Previous
						
						
							
							Next
						
												
			Sicily The Wonders of Mediterranean		
				
			20 - 30 APRIL 2026 		
				DAY1
20 เม.ย. 2569
กรุงเทพฯ – มิวนิก
				
											20.00 น.  พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการบินลุฟท์ฮันซ่า
เคาน์เตอร์เช็คอิน แถว F อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 4  เจ้าหน้าที่เวิลด์ เซอร์ไพร้ส รอต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวก
23.00 น.  โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า เที่ยวบินที่ LH773 นำท่านเหินฟ้าสู่ นครมิวนิก ประเทศเยอรมนี
				DAY2
21 เม.ย. 2569
มิวนิก – ปาแลร์โม – มอนเรอาเล – มหาวิหารดูโอโม
				เช้า อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม
05.30 น. ถึง ท่าอากาศยานมิวนิก ประเทศเยอรมนี หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว แวะพักเพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
09.00 น. โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า เที่ยวบินที่ LH1914 นำท่านเหินฟ้าสู่ ปาเลอร์โม เกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี
11.00 น. ถึงท่าอากาศยาน ปาเลอร์โม เกาะซิซิลี หลังตรวจเช็คสัมภาระแล้ว นำท่านเดินทางสู่ภัตตาคาร 
				กลางวัน
				อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังอาหาร นำท่านสู่ ปาแลร์โม เมืองเก่าที่มีอายุกว่าสามพันปี ในอดีตเป็นเสมือนศูนย์กลางของตะวันออก และ ตะวันตก เพราะมีทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม นักเดินเรือสมัยก่อนจึงใช้เป็นจุดเชื่อมระหว่างทวีปเอเชีย ยุโรป และแอฟริกา ปัจจุบันได้กลายมาเป็นเมืองหลวงแห่งเกาะซิซิลี
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ มอนเรอาเล นำท่านชม มหาวิหารดูโอโม (Cattedrale di Monreale) 
ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น เพชรน้ำเอกเม็ดหนึ่งของสถาปัตยกรรม อาหรับ – นอร์มัน 
มหาวิหารนี้สร้างขึ้นตามคำบัญชาของวิลเลี่ยมที่ 2 ผสมผสานฝีมือช่างทั้ง นอร์มัน อาหรับ ไบแซนไทน์ และคลาสสิก เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัวและสวยงาม จนพระพุทธเจ้าหลวงของเราได้ทรงบรรยายไว้ใน พระราชนิพนธ์ “ไกลบ้าน” ครั้งที่เสด็จเกาะซิซิลีเมื่อ ปี พ.ศ. 2450

				
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ มอนเรอาเล นำท่านชม มหาวิหารดูโอโม (Cattedrale di Monreale) 
ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น เพชรน้ำเอกเม็ดหนึ่งของสถาปัตยกรรม อาหรับ – นอร์มัน 
มหาวิหารนี้สร้างขึ้นตามคำบัญชาของวิลเลี่ยมที่ 2 ผสมผสานฝีมือช่างทั้ง นอร์มัน อาหรับ ไบแซนไทน์ และคลาสสิก เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัวและสวยงาม จนพระพุทธเจ้าหลวงของเราได้ทรงบรรยายไว้ใน พระราชนิพนธ์ “ไกลบ้าน” ครั้งที่เสด็จเกาะซิซิลีเมื่อ ปี พ.ศ. 2450

ค่ำ
				อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Grand Hotel et des Palmes หรือในระดับเดียวกัน
				
											DAY3
20 เม.ย. 2569
ปาแลร์โม – ผ่านชมปราสาทนอร์มันนี – แคปเปลลา ปาลาตินา – 
ตลาดบาลลาโร – เที่ยวชมเมืองปาแลร์โมโดยรถตุ๊กตุ๊ก – 
Via Ruggero Settimo
				เช้า
				อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านชม ปราสาทนอร์มันนี (Norman Palace) ซึ่งเป็นพระบรมมหาราชวังที่กษัตริย์ซิซิลีทรงใช้ในการว่าราชการ พระราชวังแห่งนี้ได้สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 9 และต่อเติมเพิ่มอีกในศตวรรษที่ 12 ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่แสดงผลงามศิลปะที่บอกเล่าเรื่องราวของราชวงศ์นอร์มัน ภายในยังเป็นที่ตั้งของ แคปเปลลาปาลาตินา(Cappella Palatina) โบสถ์ในพระราชวังกลางเมืองปาแลร์โม ที่มีความสวยงามมาก โดยการประดับประดาโมเสคสีทองที่ประดับอยู่ในตัวโบสถ์ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเพชรน้ำเอกของสถาปัตยกรรมทางศาสนา
				
											จากนั้น นำท่านสู่ ตลาดบาลลาโร (Mercato di Ballarò) หนึ่งในตลาดนัดที่เก่าแก่ที่สุดในปาแลร์โม เป็นหนึ่งในตลาดที่มีชีวิตชีวาและงดงามที่สุดของซิซิลี
ตลาดนัดของซิซิลีเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกว่าเป็นสีสันที่แท้จริง และมีกลิ่นหอมอันน่าหลงใหลจากวัตถุดิบสดใหม่ เช่น ผลไม้ ผัก เนื้อสัตว์ และปลา 
ท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่ยอดเยี่ยม สัมผัสกับบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ของซิซิลี เดินชมร้านค้าและชมชีวิตประจำวันที่แท้จริงของผู้ตนในซิซิลี แหล่งหลอมรวมของวัฒนธรรมที่แตกต่างและประเพณีที่มีมาแสนนาน ท่านอาจลิ้มลองอาหารซิซิลีแสนอร่อย เช่น สฟินซิโอเน และ พาเนลเล รสชาติที่อร่อยจนลืมไม่ลง
				
											กลางวัน
				อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่าน เที่ยวชมเมืองปาแลร์โมโดยรถตุ๊กตุ๊ก
นำท่านชม น้ำพุฟอนทานา พริทอเรีย (Fontana Pretoria) สัญลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของน้ำพุแห่งนี้ น้ำพุวงกลมที่ประดับประดาไปด้วยรูปปั้นนางไม้ เทพไทรทัน และเทพแห่งแม่น้ำ น้ำพุแห่งนี้ยังมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าน้ำพุแห่งความอัปยศ (Fontana della Vergogna) เพราะมีประติมากรรมร่างกายที่เปลือยเปล่าในที่โจ่งแจ้งตั้งอยู่ใกล้กับโบสถ์ของชาวซิซิลีผู้เคร่งครัดในศาสนา
น้ำพุแห่งนี้ออกแบบโดยประติมากรชาวฟลอเรนซ์ Francesco Camilliani ระหว่างปี ค.ศ. 1554 ถึง 1555 สำหรับวิลล่าในทัสคานีของ Don Pedro di Toledo ก่อนจะถูกซื้อโดยเมืองปาแลร์โมในปี ค.ศ. 1573 และตั้งอยู่ด้านหน้าศาลากลางของเมือง
แล้วนำท่านชม จตุรัสสี่มุมแห่งปาแลร์โม (Quattro Canti) จตุรัสแบบอิตาลีอันงดงามที่ชาวเมืองมักจะมาเดินเล่นในตอนเย็น ดูเด็กๆ วิ่งเล่น หรือพบปะกับเพื่อนฝูง 
แล้ว ผ่านชมมหาวิหาร โรงละครโอเปร่า Teatro Massimo และ โรงละคร Teatro Politeama รวมถึงผ่านชมย่านใจกลางเมืองเก่า พระบรมมหาราชวัง และโบสถ์ที่สวยงามของเมืองปาแลร์โมอื่นๆ ด้วย
จากนั้น อิสระ ณ Via Ruggero Settimo ถนนเปี่ยมชีวิตชีวาใจกลางเมืองปาแลร์โม เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านบูติก และคาเฟ่ ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับทั้งชาวเมืองและนักท่องเที่ยว ด้วยสถาปัตยกรรมอันสง่างามช่วยเน้นย้ำถึงเสน่ห์ของภูมิทัศน์เมืองปาแลร์โม

				
นำท่านชม น้ำพุฟอนทานา พริทอเรีย (Fontana Pretoria) สัญลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของน้ำพุแห่งนี้ น้ำพุวงกลมที่ประดับประดาไปด้วยรูปปั้นนางไม้ เทพไทรทัน และเทพแห่งแม่น้ำ น้ำพุแห่งนี้ยังมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าน้ำพุแห่งความอัปยศ (Fontana della Vergogna) เพราะมีประติมากรรมร่างกายที่เปลือยเปล่าในที่โจ่งแจ้งตั้งอยู่ใกล้กับโบสถ์ของชาวซิซิลีผู้เคร่งครัดในศาสนา
น้ำพุแห่งนี้ออกแบบโดยประติมากรชาวฟลอเรนซ์ Francesco Camilliani ระหว่างปี ค.ศ. 1554 ถึง 1555 สำหรับวิลล่าในทัสคานีของ Don Pedro di Toledo ก่อนจะถูกซื้อโดยเมืองปาแลร์โมในปี ค.ศ. 1573 และตั้งอยู่ด้านหน้าศาลากลางของเมือง
แล้วนำท่านชม จตุรัสสี่มุมแห่งปาแลร์โม (Quattro Canti) จตุรัสแบบอิตาลีอันงดงามที่ชาวเมืองมักจะมาเดินเล่นในตอนเย็น ดูเด็กๆ วิ่งเล่น หรือพบปะกับเพื่อนฝูง 
แล้ว ผ่านชมมหาวิหาร โรงละครโอเปร่า Teatro Massimo และ โรงละคร Teatro Politeama รวมถึงผ่านชมย่านใจกลางเมืองเก่า พระบรมมหาราชวัง และโบสถ์ที่สวยงามของเมืองปาแลร์โมอื่นๆ ด้วย
จากนั้น อิสระ ณ Via Ruggero Settimo ถนนเปี่ยมชีวิตชีวาใจกลางเมืองปาแลร์โม เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านบูติก และคาเฟ่ ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับทั้งชาวเมืองและนักท่องเที่ยว ด้วยสถาปัตยกรรมอันสง่างามช่วยเน้นย้ำถึงเสน่ห์ของภูมิทัศน์เมืองปาแลร์โม

ค่ำ
				อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Grand Hotel et des Palmes ระดับ 5 ดาว หรือในระดับเดียวกัน 
				DAY4
23 เม.ย. 2569
ปาแลร์โม – ชิมไวน์ซิซิลี – เซลินุนเต – อากริเจนโต
				เช้า
				อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ไวน์เนอรี่ และให้ท่านไปได้ลองชิมไวน์ซิซิลี ไวน์ซิซิลีผ่านการกลั่นในหลากหลายรูปแบบ และรสชาติก็ขึ้นอยู่กับสถานที่ปลูกองุ่น วิธีดูแลองุ่น และบ่มในภาชนะประเภทใด
ไวน์จากซิซิลีมีทั้งไวน์แดง ไวน์ขาว โรเซ่ และไวน์สีส้ม แม้ว่าไวน์ของเกาะซิซิลีส่วนใหญ่จะผ่านการกลั่นแบบดราย์ แต่ซิซิลีก็มีการผลิตสวีทไวน์เช่นกัน
				
											
											กลางวัน
				อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ เซลินุนเต (Selinunte) เมืองโบราณที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งในเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งถูกละทิ้งไปกว่า 2,000 ปี
นำท่านเดินชมย่านเมืองโบราณ ซึ่งแบ่งเป็นสี่ส่วน โดยแบ่งเป็นด้านตะวันออกซึ่งอยู่บนเชิงเขา ในบริเวณนี้จะประกอบด้วย Temple E,F,G โดย Temple E ถือเป็นส่วนที่สมบูรณ์ที่สุดอันเป็นตัวอย่างโบราณสถานในรูปแบบศิลปะแบบโตริคที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง
และท่านยังได้เห็นทัศนียภาพอันงดงาม โดยมีท้องทะเลเป็นฉากหลัง และในด้านตะวันตกอันประกอบด้วย Temple A,B,C และอะโครโปลิสอันเป็นศูนย์กลางของเมือง
				
											ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ อากริเจนโต เมืองโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่า 2,500 ปี ซึ่งในอดีตถูกยึดครองโดยชาวกรีก ซึ่งได้สร้างหมู่วิหารเพื่อบูชาเทพเจ้าต่างๆไว้มากมาย
				ค่ำ
				อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Villa Athena ระดับ 5 ดาว หรือในระดับเดียวกัน
				
											DAY 5
25 เม.ย. 2569
อากริเจนโต – วิหารคอนคอร์เดีย – โมดิกา – โรงงานช็อกโกแลต – 
ชิมช็อกโกแลตโมดิกา – รากูซา – ชมเมืองรากูซาโดยรถไฟสายบาโรก
				เช้า
				อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านชม วิหารคอนคอร์เดีย ในหุบเขาแห่งวิหารที่เป็นวิหารแบบดอริคที่รักษาสภาพไว้ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดนอกประเทศกรีกถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 480 ก่อนคริสตกาลเพื่อขอบคุณเทพผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในสวรรค์
				
											กลางวัน
				อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ โมดิกา (Modica) นำท่านชมเมืองอันงดงามในหุบเขาที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสี่ลูก หนึ่งในแปดเมืองมรดกโลก ‘Val di Noto’ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของซิซิลี หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1693 เมืองเก่าในยุคกลาง ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่แทนที่ด้วยอาคารสไตล์บาโรกที่สวยงาม โบสถ์ที่ตกแต่งอย่างงดงาม พระราชวัง ทั้งเมืองเก่าและเมืองใหม่ที่เชื่อมต่อกันด้วยถนนและทางเดินที่คตเคี้ยวราวกับเขาวงกตและบันไดแคบๆ
				
											แล้วนำท่านสู่ โรงงานช็อกโกแลต นอกจากสถาปัตยกรรมที่สวยงามแล้ว โมดิกานั้นยังขึ้นชื่อในเรื่องช็อกโกแลตอีกด้วย ช็อกโกแลตของที่นี่ทำขึ้นตามสูตรโบราณของพระสงฆ์ชาวสเปน นำท่านชมวิธีการผลิตช็อกโกแลต และชิมช็อกโกแลตที่ขึ้นชื่อของโมดิกา
				
											จากนั้น นำท่านสู่ รากูซา (Ragusa) เมืองมรดกโลก UNESCO ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะซิซิลี มีย่านรากูซาอิบลา (Ragusa Ibla) เป็นย่านเมืองเก่าเป็นที่ตั้งของอาคารสไตล์บาโรกหลายแห่ง เช่น Duomo di San Giorgio ซึ่งเป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ที่มีภาพวาดและหน้าต่างกระจกสีอันงดงาม
มีสวนสาธารณะ Giardino Ibleo ที่มีโบสถ์และน้ำพุและจุดชมทัศนียภาพที่กว้างไกลของเมือง อีกย่านหนึ่งคือ ย่านรากูซาซูพีเรีย (Ragusa Superiore) ย่านนี้เป็นส่วนที่ทันสมัยกว่าของเมือง มีวิหารรากูซา อันวิจิตรงดงามซึ่งมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะทางศาสนาและวัตถุโบราณอันมีค่าถูกเก็บรักษาไว้ที่นี่
				
											แล้วนำท่าน ชมเมืองรากูซาโดยรถไฟสายบาโรก รถไฟขนาดเล็กที่จะนำท่านชมสถานที่สำคัญและสวยงามของเมืองในย่านรากูซาอิบลา เริ่มจาก Piazza Duomo ที่ตั้งของมหาวิหาร San Giorgio อันสง่างามในแบบซิซิเลียนบาโรก และมีถนนสไตล์บาโรกที่สวยงาม ผ่านชมคฤหาสน์ลาร็อคคา และคฤหาสน์ซอร์ติโนโตรโน คฤหาสน์ชนชั้นสูงในสมัยศตวรรษที่ 18
 สถานที่น่าสนใจอีกแห่งใน รากูซาอิบลา คือซุ้มประตูใหญ่ที่มีชื่อเสียงของ มหาวิหารซานจิออร์จิโอ อันเก่าแก่ ซึ่งรอดจากแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1693 และที่อยู่ติดกันคือ สวน Iblei ที่สวยงาม
(รถไฟบริการไม่ได้เปิดให้บริการทุกวัน และไม่สามารถเช็กรอบล่วงหน้าได้)
				
											ค่ำ
				อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Eremo Della Giubiliana ระดับ 5 ดาว หรือในระดับเดียวกัน 
				
											DAY 6
25 เม.ย. 2569
รากูซา – โนโต – โบสถ์เซนต์นิโคลัส – ซิราคูซ่า – อุทยานโบราณคดีนีอาโพลิส – ซิราคูซ่าดูโอโม
				เช้า
				อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ โนโต (Noto) เมืองซึ่งตั้งอยู่บริเวณตีนเขา Iblean เมืองซึ่งมีอาคารสถาปัตยกรรมแบบบาโรกแห่งนี้ ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ใหม่หลังจากเกิดแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1693 ศูนย์กลางของเมืองมีสวนคลาสสิก น้ำพุอันวิจิตร วัง โบสถ์ และคฤหาสน์มากมาย
				
											
											แล้วนำท่านชม โบสถ์เซนต์นิโคลัส (San Nicolo Cathedral) อาสนวิหารซึ่งตั้งอยู่บนชั้นสูงสุดของขั้นบันไดขนาดใหญ่ โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นไม่กี่เดือนหลังจากเหตุแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1693 แต่แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1770 ส่วนด้านหน้ามีการประดับประดาตกแต่งไม่มากนัก โดยการผสมผสานลวดลายแบบบาโรกและองค์ประกอบแบบคลาสสิก ทางเดินเข้าทั้งสามทางของโบสถ์ถูกแบ่งด้วยเสาที่สูงใหญ่
ในโบสถ์ที่ด้านล่างของทางเดินด้านขวาจะมีโกศเงินของ San Corrado นักบุญอุปถัมภ์ของเมือง ในปี ค.ศ. 1996 ส่วนของโดมเคยทรุดตัวลงมา เป็นผลมาจากโครงสร้างที่ไม่ได้รับการแก้ไขซึ่งเกิดจากแผ่นดินไหว การสร้างใหม่ใช้เวลามากกว่า 10 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 2007 ด้วยการผสมผสานเทคนิคสมัยใหม่ และเทคนิคโบราณจากศตวรรตที่ 17 โดยใช้วัสดุในสมัยนั้น ทำให้โบสถ์แห่งนี้ได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ UNESCO
				
											กลางวัน
				อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ซิราคูซ่า (Siracusa) เมืองชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเมืองที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ 734 ปีก่อนคริสตกาล เป็นศูนย์กลางการประมง และ การเกษตรโดยมีส้มและมะกอกเป็นสินค้าหลัก
แล้วนำท่านชม โรงละครกรีก ที่ชาวกรีกโบราณใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างโดยการขุดเจาะภูเขาทั้งลูก โดยที่ไม่มีการขุดเอาหินจากที่อื่นมาสร้างเป็นอัฒจันทร์เลย สามารถจุผู้ชมได้ถึง 16,000 คน โดยแบ่งที่นั่งออกเป็น 9 ส่วน ๆ ละ 63 แถวและถูกจัดให้เป็นประติมากรรมจากหินที่ใหญ่ที่สุดชิ้นหนึ่งของโลก
				
											จากนั้น นำท่านสู่ อุทยานโบราณคดีนีอาโพลิส (The Archaeological Park of Neapolis) ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงละคร Teatro Greco สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาล และสร้างขึ้นใหม่ในศตวรรษที่ 3 อัฒจันทร์สามารถจุคนดูได้ถึง 16,000 คน 
ในทุกๆ ปีตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนกรกฎาคมจะมีการจัดแสดงละครคลาสสิกที่นี่ ข้างโรงละครเหมืองหินปูนที่ลึกและสูงชันซึ่งใช้สกัดหินสำหรับสร้างเมืองโบราณ ด้านในเต็มไปด้วยสุสานใต้ดิน และต้นส้มและต้นแมกโนเลีย ซึ่งครั้งหนึ่งผู้รอดชีวิต 7,000 คนจากสงครามระหว่างซีราคิวส์และเอเธนส์ใน 413 ปีก่อนคริสตกาลเคยถูกคุมขังไว้ที่นี่
ที่ด้านนอกยังมี ลานต่อสู้แบบกลาดิเอเตอร์และสนามแข่งม้า ในสมัยศตวรรษที่ 2 ชาวสเปนเริ่มเข้ามาในศตวรรษที่ 16 และได้ทำลายสถานที่ส่วนใหญ่ เพื่อนำหินไปสร้างกำแพงเมืองออร์ทีเจีย ทางตะวันตกของอัฒจันทร์คือแท่นหินบูชาขนาดใหญ่ในศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล มีการฆ่าวัวมากถึง 450 ตัวในคราวเดียว
				
											
											จากนั้น นำท่านชม ซิราคูซ่าดูโอโม (Duomo di Siracusa)โบสถ์คู่บ้านคู่เมืองของซิราคูซ่า ในสมัยกรีกพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นสถานที่ตั้งของวิหารเทพี Athena ต่อมาโดนบุกรุกโดยชาวคริสต์ และถูกเปลี่ยนเป็นโบสถ์ โดยมีการสร้างโบสถ์ทับลงไบในโครงสร้างเดิม
ดังนั้นเสาดั้งเดิมตั้งแต่สมัยกรีกทั้ง 26 ต้นจึงยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน หลังจากนั้นเกิดแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1693 จึงได้รับการซ่อมบูรณะอีกทีในศตวรรษที่ 18 และได้มีการใช้ศิลปะสไตล์บาโรกในการตกแต่งใหม่ทั้งหมด อิสระให้ท่านถ่ายรูป จัตุรัสดูโอโม่ ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของมหาวิหาร อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของซิราคูช่า
				
											ค่ำ
				อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Dolce by Wyndham Siracusa – I Monasteri Golf & Spa ระดับ 5 ดาว หรือในระดับเดียวกัน 
				
											DAY 7
26 เม.ย. 2569
ซิราคูซ่า – ภูเขาไฟเอ็ตนา – ขึ้นเคเบิ้ลคาร์สู่ยอดเข้าเอ็ตน่า – 
ขึ้นรถบัส 4X4 ชมปากปล่องภูเขาไฟ – กิจกรรมทำพาสต้า 
				เช้า
				อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ภูเขาไฟเอ็ตนา สำรวจภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปที่ยังคงคุกรุ่น ภูเขาไฟเอ็ตนาสูง 3,327 เมตรและมีเส้นผ่านศูนย์กลางฐานเฉลี่ย 40 กิโลเมตร จากยอดภูเขาไปสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ทั่วทั้งภูมิภาค การปะทุและกระแสลาวาที่ลุกเป็นไฟ นั้นดึงดูดความสนใจของนักวิทยาศาสตร์ และผู้มาเยือนจากทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2013 ภูเขาไฟเอ็ตนาได้ภูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ UNESCO ทางธรณีวิทยา
				
											แล้วนำท่านโดยสาร กระเช้าเคเบิ้ลคาร์ สู่สถานีด้านบนของภูเขาเอ็ตน่าที่ความสูงประมาณ 2,500 เมตร ชมทิวทัศน์ที่แปลกตาของภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ เมื่อถึงสถานีปลายทาง
นำท่าน ขึ้นรถบัส 4X4 แบบพิเศษ ที่ขับขี่โดยผู้เชี่ยวชาญ รถบัสนำท่านไต่ระดับความสูงขึ้นสู่ปากปล่องภูเขาไฟเอ็ตน่า ท่านจะพบกับฉากความงามที่หาที่เปรียบมิได้ซึ่งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล จากจุดนี้ท่านจะสามารถชื่นชมปล่องภูเขาไฟที่สูงตระหง่าน ปากปล่องตะวันออกเฉียงใต้ และร่องรอยกระแสลาวา เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและประทับใจครั้งหนึ่งในชีวิต
				
											จากนั้น นำท่านโดยสารกระเช้าเคเบิ้ลคาร์ กลับสู่สถานีด้านล่าง 
				กลางวัน
				อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย
ถึงเวลาอันสมควร นำท่านร่วม กิจกรรมทำพาสต้า เรียนรู้เคล็ดลับการทำอาหารและเมนูพิเศษเอกลักษณ์ของซิซิลี โดยมีเชฟผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ
				
											ค่ำ
				อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Picciolo Etna Golf Resort & Spa, Curio Collection by Hilton ระดับ 5 ดาว หรือในระดับเดียวกัน 
				
											DAY 8
27 เม.ย. 2569
ซิราคูซ่า – ทาโอร์มิน่า – ล่องเรือชมชายฝั่งของทาโอร์มิน่า – โรงละครกรีกโบราณ – จุดชมวิวจตุรัส Piazza IX Aprile – ถนนคอร์โซ
				เช้า
				อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านเดินทางเลียบริมฝั่งทะเลไอโอเนียน ที่มีธรรมชาติอันสวยงามระหว่างทางให้ท่านได้พักผ่อนและชื่นชมกับวิวทิวทัศน์ที่เป็นสวนส้ม สวนมะกอก สลับไปกับทุ่งหญ้าที่มีดอกไม้ป่าสีเหลืองอร่ามอยู่เต็มท้องทุ่งเพื่อเดินทางไปสู่เมืองที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในเกาะ ซิซิลี นั้นก็คือ ทาโอร์มิน่า เมืองเล็กๆ บนเขาริมผาที่ทุกบ้านหันหน้าไปทางเดียวกันหมดเพื่อมองทะเลเบื้องล่างได้ตลอดเวลา ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดบนเกาะซิซิลี
				
											แล้วนำท่าน ล่องเรือชมชายฝั่งของทาโอร์มิน่า และ อ่าว Giardini Naxos เอนหลังพักผ่อนสบายๆ และอาบแดด ในขณะที่เรือนำท่านล่องชมอุทยานทางทะเล เกาะแบลลา (Isola Bella) ชมถ้ำสีฟ้าที่สวยงามของทาโอร์มินา และน้ำทะเลที่ใสราวกับคริสตัลของอ่าวเมอร์เมดส์ ชายหาดที่เหมาะสำหรับการดำน้ำตื้น
บริการท่านด้วยผลไม้และเครื่องดื่มเย็นๆ ท่านสามารถเพลิดเพลินกับการว่ายน้ำในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสีฟ้า ชมอ่าวมาซซาโร ถ้ำคู่รัก และสถานที่อันน่าอัศจรรย์อื่นๆ ในระหว่างที่ล่องไปในทะเลซิซิลีแห่งนี้
				
											จากนั้น นำท่านโดยสารกระเช้าเคเบิ้ลคาร์ กลับสู่สถานีด้านล่าง 
				กลางวัน
				อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่าน ขึ้นกระเช้าเคเบิ้ลคาร์ จากบริเวณชายหาดมาซซาโร ผ่านหน้าผาสูงชัน สู่ศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของทาโอร์มินา แล้วนำท่านเดินชมเมืองทาโอร์มินา
จากนั้นนำทุกท่านเข้าชม โรงละครกรีกโบราณ (Greek Theater) ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ก่อนคริสตกาล ท่านจะได้สัมผัสกับภูมิปัญญาของชาวกรีกโบราณในการส่งต่อคลื่นเสียง เพราะไม่ว่าท่านจะอยู่มุมใดในโรงละครก็.ตามแต่ ท่านจะได้ยินเสียงจากลานเวทีซึ่งอยู่ด้านล่างได้อย่างทั่วถึง
				
											แล้วนำท่านสู่ จุดชมวิวจตุรัส Piazza IX Aprile จตุรัสแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์อันสวยงามของทะเลไอโอเนียนสีฟ้าและภูเขาเอตนา มีร้านกาแฟเก๋ๆ เรียงรายกัน เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว และศิลปินนักวาดภาพการ์ตูน ท่านสามารถนั่งจิบคาปูชิโน่และเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่ผ่อนคลายของทาโอร์มินา
				
											
											แล้วนำท่านเดินชมถนนสายหลักของเมือง ถนนคอร์โซ (Corso Umberto) ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นถนนสายช้อปปิ้งของเมือง อิสระให้ท่านได้ซื้อของฝากตามอัธยาศัย
				
											ได้เวลาอันสมควร นำท่าน ขึ้นกระเช้าเคเบิ้ลคาร์ กลับลงสู่บริเวณชายหาดมาซซาโร
				ค่ำ
				อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Picciolo Etna Golf Resort & Spa, Curio Collection by Hilton ระดับ 5 ดาว หรือในระดับเดียวกัน
				DAY 9
28 เม.ย. 2569
ทาโอร์มิน่า – คาร์ทาเนีย – มิวนิก – ถนนแมกซิมิลเลียน
				เช้า
				เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยาน คาร์ทาเนีย
				11.55 น. 
				โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า เที่ยวบินที่ LH1907 นำท่านเหินฟ้าสู่ มิวนิก
				กลางวัน
				อาหารกลางวันบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม
				14.05 น.
				ถึงท่าอากาศยาน นครมิวนิก เมืองหลวงของแคว้นบาวาเรีย แคว้นตอนใต้ของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิซาร์ เป็นศูนย์กลางความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเงิน การธนาคาร ที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี
ปัจจุบันมิวนิคมีประชากรถึง 1.3 ล้านคน เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของบาวาเรีย ระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคมของทุกปีจะมีเทศกาลดื่มเบียร์แห่งมิวนิค หรืออ็อกโทเบอร์เฟสต์ อันมีที่มาจากงานฉลองพิธีอภิเษกสมรสอันเอิกเกริกมโหฬารของเจ้าชายบาวาเรียพระองค์หนึ่งที่จัดขึ้นในปี ค.ศ. 1810
				
											หลังอาหาร นำท่านสู่ย่านช้อปปิ้งที่ตื่นตาตื่นใจของเมืองมิวนิก ถนนแมกซิมิลเลียน ถนนสายหลักของมิวนิก ที่มีร้านดีไซเนอร์และสินค้าแบรนด์เนมระดับโลก ไม่ว่า จะเป็น Louis Vuitton, Christian Dior, Chanel, Gucci อิสระให้ท่านเลือกชมและเลือกซื้อสินค้าตามห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าย่อยมากมายจนถึงเวลานัดหมาย
				
											ค่ำ
				อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Andaz Munich Schwabinger Tor, By Hyatt ระดับ 5 ดาว หรือในระดับเดียวกัน
				
											DAY 10
28 เม.ย. 2569
มิวนิก – ตลาดวิคตอเรีย – ท่าอากาศยานมิวนิก
				เช้า
				อาหารเช้า ณ ภัตตาคารในโรงแรม
หลังอาหาร อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย
ถึงเวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ภัตตาคาร
				กลางวัน
				อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านสัมผัสบรรยากาศตลาดกลางแจ้งที่เป็นตลาดอันเก่าแก่ที่สุดในมิวนิค ณ ตลาดวิคตอเรีย ที่อายุมากกว่า 200 ปี รายล้อมด้วยร้านค้ามากมายกว่า 100 ร้าน ทั้งผัก ผลไม้ และอาหารเช้า 
อิสระให้ท่านเดินเล่นตามอัธยาศัยจนถึงเวลานัดหมาย
				
											จากนั้น นำท่านชม จตุรัสมาเรียนพลาส ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองทั้งเก่าและใหม่ที่มีการตกแต่งแบบสถาปัตยกรรมแบบกอธิคที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในเยอรมนี
ท่านจะได้พบกับความน่ารักของตุ๊กตาที่อยู่ในหอระฆังที่มีชื่อเสียง ซึ่งหอแห่งนี้มีความสูงถึง 85 เมตร อิสระให้ท่านเลือกชมและเลือกซื้อสินค้าตามห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าย่อยมากมายจนถึงเวลานัดหมาย
				
											ค่ำ
				อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านสู่ท่าอากาศยานนครมิวนิก
				22.20 น. 
				โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า เที่ยวบินที่ LH772 นำท่านเหินฟ้าสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย
อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม 
				DAY 11
30 เม.ย. 2569
กรุงเทพฯ
				เช้า
				อาหารเช้าบริการบนเครื่องบิน พร้อมเครื่องดื่ม
				14.10 น.
				ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ
				ดาวน์โหลดโปรแกรมการเดินทาง
											อัตราค่าบริการ
ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน
269,000.-
10 - 14 ท่าน
ผู้ใหญ่พักห้องคู่
269,000 บาท
เด็กอายุ 5 – 11 ปี พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน ไม่มีเตียงเสริม ท่านละ
242,000 บาท
เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน ไม่มีเตียงเสริม
215,000 บาท
15 ท่านขึ้นไป
ผู้ใหญ่พักห้องคู่
239,000 บาท
เด็กอายุ 5 – 11 ปี พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน ไม่มีเตียงเสริม ท่านละ
215,000 บาท
เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน ไม่มีเตียงเสริม
191,000 บาท
พักห้องเดี่ยว เพิ่มท่านละ 80,000 บาท
> ค่าห้องพัก สองท่านต่อหนึ่งห้อง ในโรงแรมที่ระบุ หรือในระดับเดียวกัน
> ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามระบุในรายการ
> ค่าอาหารตามระบุในรายการ
> ค่ารถรับส่งตามรายการ
> ค่าธรรมเนียมวีซ่า ยกเว้นคนต่างด้าว
> ค่าประกันภัยการเดินทาง สำหรับผู้มีอายุระหว่าง 15-75 ปี วงเงินท่านละ 3,000,000 บาท
> ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ สำหรับผู้มีอายุระหว่าง 15-75 ปี วงเงินท่านละ 2,000,000 บาท
> หัวหน้าทัวร์จากกรุงเทพฯ คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
> ค่าทิปมัคคุเทศก์ท้องถิ่นและคนขับรถ
> บริการน้ำดื่มบนรถโค้ชและของว่างระหว่างการเดินทาง
> ขนม และของว่างบริการระหว่างเดินทาง
> Internet Sim Card สำหรับใช้ในประเทศยุโรป 1 ซิมต่อท่าน
				> ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามระบุในรายการ
> ค่าอาหารตามระบุในรายการ
> ค่ารถรับส่งตามรายการ
> ค่าธรรมเนียมวีซ่า ยกเว้นคนต่างด้าว
> ค่าประกันภัยการเดินทาง สำหรับผู้มีอายุระหว่าง 15-75 ปี วงเงินท่านละ 3,000,000 บาท
> ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ สำหรับผู้มีอายุระหว่าง 15-75 ปี วงเงินท่านละ 2,000,000 บาท
> หัวหน้าทัวร์จากกรุงเทพฯ คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
> ค่าทิปมัคคุเทศก์ท้องถิ่นและคนขับรถ
> บริการน้ำดื่มบนรถโค้ชและของว่างระหว่างการเดินทาง
> ขนม และของว่างบริการระหว่างเดินทาง
> Internet Sim Card สำหรับใช้ในประเทศยุโรป 1 ซิมต่อท่าน
> ค่าตั๋วเครื่องบิน 
> ค่าภาษีสนามบินทุกแห่ง
> ค่าภาษีน้ำมัน
> ค่าขนกระเป๋า
> ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (คิดคำนวณจากค่าบริการ)
> ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่น ๆ เช่น ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ทางไกล ค่าเครื่องดื่ม
				> ค่าภาษีสนามบินทุกแห่ง
> ค่าภาษีน้ำมัน
> ค่าขนกระเป๋า
> ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (คิดคำนวณจากค่าบริการ)
> ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่น ๆ เช่น ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ทางไกล ค่าเครื่องดื่ม
> บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับราคา ถ้าจำนวนผู้ใหญ่เดินทางต่ำกว่า 10 ท่าน 
> ทางบริษัท ฯ เป็นตัวแทนในการยื่นเอกสารกับทางสถานทูตเท่านั้น ผลการพิจารณาขึ้นอยู่กับสถานทูตแต่เพียงผู้เดียว
> ทางบริษัท ฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมการเดินทาง โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ และความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นหลัก
> ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิเนื่องจากข้อผิดพลาดทางการพิมพ์
> กรณีไม่สามารถเดินทางได้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง
				> ทางบริษัท ฯ เป็นตัวแทนในการยื่นเอกสารกับทางสถานทูตเท่านั้น ผลการพิจารณาขึ้นอยู่กับสถานทูตแต่เพียงผู้เดียว
> ทางบริษัท ฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมการเดินทาง โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ และความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นหลัก
> ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิเนื่องจากข้อผิดพลาดทางการพิมพ์
> กรณีไม่สามารถเดินทางได้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง

