เปิดประสบการณ์ใหม่กับเรือสำราญอัจฉริยะสุดไฮเทค Ovation of the Seas


Royal Caribbean International สายการเดินเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสุดยอดเรือสำราญอยู่หลายลำทั่วโลก แต่ทริปที่เราจะพาทุกคนไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับประสบการณ์ครั้งแรกของเรือลำนี้ในน่านน้ำไทยเส้นทางจากสิงคโปร์ถึงแหลมฉบัง ก็คือเรือสำราญสุดยอดแห่งนวัตกรรม “Ovation of the Seas” ที่เพิ่งได้ฤกษ์ออกเดินทางครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว

Ovation of the Seas ได้ชื่อว่าทันสมัยที่สุดในภูมิภาคมีขนาด 168,666 ตัน สามารถจุผู้โดยสารได้จำนวน 4,905 คน และลูกเรือกว่า 1,500 คน มีห้องพักแบบต่างๆจำนวน 2,901 ห้อง พื้นที่ใช้งานสำหรับแขกทั้งหมด 16 ชั้น เรียกได้ว่าเป็นเรืออัจฉริยะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในกลุ่มเรือสำราญของเครือ Royal Caribbean International

เราเดินทางสู่ Marina Bay Cruise Center ประเทศสิงคโปร์เพื่อขึ้นจุดหมายปลายทาง Ovation of the Seas ที่รอให้ความสนุกเราตลอด 6 วันแห่งการเดินทางครั้งนี้ ทันทีที่ผ่าน Gangway เข้ามาถึง Lobby ของเรือ ก็ต้องตื่นตะลึงกับความอลังการ นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีใครสามารถยกห้างสรรพสินค้าและโรงแรม 5 ดาวมาไว้บนเรือสำราญได้ เรือลำนี้มีกิจกรรม แหล่งบันเทิง และสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน แต่ที่ชอบที่สุดของการท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญคือ เราไม่ต้องย้ายกระเป๋าเดินทางไปไหน เพราะเรือจะพาไปยังสถานที่ท่องเที่ยวนั้นพร้อมกับที่พักของเราเลย… เก็บกระเป๋าเดินทางที่ห้องนอน นั่งพักสูดอากาศสดชื่นของลมทะเลที่ระเบียงห้องแบบ Balcony Room หลังจากนั้นก็ถูกเรียกให้ลงไปดูวิดีโอการซ้อมอพยพหนีภัยในกรณีการเกิดการณ์ไม่ปกติก่อน และแล้วก็ถึงเวลาสำรวจความยิ่งใหญ่ของเรือ ไปกันเลย!

หันรีหันขวางไม่รู้จะไปไหนก็เลยขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 5 ที่รวบรวมแหล่งบันเทิงต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารของเชฟชื่อดัง Jamie’s Italian, ร้านอาหารญี่ปุ่น Izumi, ร้านสเต็กเฮ้าส์ Chops Grille ที่พร้อมเสิร์ฟสเต็กเกรดเอ Signature ของเรือ, ร้านอาหาร Wonderland ตกแต่งสไตล์การ์ตูนชือดัง Alice in the Wonderland, ผับสไตล์ American Gastropub แห่งแรกกลางท้องมหาสมุทร อย่าง Michael’s Genuine Pub, Vintages และ Schooner Bar อีกหนึ่ง Highlight กับหุ่นยนต์บาร์เทนเดอร์ ที่ Bionic Bar บาร์โฉมใหม่ล่าสุดที่ออกแบบให้แขกสั่งเครื่องดื่มผ่านแท็บเล็ต จากนั้นก็รอเครื่องดื่มที่ชงโดยหุ่นยนต์อัจฉริยะ เหมือนชมการแสดงอย่างเพลิดเพลิน

เดินผ่านโถงและลิฟต์แก้วกว่า 12 ตัวบริเวณกลางเรือมีร้าน Omega และ Cartier เมื่อเดินไปจนสุดทางด้านตอนท้ายเรือจะเจอกับเลาจ์นเอนเตอร์เทนเมนท์ขนาดใหญ่ Two70° ที่มีกระจกใสเรียงต่อเนื่องกันสูงถึง 3 ชั้น เห็นวิวทะเลแบบพาโนราม่า 270 องศาในตอนกลางวัน ส่วนในตอนกลางคืนที่แห่งนี้จะเปลี่ยนเป็นสถานบันเทิงและโรงละครขนาดใหญ่บนเรือที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย พาแขกเดินทางไปพร้อมความตื่นตาตื่นใจของโชว์ตระการตาและปาร์ตี้สุดมันส์

ส่วนบริเวณด้านหน้าเรือครอบคลุมทั้งชั้น 4 – 5 เป็นส่วนของ Royal Theater สถานที่จัดการแสดงละครเวที คอนเสิร์ต หรือมิวสิคเคิลระดับโลก ซึ่งจะเปลี่ยนตารางไปไม่ซ้ำกัน ทั้งนี้แขกทุกคนจะต้องดูตารางในเอกสารที่จะมีพนักงานทำความสะอาดคอยมาเปลี่ยนให้ทุกวัน สนใจดูโชว์ไหนก็ไปตามช่วงเวลานั้น (แอบกระซิบว่าควรไปเลือกที่นั่งก่อนการแสดงเริ่มสัก 15 นาที)

เดินลงไปที่ชั้น 4 บริเวณที่เรียกว่า Royal Esplanade มีร้านค้าและแหล่งช้อปปิ้งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านแบรนด์เนมสัญชาติอเมริกันอย่าง Kate Spade และ Michael Kors ร้านเครื่องสำอาง ร้านนาฬิกา ร้านเครื่องประดับ และอื่นๆ ที่ชั้นนี้ยังมี Music Hall สำหรับจัดกิจกรรมทางดนตรีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น การแสดงดนตรีสด คอนเสิร์ต ดีเจ ธีมไนท์ปาร์ตี้ คลาสสอนเต้นรำ และอื่นๆ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่ไม่เคยหลับใหล นอนไม่หลับเมื่อไหร่ก็เดินมาสนุกกับดนตรีในห้องนี้ได้เลย

พอเรือสำราญเคลื่อนออกไปกลางมหาสมุทร บริเวณชั้น 3 ซึ่งเป็นพื้นที่ของ Casino ก็จะเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเสี่ยงดวงเสี่ยงโชค พื้นที่นี้จะมีเวลาเปิด-ปิดอย่างชัดเจนเพื่อไม่ให้กระทบต่อกฎหมายของแต่ละประเทศ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่การเข้าคาสิโนยังไม่ใช่เรื่องถูกกฎหมาย ดังนั้นเมื่อเรือเข้าน่านน้ำไทยพื้นที่ของ Casino ก็จะปิดให้บริการทันที

อย่างที่เขาบอกว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง หลังจากเดินสำรวจพื้นที่บริการด่านล่างแล้ว เราก็ขึ้นมาที่ชั้น 14  เพื่อทานอาหารบัฟเฟต์นานาชาติที่ห้องอาหาร Windjammer Marketplace ห้องอาหารขนาดใหญ่ที่รวบรวมอาหารหลากหลายสัญชาติ ทั้ง จีนอเมริกัน อินเดีย แม็กซิกัน ญี่ปุ่น และอื่นๆ เมื่ออิ่มท้องเราก็เดินออกไปในส่วนกลางแจ้ง ทันทีที่ก้าวขาออกไปก็ได้ยินเสียงความสนุกสนานจากครอบครัวและเด็กๆ ที่มาเล่นสวนน้ำ ซึ่งมีทั้งกลางแจ้งและในร่มทั้งหมดรวม 3 สระ บริเวณริมสระแต่ละแห่งจะมีอ่างจากุชชี่ขนาดใหญ่ แบ่งเป็นอ่างน้ำอุ่นและน้ำเย็นให้ได้แช่ผ่อนคลาย พร้อมเตียงผ้าใบล้อมรอบบริเวณเพื่อให้คนที่มาเที่ยวได้นอนพักผ่อนและชมวิวสวยๆกันอย่างสบายใจ

เดินต่อขึ้นไปที่ชั้น 15 เพื่อสนุกกับกิจกรรมในร่มที่ SeaPlexsm หรือลานอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นศูนย์เอนเตอร์เทนเมนท์อย่างลานรถบั๊มพ์ สนามกีฬา และลานโรลเลอร์สเก็ต ซึ่งในแต่ละวันจะมีตารางที่บอกว่าจะมีกิจกรรมอะไรจัดขึ้นที่ลานแห่งนี้บ้าง เราได้สนุกกับ Bumper Cars หรือรถบั้มพ์ท่ามกลางแสงสีและเสียงเพลงจากดีเจที่คอยกระตุ้นให้แขกทุกเพศทุกวัยสนุกสนานและได้ปลดปล่อยความเป็นตัวตน ยังมีชั้นลอยในบริเวณเดียวกันที่รวบรวมห้องกิจกรรมอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะปิงปอง, แอร์ฮ็อคกี้, โต๊ะฟุตบอล, เกมส์เพลย์สเตชั่น และเครื่องเล่นอื่นๆมากมาย ใกล้กับลานกิจกรรมมีโซนตู้เกมส์หยอดเหรียญที่พิเศษกว่าตู้เกมส์ทั่วไป เพราะของรางวัลในนั้นเต็มไปด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ต่างๆ อาทิ กล้องโกโปร, นาฬิกาสมาร์ทวอช, ไอพอท และอื่นๆ เรียกได้ว่าของรางวัลสมกับที่เรือลำนี้ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดแห่งเรือที่มีเทคโนโลยีทันสมัยที่สุดลำหนึ่งของโลก

ออกจากลาน Seaplexsm จะพบกับลานกีฬากลางแจ้งหรือ Sports Court ที่รวมกิจกรรมแปลกใหม่ให้ร่วมประสบการณ์มากมาย อาทิ หน้าผาจำลอง, เครื่องเล่นเซิร์ฟซิมูเลเตอร์ FlowRider และฟีเจอร์ใหม่อย่าง RipCord by iFly เครื่องเล่นสกายไดว์วิ่งครั้งแรกกลางท้องทะเลที่ให้เราสัมผัสประสบการณ์เสมือนดิ่งผสุธาจำลอง ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว เราเลยตัดสินใจไปลงทะเบียนเพื่อร่วมบิน!

ก่อนจะสนุกกับ RipCord by iFly แขกทุกคนต้องเข้าคอร์สเทรนนิ่งซึ่งผู้ฝึกสอนจะฉายวีดีโอสอนท่าทางที่ถูกต้องระหว่างการเล่น และบอกความหมายของสัญญาณมือให้ทราบก่อน หลังจากนั้นจะพาไปสวมชุดสูทสำหรับการบิน, ใส่แว่นตา และหมวกกันน็อค พาเดินเข้าไปในหอแก้วใสสูง 23 ฟุต เพื่อให้ลอยฟรีสไตล์อยู่บนอากาศท่ามกลางทิวทัศน์ของมหาสมุทร และวิวของ FlowRider ที่อยู่ท้ายเรือ ความตื่นเต้น สนุกสนาน และความสวยงามของท้องทะเลมันสุดบรรยายจริงๆ

เดินออกมาอีกหน่อย เห็นคนต่อคิวยาวเพื่อขึ้นแคปซูลกระจกใส อีกหนึ่ง Highlight ของเรือที่จะพาขึ้นสูง 300 ฟุตเพื่อชื่นชมทัศนียภาพของท้องทะเลแบบ 360 องศา เราเลยไม่พลาดกับกิจกรรมนี้ด้วย รีบเข้าคิวเพื่อขึ้นไปชมความสวยงามของมหาสมุทรตัดกับสีสันความสนุกสนานของเรือจากมุมสูงดูบ้าง เราใช้เวลาอยู่ใน North Star ประมาณ 15 นาที เป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่าและสุดพิเศษบนเรือสำราญลำนี้

อ่านจบแล้วก็เตรียมจองตั๋วไปล่องเรือกันได้เลย Let’s go sailing!

วิธีการเที่ยวด้วยเรือสำราญทำได้ง่ายๆดังนี้

1. ตั้งเป้าหมายว่าต้องการไปเส้นทางไหน และเลือกตารางการเดินเรือให้ตรงตามจุดหมายปลายทางที่ฝันไว้
2. ระบุเรือที่ชื่นชอบ ดูขนาด การบริการ ความสะดวกสบาย ห้องอาหาร กิจกรรมภายใน และค่อยเลือกเรือตามจุดหมายปลายทางที่ต้องการได้เลย

World Surprise Travel ผู้เชี่ยวชาญด้านเรือสำราญโดยตรงได้เลือกตารางการเดิ

นทางของเรือ Ovation of the Seas 3 เส้นทางที่น่าสนใจมาให้แล้ว  สามารถดูรายละเอียดได้ที่ http://www.worldsurprise.com/ovation-of-the-seas/

สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ovation of the Seas ได้ที่
Telephone.: 02 634 8877
Website:
www.worldsurprise.com/fit/
Instagram:
www.instagram.com/worldsurprisetravel
Line: @worldsurprise





Comments

comments