Puglia Beautiful Adriatic Coast and Shopping Munich Surprise! 9 Days
June 1, 2017
DAY
วันแรก
กรุงเทพฯ
22.00 น.
พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณเคาน์เตอร์สายการบินไทย
อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้นที่ 4 ประตูที่ 2 เคาน์เตอร์เช็คอินแถว D
เจ้าหน้าที่ เวิลด์ เซอร์ไพร้ส รอต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวก
อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้นที่ 4 ประตูที่ 2 เคาน์เตอร์เช็คอินแถว D
เจ้าหน้าที่ เวิลด์ เซอร์ไพร้ส รอต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวก
00.50 น.
โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG924 นำท่านเหินฟ้าสู่ มหานครมิวนิค
อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม
พักค้างแรมบนเครื่องบิน
อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม
พักค้างแรมบนเครื่องบิน
DAY
วันที่สอง
มิวนิค – บารี่ – มาเทรา – ชมเมือง
เช้า
อาหารเช้าบริการบนเครื่องบิน พร้อมเครื่องดื่ม
06.45 น.
ถึงท่าอากาศยานนครมิวนิค ประเทศเยอรมนี แวะพักเพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
09.15 น.
โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า เที่ยวบินที่ LH9468 นำท่านเหินฟ้าสู่บารี ประเทศอิตาลี
10.50 น.
ถึงท่าอากาศยานบารี่ ในแคว้นปุเลีย ประเทศอิตาลี หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว นำท่านเดินสู่ มาเทรา หนึ่งในเมืองมรดกโลกของอิตาลี
กลางวัน
อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านเดินชมนครถ้ำโบราณอันงดงามซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาหิน มีข้อสันนิษฐานกันว่าเมืองแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์มาตั้งแต่ 9,000 ปีก่อน ด้วยวัฒนธรรมที่มีมาอันยาวนานทำให้เมืองโบราณแห่งนี้ถูกจัดเป็นหนึ่งในมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ.1993 ลักษณะเด่นของมาเทราคือที่พักอาศัย ซึ่งสร้างขึ้นโดยใช้วิธีการเจาะถ้ำเข้าไปในภูเขาหิน หรือแกะสลักออกมา ปัจจุบันดัดแปลงเป็นทั้งที่อยู่อาศัย ร้านค้า และร้านอาหาร
หลังอาหาร นำท่านเดินชมนครถ้ำโบราณอันงดงามซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาหิน มีข้อสันนิษฐานกันว่าเมืองแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์มาตั้งแต่ 9,000 ปีก่อน ด้วยวัฒนธรรมที่มีมาอันยาวนานทำให้เมืองโบราณแห่งนี้ถูกจัดเป็นหนึ่งในมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ.1993 ลักษณะเด่นของมาเทราคือที่พักอาศัย ซึ่งสร้างขึ้นโดยใช้วิธีการเจาะถ้ำเข้าไปในภูเขาหิน หรือแกะสลักออกมา ปัจจุบันดัดแปลงเป็นทั้งที่อยู่อาศัย ร้านค้า และร้านอาหาร

ค่ำ
อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Palazzo Gattini หรือในระดับเดียวกัน
พักค้างแรม ณ โรงแรม Palazzo Gattini หรือในระดับเดียวกัน
DAY
วันที่สาม
มาเทรา – เดินชมหุบเขามาเทรา – โปลิยาโน่ อา มาเร – ชมเมือง – เตอเร่ คานเน่
เช้า
อาหารเช้า ณ ภัตตาคารในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านเดินชมบริเวณหุบเขารอบเมืองมาเทรา ซึ่งให้ความรู้สึกและสัมผัสที่ต่างจาก
ปุเลียซึ่งเป็นที่ราบลุ่ม ให้ท่านได้เดินสำรวจพื้นที่ซึ่งประกอบด้วยหุบเขาและถ้ำจำนวนมาก
หลังอาหาร นำท่านเดินชมบริเวณหุบเขารอบเมืองมาเทรา ซึ่งให้ความรู้สึกและสัมผัสที่ต่างจาก
ปุเลียซึ่งเป็นที่ราบลุ่ม ให้ท่านได้เดินสำรวจพื้นที่ซึ่งประกอบด้วยหุบเขาและถ้ำจำนวนมาก

กลางวัน
อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ โปลิยาโน่ อา มาเร เมืองเล็กๆบนผาริมทะเล เมืองได้นี้ชื่อขนานนามว่าเป็นอามัลฟี่แห่งปุเลีย ภายในเมืองมีบรรยากาศที่สวยงามและเต็มไปด้วยร้านอาหารทะเลที่มีรสชาติเยี่ยม
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ โปลิยาโน่ อา มาเร เมืองเล็กๆบนผาริมทะเล เมืองได้นี้ชื่อขนานนามว่าเป็นอามัลฟี่แห่งปุเลีย ภายในเมืองมีบรรยากาศที่สวยงามและเต็มไปด้วยร้านอาหารทะเลที่มีรสชาติเยี่ยม

แล้วนำท่านเดินสำรวจและชมตัวเมืองของ โปลิยาโน่ อา มาเร เขตเมืองเก่าของที่นี้มีมาตั้งแต่เมื่อ 2,000 ปีก่อน ถนนส่วนมากเป็นถนนสายเล็ก สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านรวงต่างๆ โดยเฉพาะ เจลาโต้ หรือ ไอศกรีมแบบอิตาลี ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของเมืองนี้

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เตอเร่ คานเน่ เมืองชายฝั่งทะเลอะเดรียติก
ค่ำ
อาหารค่ำ ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
พักค้างแรม ณ โรงแรม Canne Bianchi Hotel หรือในระดับเดียวกัน
พักค้างแรม ณ โรงแรม Canne Bianchi Hotel หรือในระดับเดียวกัน
DAY
วันที่สี่
เตอเร่ คานเน่ – เลชเช – ชมเมือง – ไร่ไวน์ลิเวลี่ – ชมไร่ไวน์ – เตอเร่ คานเน่
เช้า
อาหารเช้า ณ ภัตตาคารในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านเดินทางมุ่งหน้าลงใต้สู่ เลชเช เมืองหลวงของจังหวัดซาเลนโต้ซึ่งอยู่เกือบทางใต้สุดของอิตาลี เลชเชมีสมญานามว่า ฟลอเรนซ์แห่งแดนใต้ เนื่องจากเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความสวยงามและคุณค่าทางประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรม ตัวเมืองเลชเชมีสถานที่น่าสนใจมากมาย เช่น ซากอัฒจันทร์ในสมัยอาณาจักรโรมัน โบสถ์และอาคารที่วิจิตรงดงามซึ่งตกแต่งด้วยศิลปะแบบบาร็อคจากคริสต์ศตวรรษที่ 17
หลังอาหาร นำท่านเดินทางมุ่งหน้าลงใต้สู่ เลชเช เมืองหลวงของจังหวัดซาเลนโต้ซึ่งอยู่เกือบทางใต้สุดของอิตาลี เลชเชมีสมญานามว่า ฟลอเรนซ์แห่งแดนใต้ เนื่องจากเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความสวยงามและคุณค่าทางประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรม ตัวเมืองเลชเชมีสถานที่น่าสนใจมากมาย เช่น ซากอัฒจันทร์ในสมัยอาณาจักรโรมัน โบสถ์และอาคารที่วิจิตรงดงามซึ่งตกแต่งด้วยศิลปะแบบบาร็อคจากคริสต์ศตวรรษที่ 17

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ ไร่ไวน์ลิเวลี่ ซึ่งเป็นไร่และโรงงานผลิตไวน์ขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงของแคว้นปุเลีย
กลางวัน
อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารในไร่ไวน์ลิเวลี่
หลังอาหาร นำท่านชม ไร่ไวน์ของตระกูลฟัลโว ซึ่งประกอบธุรกิจการผลิตไวน์มานานกว่า 40 ปี ปัจจุบันไร่แห่งนี้มีอาณาเขตกว่า 33,000 ตารางเมตร ภายในมีทั้งไร่องุ่น สำนักงาน โรงงานผลิตไวน์ และโกดังเก็บไวน์ ให้ท่านได้เดินชมขั้นตอนการผลิตไวน์ และลองลิ้มรสไวน์ท้องถิ่น หนึ่งในสินค้าสำคัญอีกอย่างของปุเลีย
หลังอาหาร นำท่านชม ไร่ไวน์ของตระกูลฟัลโว ซึ่งประกอบธุรกิจการผลิตไวน์มานานกว่า 40 ปี ปัจจุบันไร่แห่งนี้มีอาณาเขตกว่า 33,000 ตารางเมตร ภายในมีทั้งไร่องุ่น สำนักงาน โรงงานผลิตไวน์ และโกดังเก็บไวน์ ให้ท่านได้เดินชมขั้นตอนการผลิตไวน์ และลองลิ้มรสไวน์ท้องถิ่น หนึ่งในสินค้าสำคัญอีกอย่างของปุเลีย

ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางกลับสู่ เตอเร่ คานเน่
ค่ำ
อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Canne Bianchi Hotel หรือในระดับเดียวกัน
พักค้างแรม ณ โรงแรม Canne Bianchi Hotel หรือในระดับเดียวกัน
DAY
วันที่ห้า
เตอเร่ คานเน่ – โรงงานผลิตชีสบูร์ราต้า พร้อมชิมชีส – เปลี่ยนบรรยากาศปั่นจักรยานสู่ โลโคโรทอนโด – ชมเมือง อัลเบโรเบลโล – ชมเมือง – เตอเร่ คานเน่
เช้า
อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ โรงงานผลิตชีสบูร์ราต้า ชีสบูร์ราต้าเป็นชีสสดที่มีแหล่งกำเนิดในปุเลีย ทำจากนมวัวเหมือนชีสมอสซาเรล่า แต่มีความแตกต่างกันคือ ชีสบูร์ราต้าจะมีครีมอยู่ข้างใน เนื้อชีสด้านนอกมีลักษณะคล้ายไข่ขาวที่ค่อนข้างเหนียว ภายในจะมีครีมหมือนน้ำข้นๆ รสชาติมัน และไม่เค็มมาก ให้ท่านได้ชมขั้นตอนวิธีการทำชีสบูร์ราต้าและลิ้มลองรสชาติชีสที่เพิ่งทำออกมาสดๆ
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ โรงงานผลิตชีสบูร์ราต้า ชีสบูร์ราต้าเป็นชีสสดที่มีแหล่งกำเนิดในปุเลีย ทำจากนมวัวเหมือนชีสมอสซาเรล่า แต่มีความแตกต่างกันคือ ชีสบูร์ราต้าจะมีครีมอยู่ข้างใน เนื้อชีสด้านนอกมีลักษณะคล้ายไข่ขาวที่ค่อนข้างเหนียว ภายในจะมีครีมหมือนน้ำข้นๆ รสชาติมัน และไม่เค็มมาก ให้ท่านได้ชมขั้นตอนวิธีการทำชีสบูร์ราต้าและลิ้มลองรสชาติชีสที่เพิ่งทำออกมาสดๆ

จากนั้น ให้ท่านได้เปลี่ยนบรรยากาศกับการปั่นจักรยานสู่ โลโคโรทอนโด เมืองเล็กๆสีขาวซึ่งมีชื่อในเรื่องสปาร์คกลิงไวน์ที่ทำจากองุ่นท้องถิ่น และการสร้างเมืองเป็นวงกลมจนมีชื่อเล่นว่า เมืองกลม นอกจากนี้ ยังจัดว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดในอิตาลีเมืองหนึ่งอีกด้วย

กลางวัน
อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร ให้ท่านชมเมืองสีขาวซึ่งเป็นตรอกซอกซอยที่เงียบสงบและสวยงาม สร้างจากหินสีขาวและประดับประดาด้วยดอกเจอเรเนียมสีแดงสด
หลังอาหาร ให้ท่านชมเมืองสีขาวซึ่งเป็นตรอกซอกซอยที่เงียบสงบและสวยงาม สร้างจากหินสีขาวและประดับประดาด้วยดอกเจอเรเนียมสีแดงสด

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ อัลเบโรเบลโล หนึ่งในเมืองมรดกโลกของอิตาลี ซึ่งมีจุดเด่นคือ Trulli หรือเรียกง่ายๆว่า บ้านปลายดินสอ เป็นบ้านเรือนที่ก่อขึ้นมาจากหินปูนและมีหลังคาทรวงกรวย โดยสร้างขึ้นด้วยวิธีการสร้างบ้านแบบโบราณที่เรียกว่า ดรายสโตน หรือ หินแห้ง ซึ่งเป็นการก่อหินแต่ละก้อนให้เรียงต่อกันอย่างแน่นหนาโดยไม่ต้องอาศัยปูนซีเมนต์ ซึ่งบ้านปลายดินสอเหล่านี้มีอายุมากว่า 600 ปี

ค่ำ
อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านเดินทางกลับสู่ เตอเร่ คานเน่
พักค้างแรม ณ โรงแรม Canne Bianchi Hotel หรือในระดับเดียวกัน
หลังอาหาร นำท่านเดินทางกลับสู่ เตอเร่ คานเน่
พักค้างแรม ณ โรงแรม Canne Bianchi Hotel หรือในระดับเดียวกัน
DAY
วันที่หก
เตอเร่ คานเน่ – ไร่มะกอก – มอนเตนาโปลิโอเน่ – เรียนทำอาหาร
เช้า
อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านสู่ ไร่มะกอก น้ำมันมะกอกจัดเป็นหนึ่งในสินค้าสำคัญของปุเลีย จนถึงขนาดมีคำเปรียบเปรยว่าเป็น ทองคำสีเขียวของปุเลีย เลยทีเดียว ในแคว้นปุเลียมีต้นมะกอกอยู่มากกว่า 60 ล้านต้น ให้ท่านได้เดินชมไร่มะกอกและสัมผัสประสบการณ์การเก็บเกี่ยว ชมขั้นตอนการแปรรูปน้ำมันมะกอก อีกทั้งยังได้ลองลิ้มรสน้ำมันมะกอกที่เพิ่งผลิตเสร็จใหม่ๆอีกด้วย
หลังอาหาร นำท่านสู่ ไร่มะกอก น้ำมันมะกอกจัดเป็นหนึ่งในสินค้าสำคัญของปุเลีย จนถึงขนาดมีคำเปรียบเปรยว่าเป็น ทองคำสีเขียวของปุเลีย เลยทีเดียว ในแคว้นปุเลียมีต้นมะกอกอยู่มากกว่า 60 ล้านต้น ให้ท่านได้เดินชมไร่มะกอกและสัมผัสประสบการณ์การเก็บเกี่ยว ชมขั้นตอนการแปรรูปน้ำมันมะกอก อีกทั้งยังได้ลองลิ้มรสน้ำมันมะกอกที่เพิ่งผลิตเสร็จใหม่ๆอีกด้วย

กลางวัน
อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสุ่ มอนเตนาโปลิโอเน่ แล้วนำท่าน เรียนทำอาหาร แบบต้นตำรับของ
ปุเลีย ท่านจะได้เรียนรู้เทคนิคและขั้นตอนการทำอาหารอิตาเลียนแบบพื้นเมืองจากเชฟผู้เชี่ยวชาญ วัสดุที่ใช้ทำอาหารจะเป็นวัสดุปลอดสารพิษที่ปลูกหรือผลิตจากพื้นที่ ให้ท่านได้ทดลองทำอาหารด้วยตัวเองและเก็บเกี่ยวประสบการณ์สุดแสนประทับใจ
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสุ่ มอนเตนาโปลิโอเน่ แล้วนำท่าน เรียนทำอาหาร แบบต้นตำรับของ
ปุเลีย ท่านจะได้เรียนรู้เทคนิคและขั้นตอนการทำอาหารอิตาเลียนแบบพื้นเมืองจากเชฟผู้เชี่ยวชาญ วัสดุที่ใช้ทำอาหารจะเป็นวัสดุปลอดสารพิษที่ปลูกหรือผลิตจากพื้นที่ ให้ท่านได้ทดลองทำอาหารด้วยตัวเองและเก็บเกี่ยวประสบการณ์สุดแสนประทับใจ

ค่ำ
อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Canne Bianchi Hotel หรือในระดับเดียวกัน
พักค้างแรม ณ โรงแรม Canne Bianchi Hotel หรือในระดับเดียวกัน
DAY
วันที่เจ็ด
เตอเร่ คานเน่ – บารี่ – มิวนิค – จตุรัสมาเรียนพลาส – ช้อปปิ้งถนนแมกซิมิลเลียน
เช้า
อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยานเมืองบารี่
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยานเมืองบารี่
11.50 น.
โดยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า เที่ยวบินที่ LH9469 นำท่านเหินฟ้าสู่มหานครมิวนิค ประเทศเยอรมนี
13.35 น.
ถึงท่าอากาศยานมิวนิค ประเทศเยอรมนี หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว นำท่านเดินทางสู่ จตุรัสมาเรียนพลาส ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองทั้งเก่าและใหม่ที่มีการตกแต่งแบบสถาปัตยกรรมแบบกอธิคที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในเยอรมนี ท่านจะได้พบกับความน่ารักของตุ๊กตาที่อยู่ในหอระฆังที่มีชื่อเสียง ซึ่งหอแห่งนี้มีความสูงถึง 85 เมตร

แล้วนำท่านสู่ ถนนแมกซิมิลเลียน ถนนสายหลักของมิวนิค ที่มีร้านดีไซเนอร์และสินค้าแบรนด์เนมระดับโลก อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังตามอัธยาศัย ไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Christian Dior, Chanel, Gucci จนถึงเวลานัดหมาย

ค่ำ
อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักค้างแรม ณ โรงแรม Bayerischer Hof หรือในระดับเดียวกัน
พักค้างแรม ณ โรงแรม Bayerischer Hof หรือในระดับเดียวกัน
DAY
วันที่แปด
มิวนิค
เช้า
อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานมิวนิค
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานมิวนิค
กลางวัน
อิสระตามอัธยาศัยภายในท่าอากาศยาน
13.35 น.
โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG925 นำท่านเหินฟ้าสู่กรุงเทพฯ
อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม
พักค้างแรมบนเครื่องบิน
อาหารบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม
พักค้างแรมบนเครื่องบิน
DAY
วันที่เก้า
กรุงเทพฯ
เช้า
อาหารเช้าบริการบนเครื่องบิน พร้อมเครื่องดื่ม
06.10 น.
ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ