Romantic Alsace Surprise! 9 Days
September 7, 2016
DAY
วันแรก
กรุงเทพฯ – แฟรงค์เฟิร์ต
20.00 น.
พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการบินไทย
อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้นที่ 4 ประตูที่ 2 เคาน์เตอร์เช็คอินแถว D
เจ้าหน้าที่ เวิลด์ เซอร์ไพร้ส รอต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวก
อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้นที่ 4 ประตูที่ 2 เคาน์เตอร์เช็คอินแถว D
เจ้าหน้าที่ เวิลด์ เซอร์ไพร้ส รอต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวก
23.45 น.
โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG920 นำท่านเหินฟ้าสู่ แฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี
อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม
พักค้างแรมบนเครื่องบิน
อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม
พักค้างแรมบนเครื่องบิน
DAY
วันที่สอง
แฟรงค์เฟิร์ต – พิพิธภัณฑ์เครื่องแก้วลาลีค – สตราส์บูร์ก – ย่าน Petite France – ช้อปปิ้ง – ล่องเรือชมเมือง
เช้า
อาหารเช้า บริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม
06.00 น.
ถึงท่าอากาศยาน นครแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว นำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์เครื่องแก้วลาลีค หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงผลงานทางศิลปะประเภทเครื่องแก้ว ของศิลปินชื่อดังระดับโลกอย่าง เรอเน ลาลีค ศิลปินผู้บุกเบิกงานศิลปะที่สร้างสรรค์จากแก้วออกเป็นผลงานทางศิลปะหลากหลายแขนง ทั้งเครื่องประดับ ขวดผลิตภัณฑ์น้ำหอม หรือกระทั่งงานด้านสถาปัตยกรรม และตกแต่งภายใน ประกอบกับการออกแบบบรรยากาศภายในพิพิธภัณฑ์ในโทนสีที่มืดมิด เพื่อส่งผลต่อการเปล่งประกายจากเหล่าบรรดางานศิลปะเครื่องแก้วต่าง ๆ เหล่านั้นได้งานวิจิตรตระกานตา และทรงคุณค่าแก่ผู้ที่มาเยี่ยมชม

กลางวัน
อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ สตราส์บูร์ก ประเทศฝรั่งเศส เมืองหลวงและศูนย์กลางการค้าของแคว้นอัลซาส ซึ่งมีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน โดยได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของยุโรป เนื่องจากเป็นที่ตั้งของสภายุโรป สัญลักษณ์แห่งสันติภาพของโลกหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
แล้วนำท่านชม ย่าน Petite France ย่านที่ล้อมรอบไปด้วยบ้านเรือนสไตล์อัลซาสสีสันสดใส บ้างก็เป็นร้านอาหาร และคอฟฟี่ช็อปเล็ก ๆ มีมุมจำหน่ายของที่ระลึก จากนั้น อิสระให้ท่านได้เดินเล่น
ช้อปปิ้งในบริเวณนี้ตามอัธยาศัยเมื่อเดินทางถึงสตราส์บูร์ก
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ สตราส์บูร์ก ประเทศฝรั่งเศส เมืองหลวงและศูนย์กลางการค้าของแคว้นอัลซาส ซึ่งมีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน โดยได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของยุโรป เนื่องจากเป็นที่ตั้งของสภายุโรป สัญลักษณ์แห่งสันติภาพของโลกหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
แล้วนำท่านชม ย่าน Petite France ย่านที่ล้อมรอบไปด้วยบ้านเรือนสไตล์อัลซาสสีสันสดใส บ้างก็เป็นร้านอาหาร และคอฟฟี่ช็อปเล็ก ๆ มีมุมจำหน่ายของที่ระลึก จากนั้น อิสระให้ท่านได้เดินเล่น
ช้อปปิ้งในบริเวณนี้ตามอัธยาศัยเมื่อเดินทางถึงสตราส์บูร์ก

จากนั้น นำท่าน ลงเรือล่องแม่น้ำ เพื่อยลสองฝั่งคลองอันน่ารักและมีเสน่ห์ของเมืองนี้

ค่ำ
อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Sofitel Strasbourg Grande lle หรือในระดับเดียวกัน
พักค้างแรม ณ โรงแรม Sofitel Strasbourg Grande lle หรือในระดับเดียวกัน
DAY
วันที่สาม
สตราส์บูร์ก – มงต์แซงต์โอเดียล – โมชาม – ชิมไวน์ – ชิม ฟัว กราส์ – สตราส์บูร์ก
เช้า
อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านชม มงต์แซงต์โอเดียล สำนักชีบนยอดเขา Vosges สถานที่ซึ่งในอดีตถูกเชื่อว่า เคยเป็นป้อมปราการของชาวเซลติกในยุคสมัยที่โรมันเรืองอำนาจ แต่กลับถูกทำลายลงไปในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 โดยในเวลาต่อมาได้ถูกค้นพบโดยท่านดยุคอดาลลิคช์แห่งอัลซาส และให้ชื่อว่า มงต์แซงต์โอเดียล ตามชื่อบุตรสาวของตน จากนั้นสถานที่แห่งนี้ได้รับการบูรณะอีกครั้งในปี ค.ศ.1853 จากเหล่านักบุญในแคว้นอัลซาสจนกลายเป็นสำนักชี และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของแคว้นอัลซาสในปัจจุบัน
หลังอาหาร นำท่านชม มงต์แซงต์โอเดียล สำนักชีบนยอดเขา Vosges สถานที่ซึ่งในอดีตถูกเชื่อว่า เคยเป็นป้อมปราการของชาวเซลติกในยุคสมัยที่โรมันเรืองอำนาจ แต่กลับถูกทำลายลงไปในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 โดยในเวลาต่อมาได้ถูกค้นพบโดยท่านดยุคอดาลลิคช์แห่งอัลซาส และให้ชื่อว่า มงต์แซงต์โอเดียล ตามชื่อบุตรสาวของตน จากนั้นสถานที่แห่งนี้ได้รับการบูรณะอีกครั้งในปี ค.ศ.1853 จากเหล่านักบุญในแคว้นอัลซาสจนกลายเป็นสำนักชี และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของแคว้นอัลซาสในปัจจุบัน

กลางวัน
อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ โมชาม เมืองเล็ก ๆ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงของแคว้นอัลซาสอย่างสตราส์บูร์กมากนัก
จากนั้น พิเศษ !!! นำท่านทดลองลิ้มรสไวน์ที่มีชื่อเสียงของเมือง และเลือกซื้อเป็นของฝาก
อัลซาสนับได้ว่าเป็นแคว้นหนึ่งที่มีการผลิตไวน์หลากหลายประเภทมากที่สุดในโลก อันปรากฏอยู่บนฉลากของขวดไวน์ที่แตกต่างกัน โดยไวน์ที่มีความโดดเด่นที่สุดของแคว้นคือ ไวน์ขาว ซึ่งมีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวหาที่ใดเปรียบได้ยาก นอกจากนี้ไวน์ที่ได้จากแคว้นอัลซาส ต่างล้วนแล้วแต่ผ่านกรรมวิธีการผลิตจากองุ่นสายพันธุ์ดีในท้องถิ่น ภายใต้การรับรองคุณภาพระดับ AOC ของประเทศฝรั่งเศส อันก่อให้เกิดเป็นผลผลิตที่แสนเลอค่า จนได้รับการยกย่องให้กลายเป็นแคว้นแห่งไวน์แคว้นหนึ่งในประเทศฝรั่งเศสมาจนถึงปัจจุบัน
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ โมชาม เมืองเล็ก ๆ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงของแคว้นอัลซาสอย่างสตราส์บูร์กมากนัก
จากนั้น พิเศษ !!! นำท่านทดลองลิ้มรสไวน์ที่มีชื่อเสียงของเมือง และเลือกซื้อเป็นของฝาก
อัลซาสนับได้ว่าเป็นแคว้นหนึ่งที่มีการผลิตไวน์หลากหลายประเภทมากที่สุดในโลก อันปรากฏอยู่บนฉลากของขวดไวน์ที่แตกต่างกัน โดยไวน์ที่มีความโดดเด่นที่สุดของแคว้นคือ ไวน์ขาว ซึ่งมีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวหาที่ใดเปรียบได้ยาก นอกจากนี้ไวน์ที่ได้จากแคว้นอัลซาส ต่างล้วนแล้วแต่ผ่านกรรมวิธีการผลิตจากองุ่นสายพันธุ์ดีในท้องถิ่น ภายใต้การรับรองคุณภาพระดับ AOC ของประเทศฝรั่งเศส อันก่อให้เกิดเป็นผลผลิตที่แสนเลอค่า จนได้รับการยกย่องให้กลายเป็นแคว้นแห่งไวน์แคว้นหนึ่งในประเทศฝรั่งเศสมาจนถึงปัจจุบัน

จากนั้น นำท่านสัมผัสกับอาหารสุดแสนวิเศษ ที่แสดงถึงวิถีชีวิตของครัวชั้นสูงแบบฝรั่งเศสในอดีต คือ ฟัว กราส์ หรือตับเป็ด และห่าน โดยในช่วงศตวรรษที่ 18 ได้มีพ่อครัวชาวฝรั่งเศสชื่อดังนามว่า ฌอง-ปิแอร์ ผู้ซึ่งนำ ฟัว กราส์ มารังสรรค์ประยุกต์จนกลายเป็นขนมปังผิวกรอบห่อข้างในด้วยตับเป็ด หรือห่าน พร้อมสอดไส้สูตรเฉพาะอันเลิศรสของฌอง-ปิแอร์ และให้มีชื่อว่า ปาท เดอ ฟัว กราส์ อะลาคอนตาเดส์ (Pâté de Foie Gras à la Contades) เพื่อนำถวายแด่ผู้ปกครองแคว้นสตารส์บูร์กในยุคนั้น และในเวลาต่อมาได้กลายเป็นอาหารที่สร้างความอร่อยแบบมิรู้ลืมให้แก่ผู้ที่ได้ลิ้มรสสืบทอดมายังปัจจุบัน
พิเศษ !! ให้ท่านลิ้มลองรสชาติ ฟัว กราส์ ที่ถูกนำมาประยุกต์กับอาหารรูปแบบต่าง ๆ ทั้งคาว และหวาน จากร้านอาหารท้องถิ่นที่มีซื่อเสียงของแคว้นอัลซาส
พิเศษ !! ให้ท่านลิ้มลองรสชาติ ฟัว กราส์ ที่ถูกนำมาประยุกต์กับอาหารรูปแบบต่าง ๆ ทั้งคาว และหวาน จากร้านอาหารท้องถิ่นที่มีซื่อเสียงของแคว้นอัลซาส

จากนั้น นำท่านเดินทางกลับสู่ สตราส์บูร์ก
ค่ำ
อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Sofitel Strasbourg Grande lle หรือในระดับเดียวกัน
พักค้างแรม ณ โรงแรม Sofitel Strasbourg Grande lle หรือในระดับเดียวกัน
DAY
วันที่สี่
สตราส์บูร์ก – ปราสาทโอโคนิสบวร์ก – รีควีร์ – เกเซอร์เบิร์ก
เช้า
อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร พาท่านชม ปราสาทโอโคนิสบวร์ก สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในแคว้นอัลซาสแห่งนี้ ตั้งอยู่บนเนินเขาซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างเด่นชัด ไม่สามารถทราบได้แน่ชัดว่าปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อใด แต่นักประวัติศาสตร์คาดว่าน่าจะก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1147 ปัจจุบันได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีและเป็นมรดกสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
หลังอาหาร พาท่านชม ปราสาทโอโคนิสบวร์ก สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในแคว้นอัลซาสแห่งนี้ ตั้งอยู่บนเนินเขาซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างเด่นชัด ไม่สามารถทราบได้แน่ชัดว่าปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อใด แต่นักประวัติศาสตร์คาดว่าน่าจะก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1147 ปัจจุบันได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีและเป็นมรดกสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก

กลางวัน
อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ รีควีร์ อีกหนึ่งเมืองเล็กๆในแคว้นอัลซาสที่ตั้งอยู่ในหุบเขาที่โอบล้อมไปด้วยไร่องุ่นที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตไวน์ และด้วยบรรยากาศอันน่ารักและมีเสน่ห์ของหมู่บ้านที่จะพาให้ท่านรู้สึกราวกับว่าเข้าไปอยู่ในเมืองแห่งเทพนิยาย เนื่องจากบ้านเรือนส่วนใหญ่ยังคงได้รับการดูแลรักษาและคงสภาพเดิมในอดีต เพิ่มเติมด้วยการตกแต่งและประดับประดาด้วยดอกไม้ ตุ๊กตาหรือของชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่ช่วยทำให้ รีควีร์ เป็นอีกหนึ่งปลายทางที่มีเสน่ห์และดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมาย
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ รีควีร์ อีกหนึ่งเมืองเล็กๆในแคว้นอัลซาสที่ตั้งอยู่ในหุบเขาที่โอบล้อมไปด้วยไร่องุ่นที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตไวน์ และด้วยบรรยากาศอันน่ารักและมีเสน่ห์ของหมู่บ้านที่จะพาให้ท่านรู้สึกราวกับว่าเข้าไปอยู่ในเมืองแห่งเทพนิยาย เนื่องจากบ้านเรือนส่วนใหญ่ยังคงได้รับการดูแลรักษาและคงสภาพเดิมในอดีต เพิ่มเติมด้วยการตกแต่งและประดับประดาด้วยดอกไม้ ตุ๊กตาหรือของชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่ช่วยทำให้ รีควีร์ เป็นอีกหนึ่งปลายทางที่มีเสน่ห์และดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมาย

แล้วนำท่านเดินทางสู่ รีควีร์ อีกหนึ่งเมืองเล็กๆในแคว้นอัลซาสที่ตั้งอยู่ในหุบเขาที่โอบล้อมไปด้วยไร่องุ่นที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตไวน์ และด้วยบรรยากาศอันน่ารักและมีเสน่ห์ของหมู่บ้านที่จะพาให้ท่านรู้สึกราวกับว่าเข้าไปอยู่ในเมืองแห่งเทพนิยาย เนื่องจากบ้านเรือนส่วนใหญ่ยังคงได้รับการดูแลรักษาและคงสภาพเดิมในอดีต เพิ่มเติมด้วยการตกแต่งและประดับประดาด้วยดอกไม้ ตุ๊กตาหรือของชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่ช่วยทำให้ รีควีร์ เป็นอีกหนึ่งปลายทางที่มีเสน่ห์และดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมาย

แล้วนำท่านเดินทางสู่ เกเซอร์เบิร์ก ดินแดนบนเชิงเขา ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของภูเขา Vosges แหล่งผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงแห่งแรก ๆ ในแคว้นอัลซาส โดยมีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองคือ ป้อมปราการแห่งเกเซอร์เบิร์ก ป้อมปราการที่ตั้งอยู่บนเชิงเขาสูงนอกตัวเมือง ซึ่งท่านสามารถมองเห็นตัวเมืองเกเซอร์เบิร์กทั้งหมดได้จากมุมสูง ณ จุดนี้ นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีศิลปะ สถาปัตยกรรมอันหลากหลายยุค ผสมผสานกันอยู่ในเมืองแห่งนี้ รอให้ท่านได้มาเยี่ยมชม
ค่ำ
อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Relais et Chateaux Le หรือในระดับเดียวกัน
พักค้างแรม ณ โรงแรม Relais et Chateaux Le หรือในระดับเดียวกัน
DAY
วันที่ห้า
เกเซอร์เบิร์ก – โกลมาร์ – มูลูส – ออโต้โมบิลมิวเซียม – ริโบวิเล – เกเซอร์เบิร์ก
เช้า
อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ โกลมาร์ เมืองเล็ก ๆ อีกเมืองหนึ่งที่ตั้งอยู่ในแคว้นอัลซาส ของประเทศฝรั่งเศส แล้วนำท่านชมบริเวณโดยรอบเมืองโกลมาร์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเทือกเขา Vosges และแม่น้ำไรน์ ท่านสามารถเดินเที่ยวชมความสวยงามตามแบบฉบับของเมืองที่ผสมผสานระหว่างยุคกลางกับศิลปะแห่งศตวรรษที่ 20 ไว้ได้อย่างลงตัว โดยจะเห็นได้จากสภาพบ้านเรือนที่มีเสน่ห์ด้วยบ้านกึ่งไม้กึ่งปูน ที่เรียกว่า Half-Timbered House โดยจะตั้งอยู่ระหว่างสองฝั่งคลองในย่านที่เรียกว่า ลิตเติ้ลเวนีซ สำหรับท่านที่สนใจ ท่านสามารถล่องเรือชมสองฝั่งคลองที่รายล้อมด้วยบ้านฟาร์มหลังน้อยน่ารักที่ตกแต่งกรอบประตูหน้าต่างด้วยกระถางต้นไม้ และไม้ดอกเล็ก ๆ สีสันสดใส ได้ตามอัธยาศัย
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ โกลมาร์ เมืองเล็ก ๆ อีกเมืองหนึ่งที่ตั้งอยู่ในแคว้นอัลซาส ของประเทศฝรั่งเศส แล้วนำท่านชมบริเวณโดยรอบเมืองโกลมาร์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเทือกเขา Vosges และแม่น้ำไรน์ ท่านสามารถเดินเที่ยวชมความสวยงามตามแบบฉบับของเมืองที่ผสมผสานระหว่างยุคกลางกับศิลปะแห่งศตวรรษที่ 20 ไว้ได้อย่างลงตัว โดยจะเห็นได้จากสภาพบ้านเรือนที่มีเสน่ห์ด้วยบ้านกึ่งไม้กึ่งปูน ที่เรียกว่า Half-Timbered House โดยจะตั้งอยู่ระหว่างสองฝั่งคลองในย่านที่เรียกว่า ลิตเติ้ลเวนีซ สำหรับท่านที่สนใจ ท่านสามารถล่องเรือชมสองฝั่งคลองที่รายล้อมด้วยบ้านฟาร์มหลังน้อยน่ารักที่ตกแต่งกรอบประตูหน้าต่างด้วยกระถางต้นไม้ และไม้ดอกเล็ก ๆ สีสันสดใส ได้ตามอัธยาศัย

กลางวัน
อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ มูลูส เมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่สำคัญเมืองหนึ่งทางตอนใต้ของแคว้นอัลซาส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นแหล่งศูนย์รวมความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ทันสมัยเข้าไว้ด้วยกัน และยังเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ชื่อดังของโลกอย่าง PSA Peugeot Citroën
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ มูลูส เมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่สำคัญเมืองหนึ่งทางตอนใต้ของแคว้นอัลซาส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นแหล่งศูนย์รวมความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ทันสมัยเข้าไว้ด้วยกัน และยังเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ชื่อดังของโลกอย่าง PSA Peugeot Citroën

จากนั้น นำท่านชม ออโต้โมบิลมิวเซียม พิพิธภัณฑ์ที่เปลี่ยนโลกของท่านให้เป็นเมืองแห่งยานพาหนะสี่ล้อ ท่านจะได้พบกับรถยนต์ที่มีชื่อเสียงหลากหลายแบรนด์ดัง ทั้ง Bugatti, Ferrari, Rolls-Royce, Maserati, Maybach, Mercedes เป็นต้น จอดเรียงรายอย่างสวยงามตระการตา ซึ่งจัดแสดงให้ท่านได้รับชมตั้งแต่รุ่นแรกเริ่มที่ผลิต จนกระทั่งถึงรุ่นใหม่ล่าสุดในยุคปัจจุบัน นับว่าเป็นสิ่งที่หาชมได้ยาก อิสระให้ท่านถ่ายรูปกับรถยนต์คู่ใจ จนถึงเวลานัดหมาย

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางกลับสู่ ริโบวิเล เมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ในเขตพรมแดนของประเทศฝรั่งเศสตั้งอยู่ในแคว้นอัลซาส ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสตราส์บูร์กมากนัก โดยที่เมืองแห่งนี้ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงโบราณ ซึ่งภายในเมืองแห่งนี้ยังคงกลิ่นอายของเมืองในเขตประเทศยุโรปแบบยุคกลางได้เป็นอย่างดี เนื่องมาจากภายในเมืองแห่งนี้ยังคงอนุรักษ์บ้านเรือนที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ยุคกลางอยู่มากมาย และยังคงมีโบสถ์ที่สร้างด้วยสไตล์กอธิคอีก 2 แห่ง นั่นก็คือโบสถ์เซนต์เกรกรอรี่ และโบสถ์เซนต์ออกัสติน อิสระให้ท่านเดินเล่นในย่านเมืองริโบวิเล จนถึงเวลานัดหมาย

ค่ำ
อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ Relais et Chateaux Le Chambard หรือในระดับเดียวกัน
พักค้างแรม ณ Relais et Chateaux Le Chambard หรือในระดับเดียวกัน
DAY
วันที่หก
เกเซอร์เบิร์ก – เอกุยชาม วิลเลจ – สตราส์บูร์ก – รถไฟด่วน TGV – ปารีส
เช้า
อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร พาท่านเดินทางสู่ เอกุยชาม วิลเลจ หมู่บ้านที่เปรียบเสมือนศูนย์ของกลางของนักชิมไวน์ เนื่องจากเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตไวน์ชั้นเลิศของแคว้น และอยู่ระหว่างทางของเส้นทางสายหลักที่นักชิมไวน์นิยมท่องเที่ยว อีกทั้งเอกุยชาม ยังเป็นหมู่บ้านที่เปี่ยมล้นซึ่งมนต์เสน่ห์ของสีสัน จากการตกแต่งบ้านเมืองให้ดูสวยงามอย่างมีเอกลักษณ์ไม่มีใครเหมือน จนได้รับรางวัล Favorite French Village เมื่อเดือนพฤษภาคม ปีค.ศ. 2013 ที่ผ่านมา
หลังอาหาร พาท่านเดินทางสู่ เอกุยชาม วิลเลจ หมู่บ้านที่เปรียบเสมือนศูนย์ของกลางของนักชิมไวน์ เนื่องจากเป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตไวน์ชั้นเลิศของแคว้น และอยู่ระหว่างทางของเส้นทางสายหลักที่นักชิมไวน์นิยมท่องเที่ยว อีกทั้งเอกุยชาม ยังเป็นหมู่บ้านที่เปี่ยมล้นซึ่งมนต์เสน่ห์ของสีสัน จากการตกแต่งบ้านเมืองให้ดูสวยงามอย่างมีเอกลักษณ์ไม่มีใครเหมือน จนได้รับรางวัล Favorite French Village เมื่อเดือนพฤษภาคม ปีค.ศ. 2013 ที่ผ่านมา

อิสระให้ท่านเก็บภาพแห่งความประทับใจภายในหมู่บ้านตามอัธยาศัย
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางกลับสู่ สตราส์บูร์ก
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางกลับสู่ สตราส์บูร์ก
กลางวัน
อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่มหานครปารีส โดย รถไฟด่วน TGV ซึ่งวิ่งด้วยความเร็วสูง ราวเกือบ 300 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติที่รายล้อมไ ปด้วยทัศนียภาพอันงดงาม
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่มหานครปารีส โดย รถไฟด่วน TGV ซึ่งวิ่งด้วยความเร็วสูง ราวเกือบ 300 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติที่รายล้อมไ ปด้วยทัศนียภาพอันงดงาม
17.35 น.
ถึงสถานีปารีสเอสท์ มหานครปารีส เมืองหลวงแห่งศิลปะแฟชั่นของโลก และเป็น 1 ใน 10 ประเทศในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่อยากจะมาเยือนมากที่สุด

ค่ำ
อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Scribe หรือในระดับเดียวกัน
พักค้างแรม ณ โรงแรม Scribe หรือในระดับเดียวกัน
DAY
วันที่เจ็ด
ปารีส – ลา วัลเล่ย์ ช้อปปิ้งวิลเลจ – ย่านรูแซงค์โตโนเร
เช้า
อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ลา วัลเล่ย์ ช้อปปิ้งวิลเลจ เอาท์เล็ตมอลล์ขนาดใหญ่ ซึ่งมีร้านค้ามากมายให้ท่านได้เลือกชมกว่า 120 ร้านค้า เช่น Armani, Burberry, Christian Lacroix, Jimmy Choo, Paul Smiths, Polo Ralph Lauren, Salvatore Ferragamo, Valentino เป็นต้น ท่านสามารถสนุกสนานกับการจับจ่ายสินค้ามากมายไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าบุรุษ เสื้อผ้าสตรี อุปกรณ์กีฬา ของใช้ภายในบ้าน และอื่นๆ อีกมายมาย ซึ่งเป็นแบรนด์ดังๆ มีชื่อเสียง ในราคาลดพิเศษสุดตั้งแต่ 30 – 60% อิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการเดินเล่นช้อปปิ้งตามอัธยาศัย จนถึงเวลานัดหมาย
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ลา วัลเล่ย์ ช้อปปิ้งวิลเลจ เอาท์เล็ตมอลล์ขนาดใหญ่ ซึ่งมีร้านค้ามากมายให้ท่านได้เลือกชมกว่า 120 ร้านค้า เช่น Armani, Burberry, Christian Lacroix, Jimmy Choo, Paul Smiths, Polo Ralph Lauren, Salvatore Ferragamo, Valentino เป็นต้น ท่านสามารถสนุกสนานกับการจับจ่ายสินค้ามากมายไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าบุรุษ เสื้อผ้าสตรี อุปกรณ์กีฬา ของใช้ภายในบ้าน และอื่นๆ อีกมายมาย ซึ่งเป็นแบรนด์ดังๆ มีชื่อเสียง ในราคาลดพิเศษสุดตั้งแต่ 30 – 60% อิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการเดินเล่นช้อปปิ้งตามอัธยาศัย จนถึงเวลานัดหมาย

กลางวัน
อิสระตามอัธยาศัย
ท่านสามารถเลือกทานอาหารจากร้านที่ท่านชื่นชอบได้ตามอัธยาศัย ซึ่งทางบริษัทฯ จัดเตรียมค่าอาหารให้ท่านละ 20 ยูโร
ได้เวลานัดหมาย นำท่านช้อปปิ้ง ย่านรูแซงค์โตโนเร แหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของกรุงปารีส อดีตถนนสายนี้เคยเป็นที่อยู่ของขุนนางและชนชั้นสูง แต่ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง ให้ท่านได้เลือกช้อปปิ้งตลอดทั้งสาย และที่นี่เป็นที่ตั้งสตูดิโอใหญ่ของ Hermès ที่ดังไปทั่วโลกอีกด้วย
ท่านสามารถเลือกทานอาหารจากร้านที่ท่านชื่นชอบได้ตามอัธยาศัย ซึ่งทางบริษัทฯ จัดเตรียมค่าอาหารให้ท่านละ 20 ยูโร
ได้เวลานัดหมาย นำท่านช้อปปิ้ง ย่านรูแซงค์โตโนเร แหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของกรุงปารีส อดีตถนนสายนี้เคยเป็นที่อยู่ของขุนนางและชนชั้นสูง แต่ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง ให้ท่านได้เลือกช้อปปิ้งตลอดทั้งสาย และที่นี่เป็นที่ตั้งสตูดิโอใหญ่ของ Hermès ที่ดังไปทั่วโลกอีกด้วย

ค่ำ
อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Scribe Hotel หรือในระดับเดียวกัน
พักค้างแรม ณ โรงแรม Scribe Hotel หรือในระดับเดียวกัน
DAY
วันที่แปด
ปารีส – ท่าอากาศยานนานาชาติชาร์ลส์ เดอ โกล
เช้า
อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติชาร์ลส์ เดอ โกล
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติชาร์ลส์ เดอ โกล
กลางวัน
อาหารกลางวัน อิสระตามอัธยาศัยภายในท่าอากาศยาน
13.40 น.
โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG931 นำท่านเหินฟ้าสู่กรุงเทพมหานคร
อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม
พักค้างแรมบนเครื่องบิน
อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม
พักค้างแรมบนเครื่องบิน
DAY
วันที่เก้า
กรุงเทพฯ
เช้า
อาหารเช้าบริการบนเครื่องบิน พร้อมเครื่องดื่ม
05.55 น.
ถึงท่าอากาศยานกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ