Sicily The Wonder of Mediterranean ! 11 วัน 9 คืน
เดินทาง 13-23 พฤศจิกายน 2022
สัมผัสประสบการณ์การเดินทางอันน่าทึ่งตามแนวชายฝั่งอันงดงามของซิซิลี อัญมณีแห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวจากยุคโรมัน และวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ของโลก พิชิตยอดเขาเอ็ตนา ภูเขาไฟที่ยังไม่ดับสนิทและชมทิวทัศน์แสนมหัศจรรย์ที่คุณจะไม่มีวันลืม
กรุงเทพฯ – มิวนิก – ปาแลร์โม – มอนเรอาเล – มหาวิหารดูโอโม
นำท่านสู่ ปาแลร์โม
เมืองเก่าที่มีอายุกว่าสามพันปี ในอดีตเป็นเสมือนศูนย์กลางของตะวันออก และ ตะวันตกเพราะมีทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม นักเดินเรือสมัยก่อนจึงใช้เป็นจุดเชื่อมระหว่างทวีปเอเชีย ยุโรป และแอฟริกา ปัจจุบันได้กลายมาเป็นเมืองหลวงแห่งเกาะซิซิลี
มหาวิหารดูโอโม (Cattedrale di Monreale)
เพชรน้ำเอกเม็ดหนึ่งของสถาปัตยกรรม อาหรับ – นอร์มัน ผสมผสานฝีมือช่างทั้ง นอร์มัน อาหรับ ไบแซนไทน์ และคลาสสิก เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัวและสวยงาม จนในหลวงรัชกาลที่ 5 ของเราได้ทรงบรรยายไว้ในพระราชนิพนธ์ “ไกลบ้าน” เมื่อปี พ.ศ. 2450
เช้า
อาหารเช้า บริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม

07.05 น. ถึงท่าอากาศยานมิวนิก ประเทศเยอรมนี หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว แวะพักเพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
09.10 น. โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า เที่ยวบินที่ LH1914 นำท่านเหินฟ้าสู่ ปาเลอร์โม เกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี
11.10 น. ถึงท่าอากาศยาน ปาเลอร์โม เกาะซิซิลี หลังตรวจเช็คสัมภาระแล้ว นำท่านเดินทางสู่ภัตตาคาร

กลางวัน
อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านสู่ ปาแลร์โม เมืองเก่าที่มีอายุกว่าสามพันปี ในอดีตเป็นเสมือนศูนย์กลางของตะวันออก และ ตะวันตกเพราะมีทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม นักเดินเรือสมัยก่อนจึงใช้เป็นจุดเชื่อมระหว่างทวีปเอเชีย ยุโรป และแอฟริกา ปัจจุบันได้กลายมาเป็นเมืองหลวงแห่งเกาะซิซิลี

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ มอนเรอาเล นำท่านชม มหาวิหารดูโอโม (Cattedrale di Monreale) ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเพชรน้ำเอกเม็ดหนึ่งของสถาปัตยกรรม อาหรับ – นอร์มัน มหาวิหารนี้สร้างขึ้นตามคำบัญชาของวิลเลี่ยมที่ 2 ที่ผสมผสานฝีมือช่างทั้ง นอร์มัน อาหรับ ไบแซนไทน์ และคลาสสิก เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัวและสวยงาม จนพระพุทธเจ้าหลวงของเราได้ทรงบรรยายไว้ในพระราชนิพนธ์ “ไกลบ้าน” ครั้งที่เสด็จเกาะซิซิลีเมื่อปี พ.ศ. 2450

ค่ำ
อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Grand Hotel et des Palmes หรือในระดับเดียวกัน

ปาแลร์โม – ตลาดบาลลาโร – เที่ยวชมเมืองปาแลร์โมโดยรถตุ๊กตุ๊ก – ปราสาทนอร์มันนี – แคปเปลลา ปาลาตินา
จตุรัสสี่มุมแห่งปาแลร์โม – น้ำพุฟอนทานา พริทอเรีย – โบสถ์คีเอซาเดลเกซู
ปราสาทนอร์มันนี (Norman Palace)
พระบรมมหาราชวังที่กษัตริย์ซิซิลีทรงใช้ในการว่าราชการ สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 9 และต่อเติมเพิ่มอีกในศตวรรษที่ 12 ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่แสดงผลงามศิลปะที่บอกเล่าเรื่องราวของราชวงศ์นอร์มัน
แคปเปลลา ปาลาตินา (Cappella Palatina)
เพชรน้ำเอกเม็ดหนึ่งของสถาปัตยกรรม อาหรับ – นอร์มัน มหาวิหารนี้สร้างขึ้นตามคำบัญชาของวิลเลี่ยมที่ 2 ผสมผสานฝีมือช่างทั้ง นอร์มัน อาหรับ ไบแซนไทน์ และคลาสสิก เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัวและสวยงาม
แคปเปลลา ปาลาตินา (Cappella Palatina)
ชมร้านค้าและชมชีวิตประจำวันที่แท้จริงของผู้คนในซิซิลี แหล่งหลอมรวมของวัฒนธรรมที่แตกต่างและประเพณีที่มีมาแสนนาน ลิ้มลองอาหารซิซิลีแสนอร่อย เช่น สฟินซิโอเน และ พาเนลเล รสชาติที่อร่อยจนลืมไม่ลง
น้ำพุฟอนทานา พริทอเรีย (Fontana Pretoria)
น้ำพุวงกลมที่ประดับประดาไปด้วยรูปปั้นนางไม้ เทพไทรทัน และเทพแห่งแม่น้ำ น้ำพุแห่งนี้ยังมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าน้ำพุแห่งความอัปยศ (Fontana della Vergogna) เพราะมีประติมากรรมร่างกายที่เปลือยเปล่าในที่โจ่งแจ้งตั้งอยู่ใกล้กับโบสถ์ของชาวซิซิลีผู้เคร่งครัดในศาสนา
โบสถ์คีเอซาเดลเกซู (Chiesa del Gesù)
หนึ่งในโบสถ์ที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของปาแลร์โม ส่วนหน้าของโบสถ์แสดงศิลปะแบบฉบับของปลายศตวรรษที่ 16 ปีกข้าง ปลายและโดมของโบสถ์ก็เต็มไปด้วยการประดับแบบบาโรกสมัยศตวรรษที่ 17

จตุรัสสี่มุมแห่งปาแลร์โม (Quattro Canti)
จตุรัสแบบอิตาลีอันงดงามที่ชาวเมืองมักจะมาเดินเล่นในตอนเย็น ดูเด็กๆ วิ่งเล่น หรือพบปะกับเพื่อนฝูง
เช้า
อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านสู่ ตลาดบาลลาโร (Mercato di Ballarò) หนึ่งในตลาดนัดที่เก่าแก่ที่สุดใน

ปาแลร์โม เป็นหนึ่งในตลาดที่มีชีวิตชีวาและงดงามที่สุดของซิซิลี ตลาดนัดของซิซิลีเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกว่าเป็นสีสันที่แท้จริง และมีกลิ่นหอมอันน่าหลงใหลจากวัตถุดิบสดใหม่ เช่น ผลไม้ ผัก เนื้อสัตว์ และปลา ท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่ยอดเยี่ยม สัมผัสกับบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ของซิซิลี 

เดินชมร้านค้าและชมชีวิตประจำวันที่แท้จริงของผู้ตนในซิซิลี แหล่งหลอมรวมของวัฒนธรรมที่แตกต่างและประเพณีที่มีมาแสนนาน ท่านอาจลิ้มลองอาหารซิซิลีแสนอร่อย เช่น สฟินซิโอเน และ พาเนลเล รสชาติที่อร่อยจนลืมไม่ลง

กลางวัน
อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่า เที่ยวชมเมืองปาแลร์โม ผ่านชมมหาวิหาร โรงละครโอเปร่า Teatro Massimo ผ่านโรงละคร Teatro Politeama ท่าเรือใหม่และท่าเรือเก่า ผ่านชมทางเดินริมทะเลที่สวยงาม สวน Giulia และสวนพฤกษศาสตร์จากศตวรรษที่ 18 ผ่านชมตลาดขายอาหารท้องถิ่น และย่านใจกลางเมืองเก่า พระบรมมหาราชวัง และโบสถ์ที่สวยงามของเมืองปาแลร์โม

แล้วนำท่านชม ปราสาทนอร์มันนี (Norman Palace) ซึ่งเป็นพระบรมมหาราชวังที่กษัตริย์ซิซิลีทรงใช้ในการว่าราชการ พระราชวังแห่งนี้ได้สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 9 และต่อเติมเพิ่มอีกในศตวรรษที่ 12 ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่แสดงผลงามศิลปะที่บอกเล่าเรื่องราวของราชวงศ์นอร์มัน

ภายในยังเป็นที่ตั้งของ แคปเปลลา ปาลาตินา (Cappella Palatina) โบสถ์ในพระราชวังกลางเมืองปาแลร์โม ที่มีความสวยงามมาก โดยการประดับประดาโมเสคสีทองที่ประดับอยู่ในตัวโบสถ์ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเพชรน้ำเอกของสถาปัตยกรรมทางศาสนา

แล้วนำท่านชม จตุรัสสี่มุมแห่งปาแลร์โม (Quattro Canti) จตุรัสแบบอิตาลีอันงดงามที่ชาวเมืองมักจะมาเดินเล่นในตอนเย็น ดูเด็กๆ วิ่งเล่น หรือพบปะกับเพื่อนฝูง

นำท่านชม น้ำพุฟอนทานา พริทอเรีย (Fontana Pretoria) สัญลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของน้ำพุแห่งนี้ น้ำพุวงกลมที่ประดับประดาไปด้วยรูปปั้นนางไม้ เทพไทรทัน และเทพแห่งแม่น้ำ น้ำพุแห่งนี้ยังมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าน้ำพุแห่งความอัปยศ (Fontana della Vergogna) เพราะมีประติมากรรมร่างกายที่เปลือยเปล่าในที่โจ่งแจ้งตั้งอยู่ใกล้กับโบสถ์ของชาวซิซิลีผู้เคร่งครัดในศาสนา

น้ำพุแห่งนี้ออกแบบโดยประติมากรชาวฟลอเรนซ์ Francesco Camilliani ระหว่างปี ค.ศ. 1554 ถึง 1555 สำหรับวิลล่าในทัสคานีของ Don Pedro di Toledo ก่อนจะถูกซื้อโดยเมืองปาแลร์โมในปี ค.ศ. 1573 และตั้งอยู่ด้านหน้าศาลากลางของเมือง

หลังอาหาร นำท่านชม โบสถ์คีเอซาเดลเกซู (Chiesa del Gesù) โบสถ์แห่งนี้ยังเป็นที่รู้จักในชื่อ Casa Professa ซึ่งเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของปาแลร์โม สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1564 ถึง 1578 โดยคณะเยซูอิต และรวมเข้ากับโบสถ์ขนาดใหญ่ในปี ค.ศ. 1633 ตัวอาคารได้รับการบูรณะอย่างมีนัยสำคัญหลังจากประสบความเสียหายจากระเบิดครั้งใหญ่ในสงครามโลกครั้งที่สอง

ในขณะที่ส่วนหน้าของโบสถ์แสดงศิลปะแบบฉบับของปลายศตวรรษที่ 16 ปีกข้าง ปลายและโดมของโบสถ์ก็เต็มไปด้วยการประดับแบบบาโรกสมัยศตวรรษที่ 17 ห้องโถงของโดมตกแต่งด้วยภาพเฟรสโกของ Pietro Novelli และยังมีโบสถ์แห่งที่สองทางด้านขวา ซึ่งเป็นที่ตั้งของนักบุญฟิลิปแห่งอาร์จิโร

ค่ำ
อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Grand Hotel et des Palmes หรือในระดับเดียวกัน

ปาแลร์โม – ชิมไวน์ซิซิลี – เซลินุนเต – อากริเจนโต
ซิซิลีไวน์เนอรี่
เดินทางสู่ไวน์เนอรี่ ลองชิมไวน์ซิซิลี ที่ผ่านการกลั่นหลายรูปแบบ ไวน์จากซิซิลีมีทั้งไวน์แดง ไวน์ขาว โรเซ่ และไวน์สีส้ม แม้ว่าไวน์ซิซิลีส่วนใหญ่จะผ่านการกลั่นแบบดราย แต่ซิซิลีก็มีการผลิตสวีทไวน์เช่นกัน
เซลินุนเต (Selinunte)
เมืองโบราณที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งใน เมดิเตอร์เรเนียน ตัวอย่างโบราณสถานในรูปแบบศิลปะแบบโตริคที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง และท่านยังได้เห็นทัศนียภาพอันงดงาม โดยมีท้องทะเลเป็นฉากหลัง
อากริเจนโต – วิหารคอนคอร์เดีย – โมดิกา – โรงงานช็อกโกแลตโมดิกา – รากูซา – ชมเมืองรากูซาโดยรถไฟสายบาโรก
วิหารคอนคอร์เดีย
หุบเขาแห่งวิหารที่เป็นวิหารแบบดอริคที่รักษาสภาพไว้ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดนอกประเทศกรีกถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 480 ก่อนคริสตกาลเพื่อขอบคุณเทพผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในสวรรค์
แคปเปลลา ปาลาตินา (Cappella Palatina)
เมืองอันงดงามในหุบเขาที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสี่ลูก หนึ่งในแปดเมืองมรดกโลก หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1693 เมืองเก่าในยุคกลาง ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่แทนที่ด้วยอาคารสไตล์บาโรกที่สวยงาม
โรงงานช็อกโกแลต
โมดิกานั้นยังขึ้นชื่อในเรื่องช็อกโกแลตอีกด้วย ช็อกโกแลตของที่นี่ทำขึ้นตามสูตรโบราณของพระสงฆ์ชาวสเปน นำท่านชมวิธีการผลิตช็อกโกแลต และชิมช็อกโกแลตที่ขึ้นชื่อของโมดิกา
ชมเมืองรากูซาโดยรถไฟสายบาโรก
รถไฟขนาดเล็กที่จะนำท่านชมสถานที่สำคัญและสวยงามของเมืองในย่านรากูซาอิบลา เริ่มจาก Piazza Duomo ที่ตั้งของมหาวิหาร San Giorgio อันสง่างามในแบบซิซิเลียนบาโรก ผ่านชมคฤหาสน์ลาร็อคคา และคฤหาสน์ซอร์ติโนโตรโน คฤหาสน์ชนชั้นสูงในสมัยศตวรรษที่ 18
รากูซา (Ragusa)
เมืองมรดกโลก UNESCO บนยอดเขาทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะซิซิลี มีย่านรากูซาอิบลา (Ragusa Ibla) เป็นย่านเมืองเก่าเป็นที่ตั้งของอาคารสไตล์บาโรกหลายแห่ง เช่น Duomo di San Giorgio ซึ่งเป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ที่มีภาพวาดและหน้าต่างกระจกสีอันงดงาม
รากูซา – โนโต – โบสถ์เซนต์นิโคลัส – ซิราคูซ่า – อุทยานโบราณคดีนีอาโพลิส – ซิราคูซ่าดูโอโม
โนโต (Noto)
เมืองซึ่งตั้งอยู่บริเวณตีนเขา Iblean เมืองซึ่งมีอาคารสถาปัตยกรรมแบบบาโรกแห่งนี้ ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ใหม่หลังจากเกิดแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1693 ศูนย์กลางของเมืองมีสวนคลาสสิก น้ำพุอันวิจิตร วัง โบสถ์ และคฤหาสน์มากมาย
ซิราคูซ่า (Siracusa)
เมืองชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงใต้ ก่อตั้งมาตั้งแต่ 734 ปีก่อนคริสตกาล ศูนย์กลางการประมง และ การเกษตร ชมโรงละครกรีก ที่ชาวกรีกโบราณใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างโดยการขุดเจาะภูเขาทั้งลูก จุผู้ชมได้ถึง 16,000 คน
อุทยานโบราณคดีนีอาโพลิส
ที่ตั้งของโรงละคร Teatro Greco สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาล มีเหมืองหินปูนที่ลึกและสูงชันซึ่งใช้สกัดหินสำหรับสร้างเมืองโบราณ ด้านในเต็มไปด้วยสุสานใต้ดิน ต้นส้มและต้นแมกโนเลีย มีลานต่อสู้แบบกลาดิเอเตอร์และสนามแข่งม้าในสมัยศตวรรษที่ 2
ซิราคูซ่าดูโอโม
โบสถ์คู่บ้านคู่เมืองของซิราคูซ่า เคยเป็นสถานที่ตั้งของวิหารเทพี Athena ต่อมาโดนบุกรุกโดยชาวคริสต์ และถูกเปลี่ยนเป็นโบสถ์ โดยมีการสร้างโบสถ์ทับลงไบในโครงสร้างเดิม มีการใช้ศิลปะสไตล์บาโรกในการตกแต่งใหม่ทั้งหมด
ซิราคูซ่า – ทาโอร์มิน่า – ล่องเรือชมชายฝั่งของทาโอร์มิน่า – โรงละครกรีกโบราณ – จุดชมวิวจตุรัส Piazza IX Aprile – ถนนคอร์โซ
เมืองริมฝั่งทะเล ทาโอร์มิน่า
ชื่นชมกับวิวทิวทัศน์ที่เป็นสวนส้ม สวนมะกอก สลับไปกับทุ่งหญ้าที่มีดอกไม้ป่าสีเหลืองอร่ามอยู่เต็มท้องทุ่ง เพื่อเดินทางไปสู่เมืองที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในเกาะซิซิลีนั้นก็คือ ทาโอร์มิน่า เมืองเล็กๆ บนเขาริมผาที่ทุกบ้านหันหน้าไปทางเดียวกันหมดเพื่อมองทะเลเบื้องล่างได้ตลอดเวลา
ล่องเรือชมชายฝั่งของทาโอร์มิน่า
และอ่าว Giardini Naxos เกาะแบลลา (Isola Bella) ชมถ้ำสีฟ้าที่สวยงามของทาโอร์มินา และน้ำทะเลที่ใสราวกับคริสตัลของอ่าวเมอร์เมดส์ ชมอ่าวมาซซาโร ถ้ำคู่รัก และสถานที่อันน่าอัศจรรย์อื่นๆ ในระหว่างที่ล่องไปในทะเลซิซิลีแห่งน
โรงละครกรีกโบราณ (Greek Theater)
สร้างขึ้นมาตั้งแต่ก่อนคริสตกาล ท่านจะได้สัมผัสกับภูมิปัญญาของชาวกรีกโบราณในการส่งต่อคลื่นเสียง เพราะไม่ว่าท่านจะอยู่มุมใดในโรงละครก็.ตามแต่ ท่านจะได้ยินเสียงจากลานเวทีซึ่งอยู่ด้านล่างได้อย่างทั่วถึง
จุดชมวิวจตุรัส Piazza IX Aprile
จตุรัสแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์อันสวยงามของทะเลไอโอเนียนสีฟ้าและภูเขาเอตนา มีร้านกาแฟเก๋ๆ เรียงรายกัน เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว และศิลปินนักวาดภาพการ์ตูน ท่านสามารถนั่งจิบคาปูชิโน่และเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่ผ่อนคลายของทาโอร์มินา
ภูเขาไฟเอ็ตนา – ขึ้นเคเบิ้ลคาร์สู่ยอดเข้าเอ็ตน่า – ขึ้นรถบัส 4X4 ชมปากปล่องภูเขาไฟ – ซิซิลีไวน์เนอรี่ – กิจกรรมทำพาสต้า
ภูเขาไฟเอ็ตนา
สำรวจภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปที่ยังคงคุกรุ่น ภูเขาไฟเอ็ตนาสูง 3,327 เมตรและมีเส้นผ่านศูนย์กลางฐานเฉลี่ย 40 กิโลเมตร จากยอดภูเขาไปสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ทั่วทั้งภูมิภาค การปะทุและกระแสลาวาที่ลุกเป็นไฟ นั้นดึงดูดความสนใจของนักวิทยาศาสตร์ และผู้มาเยือนจากทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2013 ภูเขาไฟเอ็ตนาได้ภูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ UNESCO ทางธรณีวิทยา
โดยสารกระเช้าเคเบิ้ลคาร์
สู่สถานีด้านบนของภูเขาเอ็ตน่าที่ความสูงประมาณ 2,500 เมตร ชมทิวทัศน์ที่แปลกตาของภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ เมื่อถึงสถานีปลายทาง นำท่านขึ้นรถบัส 4X4 แบบพิเศษ ที่ขับขี่โดยผู้เชี่ยวชาญ รถบัสนำท่านไต่ระดับความสูงขึ้นสู่ปากปล่องภูเขาไฟเอ็ตน่า พบกับฉากความงามซึ่งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล ชื่นชมปล่องภูเขาไฟที่สูงตระหง่าน
ร่วมกิจกรรมทำพาสต้า
เรียนรู้เคล็ดลับการทำอาหารและเมนูพิเศษเอกลักษณ์ของซิซิลี โดยมีเชฟผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำท่าน และใช้ไข่ออร์แกนิกจากไก่ที่เลี้ยงในบริเวณโรงแรม
จุดชมวิวจตุรัส Piazza IX Aprile
ชิมไวน์ซิซิลี ไวน์ซิซิลีผ่านการกลั่นในหลากหลายรูปแบบ และรสชาติก็ขึ้นอยู่กับสถานที่ปลูกองุ่น วิธีดูแลองุ่น และบ่มในภาชนะประเภทใด ไวน์จากซิซิลีมีทั้งไวน์แดง ไวน์ขาว โรเซ่ และไวน์สีส้ม
ทาโอร์มิน่า – คาร์ทาเนีย – มิวนิก – จตุรัสมาเรียนพลาส
นครมิวนิก
เมืองหลวงของแคว้นบาวาเรีย ยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิซาร์ เป็นศูนย์กลางความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเงิน การธนาคาร ปัจจุบันมิวนิคมีประชากรถึง 1.3 ล้านคน ระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคมของทุกปีจะมีเทศกาลดื่มเบียร์แห่งมิวนิค หรืออ็อกโทเบอร์เฟสต์
จตุรัสมาเรียนพลาส (Marienplatz)
เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองทั้งเก่าและใหม่ที่มีการตกแต่งแบบสถาปัตยกรรมแบบกอธิคที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในเยอรมนี
นครมิวนิค – กรุงเทพ
วันที่สิบ – นำท่านสู่ท่าอากาศยานนครมิวนิก นำท่านเหินฟ้าสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย

วันที่สิบเอ็ด – ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ

ดาวน์โหลดโปรแกรมการเดินทาง (PDF)

Comments

comments