TOHOKU  : Zao Fox Village หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอก แห่งซาโอะ


หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอก แห่งเมืองซาโอะ  ไม่ไปไม่ได้แล้ว!

ภูมิใจนำเสนอ วางแผนการเที่ยวแบบเช้าไป เย็นกลับ  วันเดียวเที่ยวเองได้ง่ายๆ ไม่ไกลจากโตเกียว แหมๆๆ มาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีจะเที่ยวแต่ในโตเกียว อัพรูปในไอจีแบบซ้ำๆ ดูน่าเบื่อแย่เลย! เริ่มสนใจแล้วใช่ไหมว่าจะพาไปที่ไหน ถ้าไม่แน่ใจแวะเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว ซึ่งสะดวกมากๆ ตั้งอยู่ในสถานีรถไฟโตเกียว บริเวณประตูทิศเหนือทางฝั่งมะรุโนะอุจิ สังเกตุป้ายสีเขียว JR EAST Travel Service Center ด้านในศูนย์ฯ ที่แสนจะโอ่โถงและเป็นทางการนี้ ทำให้รู้สึกดีและน่าเชื่อถือ เวลาทำการตั้งแต่ 07:30-20:30 น. ทุกวัน เจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลมากมาย นำวอชเชอร์มาเปลี่ยนเป็นบัตร JR Pass แล้วก็จองที่นั่ง ออกตั๋วตามคำแนะนำเรื่องเวลา และแผนการเดินทางตามที่คิดไว้ เจ้าหน้าที่ยังจัดเตรียมแผนที่และเอกสารท่องเที่ยวให้มาอีกเพียบ

ใช่แล้ววันเดียวเที่ยวได้จริงไม่ได้โม้ เที่ยวนี้เลือกเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นมุ่งสู่ภูมิภาคโทโฮกุ ทางภาคเหนือของประเทศญี่ปุ่น เส้นทางที่ตั้งใจไว้ก็คือ นั่งรถไฟจากสถานีโตเกียวไปยังสถานีชิโรอิชิซาโอะ(Shiroishizao) ชื่อย๊าวยาวแต่ถ้าบอกว่าไม่ไกลจากเซนได คุณน่าจะพอเดากันได้ ใช้เวลาเดินทางเพียง 109 นาที หรือเกือบ 2 ชั่วโมง จากนั้นนั่งแท็กซี่ต่อไปยังจุดหมายปลายทาง ใช้เวลาอีกประมาณ 30 นาที (แท็กซี่รอรับกลับด้วย-ข้อมูลจากการท่องเที่ยว)

ขอสารภาพเป็นเพราะภาพนี้แท้ๆ ที่เป็นแรงบันดาลใจทำให้มาไกลถึงเมืองซาโอะ จะเก็บภาพถ่ายเป็นคอลเล็คชั่นน่ารักๆของสุนัขจิ้งจอกตัวน้อย แบบกดไม่ยั๊ง ไม่ห่วงเมมโมรี่เต็ม พร้อมแล้ว..ลุยไปเลย

ถึงแล้ว หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอง แห่งเมืองซาโอะในภูมิภาคโทโฮกุ

นิ้วมือตอนนี้บังคับไม่ได้ พัลวันปรับโฟกัสพลัดกันกับการกดรัวๆ บนปุ่มชัตเตอร์ไม่หยุด  ตั้งแต่รถไฟจอดที่สถานีชิโรอิชิซาโอะแล้ว วิวสวยงามมาก ดั่งภาพวาด แล้วยัง..ฉากด้านหลังทาบด้วยแนวทิวเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวปุย ก่อนจะเข้าไปด้านในหัวใจก็พองโต พร้อมความรู้สึกตื่นเต้น ย้อนวัยไปในสมัยที่เป็นเด็ก ภาพต่างๆที่จดจำได้ก็หวนขึ้นมาจากที่เคยดูหนังญี่ปุ่น ความทรงจำของภาพเด็กสาวกับความน่ารักของสุนัขจิ้งจอกเพื่อนรักได้อย่างแจ่มชัด เอาหละมาทำฝันให้เป็นจริงดีกว่า หลังจากซื้อตั๋วเข้าชม 1,000 เยน ก็เดินเข้ามาด้านใน ไม่เพียงความประทับใจของหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ ยังได้รับความรู้เรื่องสุนัขจิ้งจอกเพิ่มเติมอีกมากมาย

ปกติแล้วตามสันชาตญานของสุนัขจิ้งจอก มันมีลักษณะคล่องแคล่ว ว่องไว ฉลาด แฝงความเจ้าเล่ห์เมื่อมันรับบทเป็นนักล่า ในเวลาที่อยู่รวมกันเป็นฝูงและอาศัยอยู่ยังป่าลึก  ซึ่งตรงกันข้ามในประเทศญี่ปุ่น “สุนัขจิ้งจอก” กลับได้รับการยกย่องว่าเป็นร่างของ เทพอินาริโอคามิ หรือ เทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ทางการเกษตร

เวลาที่เหมาะสมในการชมสุนัขจิ้งจอก ชาวญี่ปุ่นแนะนำในช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือน มกราคม – มีนาคม จะเป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆ นั่นก็คือ ขนของสุนัขจิ้งจอกจะมีความฟู หนา และสวยงามเต็มที่ ลองนึกภาพฝูงสุนัขจิ้งจอกวิ่งเล่นกันอย่างอิสระ ท่ามกลางลานหิมะขาว ช่างเป็นภาพที่น่าเอ็นดู และหาชมได้ยากมาก

เสน่ห์ของคนที่นี่และความเรียบง่ายทำให้หลงลืมความเป็นพิธีรีตรอง คำอธิบายพร้อมภาพการ์ตูนยังให้ความเข้าใจได้ง่ายขึ้น เรื่องราวที่เจ้าหน้าที่ตั้งใจพูดบรรยายถึงข้อควรระวัง กฎกติกาต่างๆระหว่างคนกับสุนัขจิ้งจอก เพื่อสร้างความเข้าใจก่อนเข้าสู่พื้นที่ของเขา จริงๆแล้วนั้นก็คือมารยาทก่อนเข้าไปในบ้านของพวกเขานั่นเอง

เริ่มจากการตรวจดูความเรียบร้อยของการแต่งกาย เครื่องประดับ ควรถอดวัสดุที่มีความแวววาวเก็บไว้ หรือผ้าพันคอที่ห้อยระย้ามากไปก็คลี่ออกและพับให้เรียบร้อย แม้กระทั่งเลกกิ้งที่มีลวดลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งลายนั้นคล้ายกับหนังของงู เพราะวัสดุพวกนี้จะดึงดูดให้พวกเขาเข้ามาหาไม่เชิงทำร้ายแต่เพื่อรุมแย่งหรือกัดเอาไปครอบครอง นอกจากนี้ไม่ควรเข้าใกล้สุนัขจิ้งจอกมากจนเกินไป ไม่แหย่ หรือแกล้ง เป็นต้น

เราเดินไปตามทางเดินของหมู่บ้าน สิ่งที่เรียนรู้เมื่อสักครู่ทำให้เราได้ใกล้ชิดกับเขาได้ง่าย สุนัขจิ้งจอกมีอยู่มากมายจนเกินความคาดหมาย ยิ่งทำให้หลงรัก และมองอย่างไม่วางตา ไม่ว่าเค้าจะทำอะไร เดิน นั่ง นอน หากได้สบตากันหละก็ ยิ่งได้รู้สึกความน่ารัก อ่อนโยน อย่างบอกไม่ถูก รวมทั้งท่วงท่าที่เป็นมิตร ทั้งหมดนี้สร้างความเพลิดเพลินอย่างมาก

ไฮไลท์ จะเป็นจุดที่จัดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารกับสุนัขจิ้งจอกได้ เหมือนรู้ใจจริงๆ เจ้าหน้าที่จัดวางอาหารบนแท่นเล็กๆ ใส่เป็นถุงถุงละ 100 เยน (ขอแนะนำว่า ผู้ที่ชื่นชอบสุนัขจิ้งจอก หรือสายเปย์(payable) ไม่ควรอยู่ในบริเวณนี้นาน เพราะอาจจะหมดตัวได้อย่างข้าพเจ้านี่แล)

จากบริเวณนี้คิดว่าจุใจแล้ว แต่โซนถัดไปนี่นึกในใจเลย ถ้าไม่ได้มาคงเสียใจแย่ พูดเกินไปไหม จริงๆแล้วอยากจะเปรียบเทียบให้เข้าใจความรู้สึกในตอนนี้ เปรียบเสมือนว่าได้มีโอกาสอยู่กับซุปเปอร์สตาร์ที่คุณชื่อชอบมากแบบพิเศษสุด (VIP)  พร้อมจะทุ่มไหมหละ โซนนี้เรียกว่า โซนแนบชิดสนิทสนม ถึงเนื้อถึงตัว ราคา 400 เยน (พร้อมรับชุดคลุมกันเปื้อนสีสันสดใส) ไม่รอช้าหลังจากสวมชุดคลุมกันเปื้อนเสร็จปุ๊บก็อุ้มน้องๆ สุนัขจิ้งจอกถ่ายรูปกันปั๊บแบบจุใจอย่างที่สุด

เวลาก็ล่วงเลยไปมาก ก่อนกลับมีร้านจำหน่ายของที่ระลึก ซื้อเก็บไว้ดูต่างหน้ากันตามธรรมเนียม อิ่มเอมใจและมีความสุขมากๆ สำหรับวันนี้

สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Zao Fox Village ได้ที่
Telephone.: 02 634 8877
Website:
www.worldsurprise.com/fit/
Instagram:
www.instagram.com/worldsurprisetravel
Line: @worldsurprise





Comments

comments