Romantic Provence Lavender
Surprise! 10 Days
โดย สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส (QR)
02-11 กรกฎาคม 2566
Romantic Provence Lavender
Surprise! 10 Days
โดย สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส (QR)
02-11 กรกฎาคม 2566
Romantic Provence Lavender
Surprise! 10 Days
โดย สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส (QR)
02-11 กรกฎาคม 2566
วันแรก อาทิตย์ที่  2 ก.ค. 2566
กรุงเทพฯ – โดฮา
22.30 น.

พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณชั้นผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบิน 

กาตาร์ แอร์เวย์ เคาน์เตอร์เช็คอิน แถว P ประตู 7

เจ้าหน้าที่ เวิลด์ เซอร์ไพร้ส รอต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวก

วันที่สอง จันทร์ที่ 3 ก.ค. 2566
โดฮา – นีซ – จุดชมวิวคลอลีน ดู ชาโตว์ – ย่านเมืองเก่านีซ – นีซ
02.30 น. โดยสายสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส เที่ยวบินที่ QR837 นำท่านเหินฟ้าสู่ โดฮา ประเทศกาตาร์

เช้า อาหารเช้า บริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม

05.30 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติโดฮา กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์
แวะพักเพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง

08.45 น. โดยสายสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส เที่ยวบินที่ QR055 นำท่านเหินฟ้าสู่ นีซ ประเทศฝรั่งเศ

อาหาร บริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม

กลางวัน

14.10 น. ถึงท่าอากาศยานนีซ หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

นำท่านเดินทางสู่ นีซ (Nice) เมืองทรงเสน่ห์ และดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยี่ยมเยือน โดยมีชื่อเสียงในด้านบรรยากาศเมืองริมชายทะเลอันสวยงาม ท่ามกลางอากาศที่แสนบริสุทธิ์ นักท่องเที่ยวนิยมมานั่งดื่มกาแฟตามร้านรวงที่ตั้งอยู่เรียงรายภายในตัวเมือง

นอกจากนี้ นีซยังมีความโดดเด่นทางด้านศาสตร์ และศิลป์ต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สถาปัตยกรรมแบบบารอค และอาคารบ้านเรือนสไตล์ เบลล์ เอป็อค

นำท่านเดินทางสู่ จุดชมวิวคลอลีน ดู ชาโตว์ (Colline du Chateau) 

เพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามของชายหาดนีซ ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่มาพักผ่อนตากอากาศ  

จากนั้น นำท่านเดินไปยัง ย่านเมืองเก่านีซ  (Vieille Ville) เต็มไปด้วยตึกอาคารโบราณสีสันสดใสและตรอกซอกซอยที่มีร้านค้าและร้านอาหารอยู่ตามมุมต่างๆ ให้เลือกสรร

ค่ำ

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม Boscolo Hotel and Spa Nice หรือในระดับเดียวกัน

วันที่สาม อังคารที่ 4 ก.ค. 2566
นีซ – เซนต์ปอลเดอวองซ์ – หมู่บ้านเอซ – นีซ

เช้า

อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ เซนต์ปอลเดอวองซ์ (St.Paul de Vence) เมืองโบราณที่สร้างด้วยหินล้อมรอบด้วยกำแพงเมือง ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงที่มองเห็นชายหาดริเวียร่า เสน่ห์อันสวยงามของทัศนียภาพ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้เหล่าศิลปินมารวมตัวกันในที่แห่งนี้

ซึ่งจะเห็นได้จากรอยจารึกชื่อหรือผลงานของศิลปินอันโดดเด่นไม่ว่าจะเป็นภาพเขียน รูปปั้นแกะสลัก ให้ท่านเดินชมในตรอกแคบๆของหมู่บ้าน มีร้านขายงานศิลปะและของที่ระลึกเรียงรายกันอยู่มากมาย

กลางวัน

อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ เอซ (Eze) เพื่อพาท่านชม หมู่บ้านเอซ หมู่บ้านเล็กอันเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนแนวเทือกเขาแอลป์-มาริทไทม์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ซึ่งมีวิวอันงดงามของท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นฉากหลัง และอุดมไปด้วยพันธุ์ไม้นานาพันธุ์อย่างร่มรื่น เหมาะสำหรับใช้เป็นที่พักผ่อนแห่งหนึ่งของเหล่านักเดินทาง

ได้เวลานัดหมายนำท่านเดินทางสู่ นีซ

ค่ำ

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม Boscolo Hotel and Spa Nice หรือในระดับเดียวกัน

วันที่สี่ พุธที่ 5 ก.ค. 2566
นีซ – เอ็กซ์ ออง โพรว็องซ์ – วาเลนโซล – กรูซ์เลส์แบงส์

เช้า

อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ เอ็กซ์ ออง โพรว็องซ์ (Aix-en-Provence) เมืองสวยที่สุดเมืองหนึ่งของฝรั่งเศส และอดีตเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของแคว้นโพรว็องซ์ เมืองนี้เป็นเมืองตากอากาศยอดนิยม เนื่องจากมีอากาศอบอุ่น มีท้องฟ้าสีฟ้าสดกับน้ำทะเลสีครามตามธรรมชาตินั้นเป็นแรงดลใจให้วาดภาพได้อย่างสวยงาม อาทิ เซซาน แวนโกะ และ  ปิกาสโซ

นอกจากนี้ ยังมีดาราและผู้ที่มีชื่อเสียงในวงสังคมมากมายมาซื้อบ้านอยู่ในดินแดนแถบนี้ด้วย และด้วยอาคารบ้านเรือนที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบบารอคอันหรูหรามากมายที่หลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน จึงได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลก โดยเฉพาะถนนสายเก่า แกสตง เดอ ซาปอคต้า และ กูร์ มิคา อันรื่นรมย์

ส่วนรอบ ๆ เมืองนั้นงดงามด้วยบรรยากาศชายทุ่งอันแสนสงบ

กลางวัน

อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ วาเลนโซล (Valensole Plateau) อีกหนึ่งเมืองที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เกี่ยวกับดอกลาเวนเดอร์ เมืองนี้ถือได้ว่าเป็นแหล่งปลูกลาเวนเดอร์ที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส โดยมีพื้นที่ที่ใช้สำหรับปลูกลาเวนเดอร์ถึง 800 ตารางกิโลเมตรและเป็นเมืองที่ใช้จัดเทศกาลเกี่ยวกับลาเวนเดอร์ประจำทุกปี และสินค้าขึ้นชื่อของเมืองนี้คือ สินค้าแปรรูปจากดอกลาเวนเดอร์

อิสระให้ท่านได้ชม ทุ่งลาเวนเดอร์วาเลนโซ ที่กว้างใหญ่ไกลสุดลูกหูลุกตา ให้ท่านได้ถ่ายรูปเพื่อเก็บความประทับใจจนยากจะลืมเลือน ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าแปรรูปจากดอกลาเวนเดอร์และสินค้าท้องถิ่นของเมืองนี้

ค่ำ

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม Villa Castellane หรือในระดับเดียวกัน

วันที่ห้า พฤหัสบดีที่ 6 ก.ค. 2566
กรูซ์เลส์แบงส์ – รุสสิยง – กอร์ด – โบสถ์แอบบี เดอ ซี นองค์ – ปาราดู

เช้า

อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ รุสสิยง (Roussillon) ตั้งอยู่บนเนินเขา

ซึ่งในแถบ โพรวองซ์ นี้จะเป็นพื้นที่เกษตรกรรม เช่น ปลูกลาเวนเดอร์ เชอร์รี่ อัลมอนด์ ดังนั้นแล้วช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเที่ยวเมืองในแถบนี้คือ ในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกไม้ อัลมอนด์ และเชอร์รี่กำลังบานที่เรียกรวมกันว่า Cherry Blossoms และช่วงกลางเดือนมิถุนายน ถึง ต้นเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ลาเวนเดอร์เป็นสีเข้มเข้มเต็มพื้นที่เชิงเขาในเขตโพรวองซ์

หมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ทั้งหมู่บ้านจะเป็นสีโทนสีส้มแดง เนื่องจากที่นี่มีผาหินสีส้ม ซึ่งนำมาใช้ในการสร้างบ้าน ตั้งแต่สมัยโบราณ

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ กอร์ด (Gordes) เมืองเก่าแก่ที่มากไปด้วยเสน่ห์อันน่าหลงไหล ตั้งอยู่บนยอดเขาในแถบเทือกเขาลูแบรง ซึ่งเป็นแหล่งผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโพรวองซ์ ตัวเมืองถูกสร้างให้ลดหลั่นเรียงตัวลงมาตามแนวเขาลูแบรง

กลางวัน

อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านเที่ยวชมบ้านเรือน ที่มีสถาปัตยกรรมอันงดงาม แต่ละซอกซอยจะมีร้านค้ามาวางขายของที่ระลึกให้ท่านได้เลือกซื้อมากมาย

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ โบสถ์แอบบี เดอ ซี นองค์ ให้ท่านได้ชมทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงหวานแสนโรแมนติค โดยดอกลาเวนเดอร์ทั้งหมดจะถูกตัดในวันที่ 14 กรกฎาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันชาติของประเทศฝรั่งเศส

ค่ำ

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม B Design & Spa หรือในระดับเดียวกัน

วันที่หก ศุกร์ที่ 7 ก.ค. 2566
ปาราดู – อาร์ลส์ – โบสถ์แซงต์ โทรแปงค์ – เลส์โบซ์ เดอ โพรว็องซ์ – แซงต์เรมี – ปาราดู

เช้า

อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ อาร์ลส์ (Arles) เมืองสำคัญที่สุดของฝรั่งเศสในยุคโรมัน เคียงข้างด้วยแม่น้ำโรน ที่ช่วยขับบรรยากาศเมืองโบราณแห่งนี้ให้มีเสน่ห์ ท่านจะได้สัมผัสกับสิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่ในยุคโรมันที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี และนี่คือเหตุผลที่ ศิลปินอย่าง แวนโกะห์ โกแกง และ ปิกัสโซ เลือกเมืองนี้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน 

แล้วนำท่านชม โรงละครโรมันโบราณ ที่สร้างขี้นในตั้งแต่ก่อนคริสตกาล ซึ่งสามารถจุคนได้ถึง 21,000 คน ในปัจจุบัน ยังใช้เป็นที่จัดโชว์สู้วัวกระทิง ให้ท่านได้เดินชมสถาปัตยกรรมโรมัน ที่ยังคงเหลืออยู่ ซึ่งมีความยิ่งใหญ่ไม่แพ้ที่ใด

แล้วนำท่านชม โบสถ์แซงต์ โทรแปงค์ (Sainte Chapelle) ซึ่งเป็นโบสถ์แห่งบิชอบคนแรกของเมืองอาร์ลส์ ในช่วงศตวรรษที่ 3 อันสวยงาม และโดดเด่นด้วยอารามหลวงที่ประดับด้วยเสาสลักอันงดงาม 

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เลส์โบซ์ เดอ โพรว็องซ์ (Les Baux de Provence) ซึ่งเป็นแหล่งโบราณคดีสมัยโรมันเรืองอำนาจ ในสมัยก่อนเมืองนี้เป็นที่ตั้งของปราสาทของชนชั้นสูงในยุคโบราณ

กลางวัน

อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านชมเมือง เลส์โบซ์ เดอ โพรว็องซ์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส ให้ท่านเดินชมเมือง ซึมซับกับธรรมชาติรอบๆเมือง ท่านจะได้ชมบ้านเมืองโบราณ และยังมีร้านของที่ระลึก ร้านอาหารให้ท่านได้แวะชม

จากนั้นนำท่านไปยัง The Chateau des Baux เพื่อชมวิวของเมืองในมุมสูง ที่มีบ้านเรือนเรียงราย โดยมีท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นฉากหลัง 

แล้ว นำท่านเดินทางสู่ แซงต์เรมี (St.Remy) หมู่บ้านเก่าในยุคโรมันที่อยู่ทางเหนือ ของเทือกเขา ลิตเติลแอลป์ ล้อมรอบด้วยกำแพงเมืองที่ยังตั้งตระหง่านอยู่จากศตวรรษที่ 14 เมืองที่มีเสน่ห์ด้วยอาคารที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี อีกทั้งรอบๆเมืองยังต็มไปด้วยหุบเขาสีเขียว

ความงดงามอันน่าประทับใจนี้ทำให้ศิลปินอย่าง แวนโกะห์มาปักหลักเขียนภาพมากมายรวมทั้งภาพ “ Irises ” และ “ Starry Night ” อันมีชื่อเสียงโด่งดังนอกจากนี้เมืองนี้ยังเป็นบ้านเกิดของ นอสตราดามุสอีกด้วย

ค่ำ

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม B Design & Spa หรือในระดับเดียวกัน

วันที่เจ็ด เสาร์ที่ 8 ก.ค. 2566
ปาราดู – อาวิญยง – สะพานท่อส่งน้ำปงดูการ์ – นีมส์

เช้า

อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำทุกท่านชม อาวิญยง (Avigon) เมืองเก่าที่ยังคงความงดงาม และคลาสสิกที่สุดจนได้รับการขนานนามว่า “The Jewels of the Southern Rhone” อันเป็นเมืองในยุคกลางที่พระสันตปาปาคลีเมนต์ ที่ 5 แห่งโรมอพยพหนีความวุ่นวายทางการเมืองมาตั้งศูนย์กลางทางศาสนาขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 14

แล้วนำท่านชม สะพานปง ดาวินยง (Le Pont d’Avignon) ซึ่งเป็นสะพานที่มีชื่อเสียงอย่างมากในประวัติศาสตร์ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 โดยใช้ชื่อว่า เลอ ปง แซงค์ เบอเนอเซ่ ต่อมาสะพานนี้ได้ถูกทำลายลงไปโดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14

แม้จะทำการบูรณะหลายครั้งแต่ก็ประสบกับภาวะน้ำท่วม ทำให้ในปัจจุบันเราจึงยังคงเห็นภาพสะพานที่มีลักษณะคล้ายสร้างไม่เสร็จ

กลางวัน

อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ สะพานท่อส่งน้ำปงดูการ์ (Pont du Gard) สะพานส่งน้ำอันยิ่งใหญ่และสวยงาม ที่มีความสูงถึง 49 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นสะพานที่สูงที่สุดที่เคยสร้างมา มีอายุเก่าแก่ถึง 2,000 ปี อันแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมัน

สะพานสร้างจากหิน ที่ใช้การเคลื่อนย้ายด้วยระบบลูกรอก แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองทางด้านเทคโนโลยีของคนในสมัยโบราณ ที่สามารถเคลื่อนย้ายหินที่มีน้ำหนักกว่า 6 ตัน

สะพานนี้ใช้ส่งน้ำจากเมือง Uzes มายังเมือง นีมส์ ซึ่งมีระยะทางถึง 50 กิโลเมตร และสามารถส่งน้ำได้ถึง 20 ล้านลิตร ต่อวัน

แล้วนำท่านเดินทางสู่ นีมส์ (Nimes) เมืองโบราณที่มีสถาปัตยกรรมโรมันที่ยังคงความสมบูรณ์อยู่มาก แล้วนำท่านชม โรงละครโรมัน ซึ่งสร้างในสมัยศตวรรษที่ 1

ในสมัยโบราณถือเป็นศูนย์กลางเมืองที่ถนนทุกสายมุ่งสู่โรงละครนี้ สามารถจุผู้ชมได้ 25,000 คน ซึ่งในปัจจุบันยังคงใช้ในการแสดงดนตรี และใช้ในการแข่งขันวัวกระทิง

ค่ำ

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ โรงแรม B Design & Spa หรือในระดับเดียวกัน

วันที่แปด อาทิตย์ที่ 9 ก.ค. 2566
ปาราดู – อาวีญง – นั่งรถไฟความเร็วสูง TGV สู่ปารีส – La Samaritaine Department Store – ปารีส

เช้า

อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองอาวีญง แล้วนำท่านเดินทางสู่สถานีรถไฟเพื่อ โดยสารรถไฟฟ้าด่วน TGV ซึ่งวิ่งด้วยความเร็วสูง ราวเกือบ 300 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง

ระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติที่รายล้อมไปด้วยทัศนียภาพอันงดงาม

กลางวัน

อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหารให้ท่านเดินทางสู่ ย่านรูแซงค์โตโนเร แหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของกรุงปารีส 
อดีตถนนสายนี้เคย เป็นที่อยู่ของขุนนางและชนชั้นสูง

แต่ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง อิสระให้ท่านได้เลือกช้อปปิ้งตลอดทั้งสาย และที่นี่ยังเป็นที่ตั้งสตูดิโอใหญ่ของ Hermès ที่ดังไปทั่วโลกอีกด้วย

แล้ว นำท่านเดินทางสู่ La Samaritaine Department Store อีก 1 แหล่ง
ช้อปปิ้งที่สามารถเดินถึงกันได้ไม่ไกล เป็นหนึ่งในห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ของกรุงปารีส

เสน่ห์ของอาคารแบบดั้งเดิม นั่นคือการตกแต่งแบบ Art Nouveau และ Art Déco ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ จนได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ในปี 1990 โดยกระทรวงวัฒนธรรมฝรั่งเศส ได้กลับมาเปิดอย่างเป็นทางการอีกครั้งเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2021

กลายเป็นห้างสรรพสินค้าคอนเซปต์สโตร์แห่งใหม่ที่เน้นย้ำถึงเสน่ห์ของชุมชนชาวปารีส ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น อาหาร และงานศิลปะ รวมแล้วกว่า 600 แบรนด์ และมีนิทรรศการที่จะสลับหมุนเวียนให้ได้ชมตลอด อิสระให้ท่านช้อปปิ้งจนถึงเวลานัดหมาย

ค่ำ

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักค้างแรม ณ Indigo Paris – Opera, an IHG Hotel หรือในระดับเดียวกัน

วันที่เก้า จันทร์ที่ 10 ก.ค. 2566
ปารีส – ประตูชัยนโปเลียน – หอไอเฟล – ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส- ชาร์ล เดอ โกล – โดฮา

เช้า

อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านชม ประตูชัยนโปเลียน (Arc de Triomphe) ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการได้รับชัยชนะในการสู้รบของพระองค์

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ หอไอเฟล ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับสัญลักษณ์ของมหานครปารีสแห่งนี้เป็นที่ระลึก

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกล

กลางวัน อาหารกลางวันอิสระตามอัธยาศัย ภายในท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกล

16.05 น. โดยสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส เที่ยวบินที่ QR040 นำท่านเหินฟ้าสู่ กรุงโดฮา

ค่ำ อาหารค่ำ บริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม

23.25 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติโดฮา กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์

กลางวัน

อาหารกลางวัน อิสระตามอัธยาศัย ณ ท่าอากาศยานมาลเพนซ่า

17.35 น. โดยสายการบินออสเตรียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS514 นำท่านเหินฟ้าสู่ เวียนนา

19.10 น. ถึงท่าอากาศยานเวียนนา ประเทศออสเตรีย  แวะพักเพื่อรอเปลี่ยนเตรื่อง

20.15 น. โดยสายการบินออสเตรียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS015 นำท่านเหินฟ้าสู่กรุงเทพฯ

อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม

วันที่สิบ อังคารที่ 11 ก.ค. 2566
โดฮา – กรุงเทพฯ
แวะพักเพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง

01.20 น. โดยสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส เที่ยวบินที่ QR834 นำท่านเหินฟ้าสู่ กรุงเทพฯ

12.20 น. ถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ

อัตราค่าบริการ (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)

Romantic Provence Lavender

Surprise 10 Days

โดย สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส (TK)

ออกเดินทางวันที่
2-11 ก.ค. 2566
จำนวนผู้ใหญ่เดินทางขั้นต่ำ
15 ท่านขึ้นไป
ราคาค่าบริการทัวร์ ท่านละ
199,900 บาท
พักห้องเดี่ยว เพิ่มท่านละ
91,900 บาท
หมายเหตุ

– ทางบริษัท ฯ เป็นตัวแทนในการยื่นเอกสารกับทางสถานทูตเท่านั้น ผลการพิจารณาขึ้นอยู่กับสถานทูตแต่เพียงผู้เดียว

– ทางบริษัท ฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมการเดินทาง โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ และความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นหลัก

– ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิเนื่องจากข้อผิดพลาดทางการพิมพ์

– สำหรับท่านที่ท่องการจัดกรุ๊ปส่วนตัว ตั้งแต่ 6 ท่านขึ้นไป สามารถสอบเถามข้อมูลเพิ่มได้กับทางเจ้าหน้าที่เวิลด์ เซอร์ไพร้ส

อัตราค่าบริการรวม

– ค่ารถรับส่งตามรายการ

– ค่าธรรมเนียมการเข้าชมสถานที่ และกิจกรรมตามรายการ

– ค่าห้องพักสองท่านต่อหนึ่งห้อง ในโรงแรมที่ระบุ หรือในระดับเดียวกัน

– ค่าอาหาร ตามรายการ

– ค่าธรรมเนียมวีซ่า ยกเว้นคนต่างด้าว

– ค่าประกันภัยการเดินทางวงเงินท่านละ 2,000,000บาท

– ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ วงเงินท่านละ 1,500,000บาท

– หัวหน้าทัวร์จากกรุงเทพฯคอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง

– ค่าทิปคนขับรถและไกด์ท้องถิ่น

– Internet Sim Cardสำหรับใช้ในประเทศยุโรป 1 ซิมต่อท่าน

– ขนมและของว่างบริการระหว่างเดินทาง

– ของพรีเมี่ยม (Universal Travel Adapter, WST Shopping Bag)

ค่าบริการนี้ไม่รวม

– ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ

– ค่าภาษีสนามบินทุกแห่ง

– ค่าภาษีน้ำมันซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามภาวะตลาดน้ำมันโลกซึ่งประกาศโดยสายการบินทางบริษัทฯ อาจมีการเรียกเก็บเพิ่มหากมีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

– ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม7% (คิดคำนวณจากค่าบริการ)

– ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ทางไกล ค่าเครื่องดื่ม

ดาวน์โหลดโปรแกรมการเดินทาง (PDF)