิกการจองน้อยกว่า 45 วัน ก่อนการเดินทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินมัดจำทั้งหมด
  • กรณีแจ้งยกเลิกภายใน 30 วัน ก่อนการเดินทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บค่าบริการทัวร์ 50% ของราคาทัวร์
  • กรณีแจ้งยกเลิกการจองภายใน 15 วัน ก่อนการเดินทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมด

 

6. บริษัทฯ รับเฉพาะผู้มีวัตถุประสงค์เดินทางเพื่อท่องเที่ยวเท่านั้น กรณีที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไม่อนุญาตให้ผู้เดินทางออกหรือเข้าประเทศ บริษัทฯ ไม่สามารถคืนค่าทัวร์ให้

7. ในระหว่างการท่องเที่ยวนี้ หากท่านไม่ใช้บริการใดๆ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่สามารถขอคืนค่าบริการได้

8. หากท่านไม่เดินทางกลับพร้อมคณะ ตั๋วเครื่องบินขากลับซึ่งยังไม่ได้ใช้ ไม่สามารถนำมาขอคืน (Refund) ได้


หมายเหตุ

  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับราคา ถ้าจำนวนผู้ใหญ่เดินทางต่ำกว่า 10 ท่าน
  • หากท่านต้องการใบเสร็จที่ออกในนามบริษัท กรุณาแจ้งล่วงหน้าก่อนเดินทาง 14 วัน
  • มิเช่นนั้นทางบริษัทจะไม่ทำการออกใบเสร็จย้อนหลังให้ไม่ว่ากรณีใด
  • ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมการเดินทางโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นหลัก