Malta & Sicily The Wonders of Mediterranean
25 MAY - 3 JUN 2025 (LH)

DAY1

อา. 25 พ.ค. 68

กรุงเทพฯ

20.00 น.
พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณชั้นผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตู 4 แถว G เคาน์เตอร์สายการบินลุฟท์ฮันซ่า 
เจ้าหน้าที่ เวิลด์ เซอร์ไพร้ส รอต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวก
23.00 น.
โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า เที่ยวบินที่ LH773 นำท่านเหินฟ้าสู่ มิวนิก ประเทศเยอรมนี
พักค้างแรมบนเครื่องบิน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 ชั่วโมง 30 นาที)

DAY2

จ. 26 พ.ค. 68

มิวนิก – มอลต้า – วัลเลตตา – สวนอัพเปอร์ บาร์รักก้า – ล่องเรือไดซา – เซนต์จูเลียนส์

เช้า
อาหารเช้า บริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม
05.30 น.
ถึงท่าอากาศยาน มิวนิก ประเทศเยอรมนี หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร แล้วแวะพัก เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง (ประมาณ 4 ชั่วโมง)
09.35 น.
โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า เที่ยวบินที่ LH1924 นำท่านเหินฟ้าสู่ มอลต้า (ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 20 นาที)
กลางวัน
อาหารกลางวัน บริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม
11.55 น.
ถึงท่าอากาศยานนานาชาติมอลต้า ประเทศมอลต้า หลังจากตรวจเช็คสัมภาระแล้ว นำท่านเดินทางสู่ วัลเลตตา เมืองหลวงแห่งประเทศมอลต้า

เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นโดยอัศวินแห่งเซนต์จอห์นหลังการโจมตีครั้งใหญ่โดยออตโตมานในปี ค.ศ.1565 เป็นเมืองที่มีป้อมปราการที่กล่าวกันว่า “สร้างโดยสุภาพบุรุษเพื่อสุภาพบุรุษ” และมีอนุสาวรีย์มากกว่า 320 แห่งในรัศมี 400 เมตร

วัลเลตตา เป็นเมืองหลวงแบบบาโรก และยังได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรปในปี ค.ศ. 2018 นับว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์มากเมืองหนึ่งของยุโรป เนื่องจากการผสมผสานที่ลงตัวของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมตั้งแต่ดีตจนถึงปัจจุบันที่มีชีวิตชีวา

แล้วนำท่านชม สวนอัพเปอร์ บาร์รักก้า สวนสวยที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ส่วนบุคคล แต่ภายหลังได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมในปี ค.ศ.1824 ภายในสวนประกอบไปด้วย Upper Barracca และ Lower Barracca

ในส่วน Upper นั้นได้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1661 โดยอัศวินชาวอิตาเลียน จากบริเวณสวนจะเห็นวิวของอ่าวแกรนด์ฮาร์เบอร์ได้ชัดเจน

จากนั้น นำท่าน ล่องเรือไดซา (Dgħajsa) ชมทัศนียภาพที่สวยงามของเมืองวัลเลตตา และชายฝั่งทะเลแถบเมดิเตอร์เรเนียน
*หากสภาพอากาศและคลื่นลมแรง ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการล่องเรือ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสำคัญ
ค่ำ
อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม The Westin Dragonara Resort Malta 5 ดาว หรือโรงแรมในระดับเดียวกัน 

DAY3

พ. 27 พ.ค. 68

เซนต์จูเลียนส์ – เกาะโกโซ – Dwejra Bay – Xlendi Bay – ทะเลใน Dwejra – The Citadella & Victoria – เกาะมอลต้า – ป๊อปอายวิลเลจ – เซนต์จูเลียนส์

เช้า
อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางโดยเรือเฟอร์รี่สู่ เกาะโกโซ (Gozo Island) หรือ เกาะแห่งคาลิปโซ่ ซึ่งเป็นเกาะที่งดงามทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน อีกทั้งยังได้รับฉายาว่าเป็นเกาะน้องสาวของมอลต้า ที่มีทิวทัศน์อันสวยงามไม่ต่างจากพี่สาว

เกาะนี้ มีประชากรเพียง 40,000 คน แต่พบว่ามีภาษาถิ่นที่ใช้ทั้งหมดเกือบ 11 ภาษา มีชายฝั่งคดเคี้ยวอันงดงามเหมาะแก่การมาพักผ่อน
จากนั้น นำท่านสู่ Dwejra Bay ก้อนหินสูงประมาณ 60 เมตร อยู่กลางทะเลสาบ ใกล้ๆบริเวณหน้าผาสูงชันทางฝั่งตะวันตกของโกโซ เป็นส่วนที่แสดงให้เห็นว่าในอดีตบริเวณแห่งนี้เคยเป็นถ้ำ แล้วเกิดการทรุดตัวลง ทำให้บางส่วนจมอยู่ในทะเสสาบ และบางส่วนแยกตัวออกซึ่งก็คือส่วนของ Fungus Rock

ในปัจจุบัน โดยในอดีตสมัยยุคของอัศวินเซนต์จอห์น จะมีเห็ดบางชนิดที่เติบโตบนหินแห่งนี้ จึงเป็นที่มาของชื่อ Fungus Rock ซึ่งความจริงแล้วในปัจจุบันไม่มีเห็ดหรือเชื้อราบนหินนี้แล้ว

จากนั้น นำท่านชม ทะเลใน Dwejra เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่มีหน้าผาโอบล้อม ซึ่งเชื่อมต่อกับทะเลเปิดโดยอุโมงค์ที่ไหลผ่านแหลม Dwejra Point เป็นอุโมงค์ที่มีระยะทาง 100 เมตร ที่เรือเล็กๆ สามารถแล่นผ่านได้ในสภาพอากาศที่สงบ

ทะเลในถูกใช้เป็นที่พักของชาวประมงมานานหลายศตวรรษ ทุกวันนี้ชาวประมงมีรายได้เสริมจากการพานักท่องเที่ยวล่องเรือลอดผ่านอุโมงค์ และชมทิวทัศน์ของหน้าผาหิน

กลางวัน
อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ อ่าว Xlendi อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่มีวิวทัวทัศน์แสนวิเศษ และหลากหลายด้วยร้านอาหารซีฟู้ดต่างๆ

จากนั้น นำท่านสู่ The Citadella & Victoria ป้อมปราการที่มีขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่กลางเกาะโกโซที่มีอายุที่ยาวนานตั้งแต่ยุคสำริดและพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงยุคโรมัน

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางโดยเรือ Ferry กลับสู่เกาะมอลต้า

แล้วนำท่านแวะถ่ายรูปที่จุดชมวิว ป๊อปอายวิลเลจ (Popeye Village) หรือที่รู้จักกันในชื่อ Sweethaven Village เป็นหมู่บ้านที่จำลองขึ้นเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์มิวสิคัลเรื่อง Popeye แสดงนำโดย โรบิน วิลเลียมส์ ในปี ค.ศ. 1980 

จากนั้นได้รับการดัดแปลงให้เป็นสวนสนุกเล็กๆ ที่น่าดึงดูดใจ ด้วยบ้านไม้หลังเล็กๆ แบบชนบทริมทะเล และเป็นบ้านของตัวละครจากภาพยนตร์อีกด้วย เช่น Popeye, Olive Oyl, Bluto และ Wimpy (ชมวิวจากภายนอกเท่านั้น)

ค่ำ
อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม The Westin Dragonara Resort Malta 5 ดาว

หรือโรงแรมในระดับเดียวกัน 


DAY4

พฤ. 28 พ.ค. 68

เซนต์จูเลียนส์ – เมดิน่า – นั่งรถไฟโบราณชมเมือง – Local Farm – พลาลาซโซ พาริซิโอ – โบสถ์มอสต้าโดม – เซนต์จูเลียนส์

เช้า
อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ เมดิน่า (Mdina) อดีตเมืองหลวงของประเทศมอลต้า เมืองเล็กๆ ที่เจริญด้วยประวัติศาสตร์เหล่านี้ ถูกล้อมรอบด้วยแนวกำแพงเมืองยุคกลาง ซึ่งเป็นเครื่องหมายสำคัญของการแสดงอาณาเขตของเมืองที่รู้จักกันทั่วไปว่า “Silent city”

จากนั้น นำท่านเปลี่ยนบรรยากาศ นั่งรถไฟเที่ยวชมสถานต่างๆที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและสถาปัตยกรรม อีกทั้งยังให้ความสนุกสนาน โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 30 นาที

แล้วนำท่านเดินชมเมืองหลวงเก่า เมดิน่า ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ทั้งกลางวันและยามค่ำคืน นำท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับทางเข้าหลักของเมือง ที่เคยเป็นฉากประกอบภาพยนตร์ Game of Thrones

แล้วนำท่านเดินทางสู่ ฟาร์มในชนบท ที่เกษตรกรรมคือส่วนหนึ่งในวิถีชีวิต แต่ละหมู่บ้านต่างมีผลิตผลที่แตกต่างกันไป นำท่านลองชิมผลิตผลสดใหม่จากเกษตรกร พบปะกับคนในท้องถิ่น สัมผัสชีวิตประจำวันของพวกเขา

กลางวัน
อาหารกลางวัน ภายในฟาร์ม บริการท่านด้วยอาหารท้องถิ่นมอลต้าที่ปรุงจากวัตถุดิบสดใหม่จากฟาร์ม

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ พลาลาซโซ พาริซิโอ ซึ่งขุนนาง Giuseppe Scicluna ได้ซื้อวังแห่งนี้ในปีค.ศ 1898 และทำให้ที่นี่ได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ และวังนี้อยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ในสภาพสมบูรณ์แบบดั้งเดิม

ขุนนาง Scicluna เป็นนายธนาคารและพ่อค้าชาวมอลต้าผู้มั่งคั่ง เขาได้ทำให้วังแห่งนี้เป็นตัวแทนของงานศิลปะของมอลต้า ผสมผสานความเป็นศตวรรษที่ 19 และผลงานของศิลปินชาวอิตาลี ทำให้สถานที่นี้มีประวัติศาสตร์ และเป็นมรดกที่น่าภาคภูมิใจ

แล้วนำท่านเปลี่ยนบรรยากาศมาจิบน้ำชายามบ่าย อาฟเตอร์นูนที บริการท่านด้วยชาหอมกรุ่นรสละมุน เสริฟพร้อมแซนวิชแสนอร่อย และเบเกอรี่หลากหลายชนิด

จากนั้น นำท่านชม โบสถ์มอสต้าโดม ที่ไม่ได้เป็นเพียงโบสถ์ แต่ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกด้วยการก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1833 และเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1860 โดยจำลองแบบมาจากวิหารแพนธีออนในกรุงโรม เป็นโดมของโบสถ์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ในกรุงโรม และโบสถ์เซนต์พอลส์ในลอนดอน

อีกเรื่องราวที่น่าสนใจที่สุด คือสิ่งที่เกิดขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 9 เมษายน ปี ค.ศ. 1942 เมื่อเยอรมันทิ้งระเบิดลงบนหลังคาโบสถ์ ระเบิดเจาะลงกลางโดมซึ่งมีนักบวชอยู่ข้างในโบสถ์ แต่กลับไม่เกิดการระเบิดชึ้น ชาวเมืองจึงเชื่อว่านี่คือเรื่องปาฏิหาริย์ของโบสถ์แห่งนี้

ค่ำ
อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม The Westin Dragonara Resort Malta 5 ดาว หรือโรงแรมในระดับเดียวกัน 


DAY5

พ. 29 พ.ค. 68

เซนต์จูเลียนส์ – ท่าเรือเฟอร์รี่มอลต้า – โมดิกา – โรงงานช็อกโกแลต – ชิมช็อกโกแลตโมดิกา – รากูซา – ชมเมืองรากูซาโดยรถไฟสายบาโรก

เช้า
อาหารเช้า บริการท่านด้วย Breakfast Box
05.30 น
นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือเฟอร์รี่มอลต้า
06.30 น
เรือเฟอร์รี่นำท่านเดินทางสู่ เกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี
08.15 น
ถึงท่าเรือปอซซัลโล เกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี แล้วนำท่านเดินทางสู่ โมดิกา (Modica) เมืองอันงดงามในหุบเขาที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสี่ลูก หนึ่งในแปดเมืองมรดกโลก ‘Val di Noto’ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะซิซิลี

หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1693 เมืองเก่าในยุคกลาง ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่แทนที่ด้วยอาคารสไตล์บาโรกที่สวยงาม โบสถ์ที่ตกแต่งอย่างงดงาม พระราชวัง ทั้งเมืองเก่าและเมืองใหม่ที่เชื่อมต่อกันด้วยถนนและทางเดินที่คตเคี้ยวราวกับเขาวงกตและบันไดแคบๆ

แล้วนำท่านชม โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ (Duomo di San Pietro Apostolo) โบสถ์สไตล์บาโรกที่มีความสำคัญ ซึ่งได้รับการบูรณะให้กลับสู่สภาพเดิมหลังจากแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1693 แหล่งมรดกโลกของยูเนสโกแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมบาโรกที่งดงามตระการตา และมีบันไดอันน่าทึ่งที่ประดับประดาด้วยรูปปั้นอัครสาวกทั้ง 12 องค์ที่ด้านหน้าโบสถ์ โบสถ์แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนโมดิกา

จากนั้น นำท่านสู่ ร้านช็อกโกแลต Antica Dolceria Bonajuto ซึ่งผลิตช็อกโกแลตมายาวนานกว่า 150 ปีแล้ว นอกจากนี้ยังสืบทอดขนมหวานนูเกต ขนมขึ้นชื่อของโมดิกาและซิซิลีอีกด้วย นำท่านชิมและเลือกซื้อช็อกโกแลตที่ขึ้นชื่อของโมดิกา

กลางวัน
อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านสู่ รากูซา (Ragusa) เมืองมรดกโลก UNESCO ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะซิซิลี มีย่านรากูซาอิบลา (Ragusa Ibla) เป็นย่านเมืองเก่าเป็นที่ตั้งของอาคารสไตล์บาโรกหลายแห่ง เช่น Duomo di San Giorgio ซึ่งเป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ที่มีภาพวาดและหน้าต่างกระจกสีอันงดงาม 

มีสวนสาธารณะ Giardino Ibleo ที่มีโบสถ์และน้ำพุและจุดชมทัศนียภาพที่กว้างไกลของเมือง อีกย่านหนึ่งคือ ย่านรากูซาซูพีเรีย (Ragusa Superiore) ย่านนี้เป็นส่วนที่ทันสมัยกว่าของเมือง มีวิหารรากูซาอันวิจิตรงดงามซึ่งมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะทางศาสนาและวัตถุโบราณอันมีค่าถูกเก็บรักษาไว้ที่นี่

แล้วนำท่าน ชมเมืองรากูซาโดยรถไฟสายบาโรก รถไฟขนาดเล็กที่จะนำท่านชมสถานที่สำคัญและสวยงามของเมืองในย่านรากูซาอิบลา เริ่มจาก Piazza Duomo ที่ตั้งของมหาวิหาร San Giorgio อันสง่างามในแบบซิซิเลียนบาโรก และมีถนนสไตล์บาโรกที่สวยงาม

ผ่านชมคฤหาสน์ลาร็อคคา และคฤหาสน์ซอร์ติโนโตรโน คฤหาสน์ชนชั้นสูงในสมัยศตวรรษที่ 18 สถานที่น่าสนใจอีกแห่งใน รากูซาอิบลา คือซุ้มประตูใหญ่ที่มีชื่อเสียงของมหาวิหารซานจิออร์จิโออันเก่าแก่ ซึ่งรอดจากแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1693 และที่อยู่ติดกันคือสวน Iblei ที่สวยงาม

ค่ำ
อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม Villa Carlotta หรือในระดับเดียวกัน


DAY6

ศ. 30 พ.ค. 68

รากูซา – โนโต – โบสถ์เซนต์นิโคลัส – ซิราคูซ่า – อุทยานโบราณคดีนีอาโพลิส – ซิราคูซ่าดูโอโม

เช้า
อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ โนโต (Noto) เมืองซึ่งตั้งอยู่บริเวณตีนเขา Iblean เมืองซึ่งมีอาคารสถาปัตยกรรมแบบบาโรกแห่งนี้ ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ใหม่หลังจากเกิดแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1693 ศูนย์กลางของเมืองมีสวนคลาสสิก น้ำพุอันวิจิตร วัง โบสถ์ และคฤหาสน์มากมาย

แล้วนำท่านชม โบสถ์เซนต์นิโคลัส (San Nicolo Cathedral) อาสนวิหารซึ่งตั้งอยู่บนชั้นสูงสุดของขั้นบันไดขนาดใหญ่ โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นไม่กี่เดือนหลังจากเหตุแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1693 แต่แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1770 ส่วนด้านหน้ามีการประดับประดาตกแต่งไม่มากนัก โดยการผสมผสานลวดลายแบบบาโรกและองค์ประกอบแบบคลาสสิก 

ทางเดินเข้าทั้งสามทางของโบสถ์ถูกแบ่งด้วยเสาที่สูงใหญ่ ในโบสถ์ที่ด้านล่างของทางเดินด้านขวาจะมีโกศเงินของ San Corrado นักบุญอุปถัมภ์ของเมือง ในปี ค.ศ. 1996 ส่วนของโดมเคยทรุดตัวลงมา เป็นผลมาจากโครงสร้างที่ไม่ได้รับการแก้ไขซึ่งเกิดจากแผ่นดินไหว

การสร้างใหม่ใช้เวลามากกว่า 10 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 2007 ด้วยการผสมผสานเทคนิคสมัยใหม่ และเทคนิคโบราณจากศตวรรตที่ 17 โดยใช้วัสดุในสมัยนั้น ทำให้โบสถ์แห่งนี้ได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ UNESCO

กลางวัน
อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ ซิราคูซ่า (Siracusa) เมืองชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเมืองที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ 734 ปีก่อนคริสตกาล เป็นศูนย์กลางการประมง และ การเกษตรโดยมีส้มและมะกอกเป็นสินค้าหลัก 

แล้วนำท่านชม โรงละครกรีก ที่ชาวกรีกโบราณใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างโดยการขุดเจาะภูเขาทั้งลูก โดยที่ไม่มีการขุดเอาหินจากที่อื่นมาสร้างเป็นอัฒจันทร์เลย สามารถจุผู้ชมได้ถึง 16,000 คน โดยแบ่งที่นั่งออกเป็น 9 ส่วน ๆ ละ 63 แถวและถูกจัดให้เป็นประติมากรรมจากหินที่ใหญ่ที่สุดชิ้นหนึ่งของโลก

จากนั้น นำท่านสู่ อุทยานโบราณคดีนีอาโพลิส (The Archaeological Park of Neapolis) ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงละคร Teatro Greco สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาล และสร้างขึ้นใหม่ในศตวรรษที่ 3 อัฒจันทร์สามารถจุคนดูได้ถึง 16,000 คน ในทุกๆ ปีตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนกรกฎาคมจะมีการจักแสดงละครคลาสสิกที่นี่

ข้างโรงละครมีเหมืองหินปูนที่ลึกและสูงชันซึ่งใช้สกัดหินสำหรับสร้างเมืองโบราณ ด้านในเต็มไปด้วยสุสานใต้ดิน และต้นส้มและต้นแมกโนเลีย ซึ่งครั้งหนึ่งผู้รอดชีวิต 7,000 คนจากสงครามระหว่างซีราคิวส์และเอเธนส์ใน 413 ปีก่อนคริสตกาลเคยถูกคุมขังไว้ที่นี่ 

ที่ด้านนอกยังมีลานต่อสู้แบบกลาดิเอเตอร์ และสนามแข่งม้าในสมัยศตวรรษที่ 2 ชาวสเปนเริ่มเข้ามาในศตวรรษที่ 16 และได้ทำลายสถานที่ส่วนใหญ่ เพื่อนำหินไปสร้างกำแพงเมืองออร์ทีเจีย ทางตะวันตกของอัฒจันทร์คือแท่นหินบูชาขนาดใหญ่ในศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล มีการฆ่าวัวมากถึง 450 ตัวในคราวเดียว

จากนั้น นำท่านชม ซิราคูซ่าดูโอโม (Duomo di Siracusa)โบสถ์คู่บ้านคู่เมืองของซิราคูซ่า ในสมัยกรีกพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นสถานที่ตั้งของวิหารเทพี Athena ต่อมาโดนบุกรุกโดยชาวคริสต์ และถูกเปลี่ยนเป็นโบสถ์ โดยมีการสร้างโบสถ์ทับลงไบในโครงสร้างเดิม ดังนั้นเสาดั้งเดิมตั้งแต่สมัยกรีกทั้ง 26 ต้นจึงยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน

หลังจากนั้นเกิดแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1693 จึงได้รับการซ่อมบูรณะอีกทีในศตวรรษที่ 18 และได้มีการใช้ศิลปะสไตล์บาโรกในการตกแต่งใหม่ทั้งหมด อิสระให้ท่านถ่ายรูป จัตุรัสดูโอโม่ ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของมหาวิหาร อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของซิราคูช่า
ค่ำ
อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม Grand Hotel Des Ètrangers หรือในระดับเดียวกัน


DAY7

ส. 31 พ.ค. 68

ซิราคูซ่า – ทาโอร์มิน่า – ล่องเรือชมชายฝั่งของทาโอร์มิน่า – โรงละครกรีกโบราณ – จุดชมวิวจตุรัส Piazza IX Aprile – ถนนคอร์โซ

เช้า
อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางเลียบริมฝั่งทะเลไอโอเนียน ที่มีธรรมชาติอันสวยงามระหว่างทางให้ท่านได้พักผ่อนและชื่นชมกับวิวทิวทัศน์ที่เป็นสวนส้ม สวนมะกอก สลับไปกับทุ่งหญ้าที่มีดอกไม้ป่าสีเหลืองอร่ามอยู่เต็มท้องทุ่งเพื่อ

เดินทางไปสู่เมืองที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในเกาะ ซิซิลี นั้นก็คือ ทาโอร์มิน่า เมืองเล็กๆ บนเขาริมผาที่ทุกบ้านหันหน้าไปทางเดียวกันหมดเพื่อมองทะเลเบื้องล่างได้ตลอดเวลา ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดบนเกาะซิซิลี

แล้วนำท่าน ล่องเรือชมชายฝั่งของทาโอร์มิน่า และอ่าว Giardini Naxos เอนหลังพักผ่อนสบายๆ และอาบแดด ในขณะที่เรือนำท่านล่องชมอุทยานทางทะเล เกาะแบลลา (Isola Bella) ชมถ้ำสีฟ้าที่สวยงามของทาโอร์มินา และน้ำทะเลที่ใสราวกับคริสตัลของอ่าวเมอร์เมดส์ ชายหาดที่เหมาะสำหรับการดำน้ำตื้น 

บริการท่านด้วยผลไม้และเครื่องดื่มเย็นๆ ท่านสามารถเพลิดเพลินกับการว่ายน้ำในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสีฟ้า ชมอ่าวมาซซาโร ถ้ำคู่รัก และสถานที่อันน่าอัศจรรย์อื่นๆ ในระหว่างที่ล่องไปในทะเลซิซิลีแห่งนี้ 

แล้วนำท่านขึ้นกระเช้าเคเบิ้ลคาร์ จากบริเวณชายหาดมาซซาโร ผ่านหน้าผาสูงชัน สู่ศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของทาโอร์มินา แล้วนำท่านเดินชมเมืองทาโอร์มินา

จากนั้นนำทุกท่านเข้าชม โรงละครกรีกโบราณ (Greek Theater) ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ก่อนคริสตกาล ท่านจะได้สัมผัสกับภูมิปัญญาของชาวกรีกโบราณในการส่งต่อคลื่นเสียง เพราะไม่ว่าท่านจะอยู่มุมใดในโรงละครก็.ตามแต่ ท่านจะได้ยินเสียงจากลานเวทีซึ่งอยู่ด้านล่างได้อย่างทั่วถึง
แล้วนำท่านสู่ จุดชมวิวจตุรัส Piazza IX Aprile จตุรัสแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์อันสวยงามของทะเลไอโอเนียนสีฟ้าและภูเขาเอตนา มีร้านกาแฟเก๋ๆ เรียงรายกัน เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว และศิลปินนักวาดภาพการ์ตูน 

ท่านสามารถนั่งจิบคาปูชิโน่และเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่ผ่อนคลายของทาโอร์มินา

แล้วนำท่านเดินชมถนนสายหลักของเมือง ถนนคอร์โซ (Corso Umberto) ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นถนนสายช้อปปิ้งของเมือง อิสระให้ท่านได้ซื้อของฝากตามอัธยาศัย
ได้เวลาอันสมควร นำท่านขึ้นกระเช้าเคเบิ้ลคาร์ กลับลงสู่บริเวณชายหาดมาซซาโร

แล้วนำท่านเดินทางสู่ ทาโอร์มิน่า
ค่ำ
อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม Atlantis Bay 5 ดาว หรือโรงแรมในระดับเดียวกัน

DAY8

อา. 1 มิ.ย. 68

ทาโอร์มิน่า – ภูเขาไฟเอ็ตนา – ขึ้นเคเบิ้ลคาร์สู่ยอดเข้าเอ็ตน่า – ขึ้นรถบัส 4X4 ชมปากปล่องภูเขาไฟ – ไวน์เนอรี่ – ชิมไวน์ซิซิลี – ทาโอร์มิน่า

เช้า
อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ภูเขาไฟเอ็ตนา สำรวจภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปที่ยังคงคุกรุ่น ภูเขาไฟเอ็ตนาสูง 3,327 เมตรและมีเส้นผ่านศูนย์กลางฐานเฉลี่ย 40 กิโลเมตร จากยอดภูเขาไปสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ทั่วทั้งภูมิภาค 

การปะทุและกระแสลาวาที่ลุกเป็นไฟ นั้นดึงดูดความสนใจของนักวิทยาศาสตร์ และผู้มาเยือนจากทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2013 ภูเขาไฟเอ็ตนาได้ภูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ UNESCO ทางธรณีวิทยา
แล้วนำท่านโดยสารกระเช้าเคเบิ้ลคาร์ สู่สถานีด้านบนของภูเขาเอ็ตน่าที่ความสูงประมาณ 2,500 เมตร ชมทิวทัศน์ที่แปลกตาของภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ เมื่อถึงสถานีปลายทาง นำท่านขึ้นรถบัส 4X4 แบบพิเศษ ที่ขับขี่โดยผู้เชี่ยวชาญ รถบัสนำท่านไต่ระดับความสูงขึ้นสู่ปากปล่องภูเขาไฟเอ็ตน่า

ท่านจะพบกับฉากความงามที่หาที่เปรียบมิได้ซึ่งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล จากจุดนี้ท่านจะสามารถชื่นชมปล่องภูเขาไฟที่สูงตระหง่าน ปากปล่องตะวันออกเฉียงใต้ และร่องรอยกระแสลาวา เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและประทับใจครั้งหนึ่งในชีวิต
จากนั้น นำท่านโดยสารกระเช้าเคเบิ้ลคาร์ กลับสู่สถานีด้านล่าง
กลางวัน
อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านชม ไวน์เนอรี่ และให้ท่านไปได้ลองชิมไวน์ซิซิลี ไวน์ซิซิลีผ่านการกลั่นในหลากหลายรูปแบบ และรสชาติก็ขึ้นอยู่กับสถานที่ปลูกองุ่น วิธีดูแลองุ่น และบ่มในภาชนะประเภทใด  ไวน์จากซิซิลีมีทั้งไวน์แดง ไวน์ขาว โรเซ่ และไวน์สีส้ม แม้ว่าไวน์ของเกาะซิซิลีส่วนใหญ่จะผ่านการกลั่นแบบดราย์ แต่ซิซิลีก็มีการผลิตสวีทไวน์เช่นกัน

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ ทาโอร์มิน่า อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยภายในโรงแรมที่พัก
ค่ำ
อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม Atlantis Bay 5 ดาว หรือโรงแรมในระดับเดียวกัน


DAY9

จ. 2 มิ.ย. 68

ทาโอร์มิน่า – คาตาเนีย – ช้อปปิ้งในคาตาเนีย – ท่าอากาศยานคาตาเนีย – มิวนิก

เช้า
อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ คาตาเนีย (Catania) เมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและศิลปะ ตั้งแต่รูปแกะสลักสไตล์บาโรกสีขาว แวววาว ซึ่งเป็นมรดกโลกยูเนสโก ไปจนถึงรูปแกะสลักรูปช้างด้วยหินบะซอลต์สีดำสัญลักษณ์ที่โด่งดังที่สุดของเมืองคาตาเนีย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี ที่คอยต้อนรับผู้มาเยือนที่จตุรัสดูโอโมใจกลางเมือง
จากนั้น นำท่านโดยสารกระเช้าเคเบิ้ลคาร์ กลับสู่สถานีด้านล่าง
กลางวัน
อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร อิสระให้ท่านเดินเล่นช้อปปิ้งในเมืองคาตาเนียตามอัธยาศัย

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยาน คาตาเนีย
18.35 น.
โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า เที่ยวบินที่ LH1909 นำท่านเหินฟ้าสู่ มิวนิก ประเทศเยอรมนี (ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง 15 นาที)
ค่ำ
อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม
20.50 น.
ถึงท่าอากาศยาน นครมิวนิ ประเทศเยอรมนี แวะพักเพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง (ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที)
22.20 น.
โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า เที่ยวบินที่ LH773 นำท่านเหินฟ้าสู่ประเทศไทย (ใช้เวลาเดินทาง 10 ชั่วโมง 50 นาที)

DAY10

อ. 3 มิ.ย. 68

กรุงเทพฯ

เช้า
อาหารเช้าบริการบนเครื่องบิน พร้อมเครื่องดื่ม
14.10 น.
ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ

ดาวน์โหลดโปรแกรมการเดินทาง

อัตราค่าบริการ

ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน

259,900.-

10 - 14 ท่าน

ผู้ใหญ่พักห้องคู่

259,900 บาท

เด็กอายุ 2 – 6 ปี พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน ไม่มีเตียงเสริม ท่านละ

207,900 บาท

15 ท่านขึ้นไป

ผู้ใหญ่พักห้องคู่

233,900 บาท

เด็กอายุ 2 – 6 ปี พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน ไม่มีเตียงเสริม ท่านละ

187,900 บาท

พักห้องเดี่ยว เพิ่มท่านละ 59,000 บาท

> ค่ารถรับส่งตามรายการ
> ค่าห้องพัก สองท่านต่อหนึ่งห้อง ในโรงแรมที่ระบุ หรือในระดับเดียวกัน
> ค่าอาหารตามรายการ
> ค่าธรรมเนียมวีซ่า ยกเว้นคนต่างด้าว
> ค่าประกันภัยการเดินทาง สำหรับผู้มีอายุระหว่าง 15 – 75 ปี วงเงินท่านละ 3,000,000 บาท
> ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ สำหรับผู้มีอายุระหว่าง 15 – 75 ปี วงเงินท่านละ 2,000,000 บาท
> หัวหน้าทัวร์ และ/หรือ มัคคุเทศก์ คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
> ทิปมัคคุเทศก์ และ คนขับรถ
> การบริการจัดเตรียมน้ำดื่ม ท่านละ 1 ขวดต่อวัน
> พิเศษ! ของพรีเมี่ยม บริการ ณ วันเดินทาง เช่น กระเป๋า Travel Kit, ปกพาสปอร์ทหนังเเท้, คู่มือการเดินทาง
› ค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ ไป-กลับ
› ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่น ๆ เช่น ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ทางไกล ค่าเครื่องดื่ม
› ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
› ทางบริษัท ฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมการเดินทาง โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ และความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นหลัก
› ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิเนื่องจากข้อผิดพลาดทางการพิมพ์
› บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับราคา หากจำนวนผู้ใหญ่เดินทางต่ำกว่าที่กำหนดไว้จากตารางข้างต้น