Malta Undiscovered Paradise
1 – 8 พฤษภาคม 2567
โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า (LH)
DAY 1
พ. 1 พ.ค. 67

กรุงเทพฯ – มิวนิค

20.30 น. พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณชั้นผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 

เจ้าหน้าที่ เวิลด์ เซอร์ไพร้ส รอต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวก

23.00 น. โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า เที่ยวบินที่ LH 773 นำท่านเหินฟ้าสู่ มิวนิก ประเทศเยอรมนี
(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11.20 ชม.)

DAY 2
พฤ. 2 พ.ค. 67
มิวนิค – มอลต้า – วัลเลตตา – พิพิธภัณฑ์ Archaeology – โรงละครมาโนเอล
มหาวิหารเซนต์จอห์น – สวนอัพเปอร์ บาร์รักก้า – เซนต์จูเลียนส์

เช้า

05.20 น. ถึงท่าอากาศยาน มิวนิก ประเทศเยอรมนี แวะพักเพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง ประมาณ 4.20 ชม.

เช้า อาหารเช้า อิสระตามอัธยาศัย ภายในท่าอากาศยานมิวนิก

09.40 น. โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า เที่ยวบินที่ LH 1924 นำท่านเหินฟ้าสู่ มอลต้า 

(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.15 ชม.)

11.55 น. ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติมอลต้า ประเทศมอลต้า หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร พร้อมตรวจเช็คสัมภาระแล้ว นำท่านสู่เมือง วัลเลตตา เมืองหลวงแห่งประเทศมอลต้า ถูกสร้างขึ้นโดยอัศวินแห่งเซนต์จอห์นหลังการโจมตีครั้งใหญ่โดยออตโตมานในปี ค.ศ.1565 เป็นเมืองที่มีป้อมปราการที่กล่าวกันว่า “สร้างโดยสุภาพบุรุษเพื่อสุภาพบุรุษ” และมีอนุสาวรีย์มากกว่า 320 แห่งในรัศมี 400 เมตร เป็นเมืองหลวงแบบบาโรก และยังได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรปในปี ค.ศ. 2018

นับว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์มากเมืองหนึ่งของยุโรป เนื่องจากการผสมผสานที่ลงตัวของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่มีชีวิตชีวา

กลางวัน

อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร 

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งชาติ Museum of Archaeology ที่มีการจัดแสดง เครื่องมือหินที่ละเอียดอ่อนซึ่งมีอายุตั้งแต่ 5200 ปีก่อนคริสตกาล อีกทั้งยังมีเครื่องรางของชาวฟินีเซียนและแบบจำลองวิหาร Ta ‘Haġrat – Maquette สถาปัตยกรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ และรูปแกะสลักยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่มีรูปแบบสวยงาม เช่น รูปปั้น ‘ผู้หญิงอ้วน’  Sleeping Lady พบที่ Hypogeum ซึ่งมีอายุประมาณ 5,000 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ขี้เกียจโดยมีหัวของเธอหนุนแขนข้าง

 

แล้ว นำท่านชม โรงละครมาโนเอล (Manoel Theatre)  หนึ่งในโรงละครและสถานที่แสดงศิลปะการแสดงที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1731 โรงละครมักเรียกกันง่าย ๆ ว่า “เดอะมาโนเอล” และได้รับการตั้งชื่อตามประมุขของอัศวินแห่งฮอสพิทาลเลอร์ฟราอันโตนิโอมาโนเอลเดอวิลเฮน่า ผู้สั่งการก่อสร้างโรงละครนี้ขึ้น

จากนั้น นำท่านเยี่ยมชม ความงดงามของ มหาวิหารเซนต์จอห์น  (Saint John’s Co-Cathedral) ที่สร้างโดย อัศวิน เซนต์จอห์น เพื่อมอบเป็นเกียรติแก่ผู้อุปถัมภ์เหล่าอัศวินทั้งหลาย ความพิเศษของวิหารแห่งนี้คือ ออกแบบตกแต่งโดยสถาปนิกและศิลปินชาวมอลต้าในช่วงศตวรรษที่ 16 เป็นสถาปัตยกรรมบาโรกที่หรูหราและงดงาม แสดงให้เห็นถึงอำนาจของคริสต์ศาสนาในสมัยนั้น

แล้ว นำท่านชม สวนอัพเปอร์ บาร์รักก้า สวนสวยที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ส่วนบุคคล แต่ภายหลังได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมในปี ค.ศ.1824 ภายในสวนประกอบไปด้วย Upper Barracca และ Lower Barracca ในส่วน Upper นั้นได้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1661 โดยอัศวินชาวอิตาเลียน จากบริเวณสวนจะเห็นวิวของอ่าวแกรนด์ฮาร์เบอร์ได้ชัดเจน

ค่ำ

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม InterContinental Malta หรือในระดับเดียวกัน 

DAY 3
ศ. 3 พ.ค. 67
เซนต์จูเลียนส์ – เมดิน่า – นั่งรถไฟโบราณชมเมือง – ถ้ำบลูกร็อตโต้
พลาลาซโซ พาริซิโอ – อาฟเตอร์นูนที – โบสถ์มอสต้าโดม – เซนต์จูเลียนส์

เช้า

อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ เมดิน่า (Mdina) อดีตเมืองหลวงของประเทศมอลต้า เมืองเล็กๆ ที่เจริญด้วยประวัติศาสตร์เหล่านี้ ถูกล้อมรอบด้วยแนวกำแพงเมืองยุคกลาง ซึ่งเป็นเครื่องหมายสำคัญของการแสดงอาณาเขตของเมืองที่รู้จักกันทั่วไปว่า “Silent city”

จากนั้น นำท่านเปลี่ยนบรรยากาศ นั่งรถไฟเที่ยวชมสถานต่างๆที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและสถาปัตยกรรม อีกทั้งยังให้ความสนุกสนาน โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 30 นาที

แล้ว นำท่านเดิน ชมเมืองหลวงเก่า เมดิน่า ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ทั้งกลางวันและยามค่ำคืน นำท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับทางเข้าหลักของเมืองที่เคยเป็นฉากประกอบภาพยนตร์ Game of Thrones

กลางวัน

อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ถ้ำบลูกร็อตโต้ นำท่านล่องเรือชมทัศนียภาพอันสวยงามของน้ำทะเล โดยล่องผ่านช่องแคบต่างๆที่มีแสงส่องผ่านทำให้ภายในถ้ำเรืองแสงเป็นประกายสีฟ้าซึ่งเป็นที่มาของชื่อถ้ำแห่งนี้

 

*หากสภาพอากาศและคลื่นลมแรง ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการล่องเรือ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสำคัญ

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ พลาลาซโซ พาริซิโอ ซึ่งขุนนาง Giuseppe Scicluna ได้ซื้อวังแห่งนี้ในปีค.ศ 1898 และทำให้ที่นี่ได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ และวังนี้อยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ในสภาพสมบูรณ์แบบดั้งเดิม

ขุนนาง Scicluna เป็นนายธนาคารและพ่อค้าชาวมอลต้าผู้มั่งคั่ง เขาได้ทำให้วังแห่งนี้เป็นตัวแทนของงานศิลปะของมอลต้า ผสมผสานความเป็นศตวรรษที่ 19 และผลงานของศิลปินชาวอิตาลี ทำให้สถานที่นี้มีประวัติศาสตร์ และเป็นมรดกที่น่าภาคภูมิใจ

แล้วนำท่านเปลี่ยนบรรยากาศมาจิบน้ำชายามบ่าย อาฟเตอร์นูนที บริการท่านด้วยชาหอมกรุ่นรสละมุน เสริฟพร้อมแซนวิชแสนอร่อย และเบเกอรี่หลากหลายชนิด

จากนั้น นำท่านชม โบสถ์มอสต้าโดม ที่ไม่ได้เป็นเพียงโบสถ์ แต่ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกด้วยการก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1833 และเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1860 โดยจำลองแบบมาจากวิหารแพนธีออนในกรุงโรม เป็นโดมของโบสถ์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ในกรุงโรม และโบสถ์เซนต์พอลส์ในลอนดอน

อีกเรื่องราวที่น่าสนใจที่สุดคือสิ่งที่เกิดขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 9 เมษายน ปี ค.ศ. 1942 เมื่อเยอรมันทิ้งระเบิดลงบนหลังคาโบสถ์ ระเบิดเจาะลงกลางโดมซึ่งมีนักบวชอยู่ข้างในโบสถ์ แต่กลับไม่เกิดการระเบิดชึ้น ชาวเมืองจึงเชื่อว่านี่คือเรื่องปาฏิหาริย์ของโบสถ์แห่งนี้

ค่ำ

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม InterContinental Malta หรือในระดับเดียวกัน

DAY 4
ส. 4 พ.ค. 67
เซนต์จูเลียนส์ – ป๊อปอายวิลเลจ – มาร์ซักลอกก์ – วัลเลตตา – นั่งเรือพาย – เซนต์จูเลียนส์

เช้า

อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ป๊อปอายวิลเลจ (Popeye Village) หรือที่รู้จักกันในชื่อ Sweethaven Village เป็นหมู่บ้านที่จำลองขึ้นเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์มิวสิคัลเรื่อง Popeye แสดงนำโดย โรบิน วิลเลียมส์ ในปี ค.ศ. 1980 จากนั้นได้รับการดัดแปลงให้เป็นสวนสนุกเล็กๆ ที่น่าดึงดูดใจ ด้วยบ้านไม้หลังเล็กๆ แบบชนบทริมทะเล

ท่านยังสามารถพบกับตัวละครจากภาพยนตร์อีกด้วย เช่น Popeye, Olive Oyl, Bluto และ Wimpy นอกจากนี้ยังมีโชว์อื่นๆ อีก เช่น การแสดงหุ่นกระบอกป๊อปอาย ฟิกาโรช่างตัดผม ที่สร้างทรงผมอันน่าอัศจรรย์ ละครมิวสิคัลโดยป๊อปอายและเพื่อน อิสระให้ท่านเดินเล่นตามอัธยาศัยจนถึงเวลานัดหมาย

 

จากนั้น นำท่านชมทิวทัศน์ในชนบทของมอลต้า เพลิดเพลินกับทัศนียภาพของทะเลสีครามและเกาะโกโซ แล้วนำท่านสู่ ฟาร์มในชนบท ที่เกษตรกรรมคือส่วนหนึ่งในวิถีชีวิต แต่ละหมู่บ้านต่างมีผลิตผลที่แตกต่างกันไป

นำท่านลองชิมผลิตผลสดใหม่จากเกษตรกร พบปะกับคนในท้องถิ่น สัมผัสชีวิตประจำวันของพวกเขา

กลางวัน

อาหารกลางวัน ภายในฟาร์ม บริการท่านด้วยอาหารท้องถิ่นมอลต้าที่ปรุงจากวัตถุดิบสดใหม่จากฟาร์ม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่เมือง มาร์ซักลอกก์ หรือที่รู้จักกันอย่างดีในนาม หมู่บ้านประมง บริเวณท่าเรือของเมืองจะมีบรรดาเรือประมงพื้นเมือง หรือ Luzzus จอดอยู่มากมาย หลากหลายสีสัน และรูปทรงของเรือที่สวยงาม ซึ่งหากลองสังเกตที่บริเวณด้านหน้าของเรือทุกลำ จะมีตาสองดวงแปะอยู่ ซึ่งเป็นดวงตาผู้พิทักษ์ Eye of Horus or Of Osiris ที่จะคอยสอดส่องคุ้มครองให้ไม่ได้เกิดภัยอันตรายกับชาวประมงขณะเดินเรือ

จากนั้น นำท่านเดินทางกลับสู่ วัลเลตตา แล้วนำท่านล่อง เรือพาย ชมทัศนียภาพที่สวยงามของชายฝั่งทะเลแถบเมดิเตอร์เรเนียน

*หากสภาพอากาศและคลื่นลมแรง ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการล่องเรือ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสำคัญ

ค่ำ

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม InterContinental Malta หรือในระดับเดียวกัน

DAY 5
อา. 5 พ.ค. 67
เซนต์จูเลียนส์ – เกาะโกโซ – Dwejra Bay – Xlendi Bay – ทะเลใน Dwejra – The Citadella & Victoria – เซนต์จูเลียนส์

เช้า

อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางโดยเรือเฟอร์รี่สู่ เกาะโกโซ (Gozo Island) หรือ เกาะแห่งคาลิปโซ่ ซึ่งเป็นเกาะที่งดงามทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน อีกทั้งยังได้รับฉายาว่าเป็นเกาะน้องสาวของมอลต้า ที่มีทิวทัศน์อันสวยงามไม่ต่างจากพี่สาว 

เกาะนี้ มีประชากรเพียง 40,000 คน แต่พบว่ามีภาษาถิ่นที่ใช้ทั้งหมดเกือบ 11 ภาษา มีชายฝั่งคดเคี้ยวอันงดงามเหมาะแก่การมาพักผ่อน

จากนั้น นำท่านสู่ Dwejra Bay ก้อนหินสูงประมาณ 60 เมตร อยู่กลางทะเลสาบ ใกล้ๆบริเวณหน้าผาสูงชันทางฝั่งตะวันตกของโกโซ เป็นส่วนที่แสดงให้เห็นว่าในอดีตบริเวณแห่งนี้เคยเป็นถ้ำ แล้วเกิดการทรุดตัวลง ทำให้บางส่วนจมอยู่ในทะเสสาบ และบางส่วนแยกตัวออกซึ่งก็คือส่วนของ Fungus Rock ในปัจุบัน

โดยในอดีตสมัยยุคของอัศวินเซนต์จอห์น จะมีเห็ดบางชนิดที่เติบโดบนหินแห่งนี้ จึงเป็นที่มาของชื่อ Fungus Rock ซึ่งความจริงแล้วในปัจจุบันไม่มีเห็ดหรือเชื้อราบนหินนี้แล้ว

จากนั้น นำท่านชม ทะเลใน Dwejra เป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่มีหน้าผาโอบล้อม ซึ่งเชื่อมต่อกับทะเลเปิดโดยอุโมงค์ที่ไหลผ่านแหลม Dwejra Point เป็นอุโมงค์ที่มีระยะทาง 100 เมตร ที่เรือเล็กๆ สามารถแล่นผ่านได้ในสภาพอากาศที่สงบ

ทะเลในถูกใช้เป็นที่พักของชาวประมงมานานหลายศตวรรษ ทุกวันนี้ชาวประมงมีรายได้เสริมจากการพานักท่องเที่ยวล่องเรือลอดผ่านอุโมงค์ และชมทิวทัศน์ของหน้าผาหิน

 

กลางวัน

อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านสู่ อ่าว Xlendi อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่มีวิวทัวทัศน์แสนวิเศษ และหลากหลายด้วยร้านอาหารซีฟู๊ดต่างๆ

จากนั้น นำท่านสู่ The Citadella & Victoria ป้อมปราการที่มีขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่กลางเกาะโกโซที่มีอายุที่ยาวนานตั้งแต่ยุคสำริดและพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงยุคโรมัน

แล้วนำท่านเดินทางโดยเรือ Ferry กลับสู่เกาะมอลต้า

ค่ำ

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม InterContinental Malta หรือในระดับเดียวกัน
DAY 6
จ. 6 พ.ค. 67
เซนต์จูเลียนส์ – ท่าอากาศยานนานาชาติมอลต้า – ท่าอากาศยานนครมิวนิค – บีเอ็ม ดับเบิ้ลยู เวิลด์
เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย

10.30 น. ได้เวลานัดหมาย นำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยานมอลต้า

กลางวัน อาหารกลางวัน อิสระตามอัธยาศัย ภายในท่าอากาศยานมอลต้า

โดยท่านสามารถเลือกทานอาหารจากร้านที่ท่านชื่นชอบได้ตามอัธยาศัย ซึ่งทางบริษัทจัดเตรียมค่าอาหารให้ท่านละ 20 ยูโร

12.40 น. โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า เที่ยวบินที่ LH 1925 นำท่านเหินฟ้าสู่มหานครมิวนิค ประเทศเยอรมนี

(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.25 ชม.)

15.05 น. ถึงท่าอากาศยานนครมิวนิค ประเทศเยอรมนี หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว

นำท่านเดินทางสู่ บีเอ็ม ดับเบิ้ลยู เวิลด์ สถานที่สร้างประสบการณ์ให้กับผู้มาเยือน ด้วยการจัดแสดงยานพาหนะที่หลากหลายทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์ ภายใต้เครือ บีเอ็ม ดับเบิลยู กรุ๊ป และนิทรรศการ
ที่เกี่ยวกับคุณสมบัติของยานยนต์ในปัจจุบัน

ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม Steigenberger Hotel München หรือในระดับเดียวกัน 

DAY 7
อ. 7 พ.ค. 67
มิวนิค – พระราชวังมิวนิคเรสซิเดนท์ – จตุรัสมาเรียนพลาส – ถนนแมกซิมิลเลียน – ตลาดวิคตอเรีย – ท่าอากาศยานนครมิวนิค

เช้า

อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเข้าชม พระราชวังมิวนิคเรสซิเดนท์ พิพิธภัณฑ์หลวงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ศิลปะการตกแต่งภายในวิจิตรบรรจง และของสะสมโบราณของราชวงศ์ ที่เคยครองอาณาจักรบาวาเรีย

ด้านในประกอบไปด้วยห้องจัดแสดง 130 ห้อง ในทุกรายละเอียดสะท้อนให้เห็นสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่

กลางวัน

อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ จตุรัสมาเรียนพลาส ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองทั้งเก่าและใหม่ที่มีการตกแต่งแบบสถาปัตยกรรมแบบกอธิคที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในเยอรมนี ท่านจะได้พบกับความน่ารักของตุ๊กตาที่อยู่ในหอระฆังที่มีชื่อเสียง ซึ่งหอแห่งนี้มีความสูงถึง 85 เมตร

อิสระให้ท่านเลือกชมและเลือกซื้อสินค้าตามห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าย่อยมากมาย 

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ ถนนแมกซิมิลเลียน ถนนสายหลักของมิวนิค ที่มีร้านดีไซเนอร์และสินค้าแบรนด์เนมระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Christian Dior, Chanel, Gucci อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังตามอัธยาศัยจนถึงเวลานัดหมาย

จากนั้น นำท่านสัมผัสบรรยากาศ ตลาดอันเก่าแก่ที่สุดในมิวนิค ณ ตลาดวิคตอเรีย ที่อายุมากกว่า 200 ปี รายล้อมด้วยร้านค้ามากมายกว่า 100 ร้าน ทั้งผัก ผลไม้ อิสระให้ท่านเดินเล่นตามอัธยาศัยจนถึงเวลานัดหมาย

ได้เวลานัดหมาย นำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยานนครมิวนิค

ค่ำ

22.25 น. โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า เที่ยวบินที่ LH 772 นำท่านเหินฟ้าสู่ประเทศไทย 

อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม
(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10.45 ชม.)

DAY 8
พ. 8 พ.ค. 67
กรุงเทพฯ
เช้า  อาหารเช้าบริการบนเครื่องบิน พร้อมเครื่องดื่ม

14.10 น. ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ

Malta Undiscovered Paradise Surprise! 8 Days

โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า (LH)

01 – 08 พฤษภาคม 2567

อัตราค่าบริการทัวร์ (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)

จำนวนผู้เดินทาง
10 – 14 ท่าน
15 ท่านขึ้นไป
ราคาค่าบริการทัวร์ ผู้ใหญ่พักห้องคู่ ท่านละ
159,900 บาท
145,900 บาท
พักห้องเดี่ยว เพิ่มท่านละ
35,000 บาท
35,000 บาท
– ทางบริษัท ฯ เป็นตัวแทนในการยื่นเอกสารกับทางสถานทูตเท่านั้น ผลการพิจารณาขึ้นอยู่กับสถานทูตแต่เพียงผู้เดียว

– ทางบริษัท ฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมการเดินทาง โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ และความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นหลัก

– ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิเนื่องจากข้อผิดพลาดทางการพิมพ์

– กรณีไม่สามารถเดินทางได้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้น
ค่าบริการรวม
– ค่ารถรับส่งตามรายการ

– ค่าธรรมเนียมการเข้าชมสถานที่ และกิจกรรมตามรายการ

– ค่าห้องพัก สองท่านต่อหนึ่งห้อง ในโรงแรมที่ระบุ หรือในระดับเดียวกัน

– ค่าอาหารตามรายการ

ค่าประกันภัยการเดินทางวงเงินท่านละ 2,000,000 บาท

ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศ (รวมเจ็บป่วย) วงเงินท่านละ 1,500,000 บาท

– หัวหน้าทัวร์ และ/หรือ มัคคุเทศก์ คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง

– ทิปหัวหน้าทัวร์ และ/หรือ มัคคุเทศก์ และ คนขับรถ

– การบริการจัดเตรียมน้ำดื่ม ท่านละ 1 ขวดต่อวัน

พิเศษ! ของพรีเมี่ยม บริการ ณ วันเดินทาง เช่น กระเป๋า Travel Kit, ปกพาสปอร์ทหนังเเท้, คู่มือการเดินทาง, เจลแอลกอฮอลล์ล้างมือ, หน้ากากอนามัย

ค่าบริการไม่รวม
– ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ

– ค่าภาษีสนามบินทุกแห่ง

– ค่าภาษีน้ำมันซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามภาวะตลาดน้ำมันโลกซึ่งประกาศโดยสายการบิน

– ทางบริษัทฯ อาจมีการเรียกเก็บเพิ่มหากมีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

– ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (คิดคำนวณจากค่าบริการ)

– ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่น ๆ เช่น ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ทางไกล ค่าเครื่องดื่ม

ดาวน์โหลดโปรแกรมการเดินทาง (PDF)