• DAY 1-2
  • DAY 3
  • DAY 4
  • DAY 5
  • DAY 6
  • DAY 7
  • DAY 8
  • DAY 9
  • DAY 10-12
  • เงื่อนไขและค่าบริการ
1
พฤ. 10 ส.ค. 66
กรุงเทพฯ – สิงคโปร์
17.00 น. พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณเคาน์เตอร์สายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ 

อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้นที่ 4 ประตูที่ 5 เคาน์เตอร์เช็คอินแถว K

เจ้าหน้าที่เวิลด์ เซอร์ไพร้ส รอต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวก

20.10 น. โดยสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SQ713 นำท่านเหินฟ้าสู่ สิงคโปร์

เชิญท่านนอนหลับพักผ่อนตามอัธยาศัย พักค้างแรมบนเครื่องบิน

23.30 น. ถึงท่าอากาศยานชางกี ประเทศสิงคโปร์ แวะพักเพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง

2
ศ. 11 ส.ค. 66
สิงคโปร์ – เคปทาวน์ – ฟาร์มนกกระจอกเทศ – เทเบิลเมาน์เทน – ขึ้นกระเช้าสู่ยอดเขา

เช้า

01.30 น. โดยสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SQ478 นำท่านเหินฟ้าสู่ เคปทาวน์ เชิญท่านนอนหลับพักผ่อนตามอัธยาศัย  พักค้างแรมบนเครื่องบิน

เช้า อาหารเช้า บริการบนเครื่องบิน พร้อมเครื่องดื่ม

09.25 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติ เคปทาวน์ ประเทศสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ (เวลาที่แอฟริกาใต้ช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) 

เคปทาวน์ เป็นเมืองตากอากาศที่ติดอันดับสวยงามที่สุดแห่งของโลก ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสามของประเทศแอฟริกาใต้ เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 300 ปี มีภูเขาล้อมรอบ และเป็นที่ตั้งของแหลมกู๊ดโฮป ซึ่งยื่นออกไประหว่าง 2 มหาสมุทร คือ มหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแอตแลนติก ทำให้มีภูมิอากาศแบบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เคปทาวน์ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี ค.ศ. 2010 

หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้วนำท่านเดินทางสู่ ฟาร์มเลี้ยงนกกระจอกเทศ (West Coast Ostrich Ranch) ซึ่งเป็นนกที่ตัวใหญ่และวิ่งเร็วที่สุดในโลก มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแอฟริกา

ฟาร์มนกกระจอกเทศ เป็นธุรกิจอุตสาหกรรมที่ทำรายได้ เนื้อนำไปทำเป็นสเต็กชั้นดี รสชาติคล้ายเนื้อวัว แต่อร่อยและหวานกว่า ขนใช้ทำเครื่องประดับ ส่วนหนังทำรองเท้า กระเป๋า และของที่ระลึกอื่นๆ เปลือกไข่สามารถนำมาวาดรูป ระบายสีลวดลาย เป็นของตกแต่งบ้านที่สวยงามได้

กลางวัน

อาหารกลางวัน ณ ฟาร์มนกกรจอกเทศ เมนูสเต็กนกกระจอกเทศ

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ เทเบิลเมาน์เทน หนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของแอฟริกาใต้ ภูเขาลูกใหญ่กลางเมืองที่สามารถมองเห็นได้จากทุกสารทิศ มีรูปทรงแปลกตาคือ มีลักษณะคล้ายกับโต๊ะที่แบนราบ ตั้งอยู่บนแผ่นดิน จึงทำให้ภูเขาลูกนี้ได้ชื่อว่า เทเบิลเมาน์เทน มีความสูง 1,086 เมตร และเป็นที่นิยมของเหล่านักปีนเขา ด้วยเส้นทางชมธรรมชาติที่สวยงาม

แล้วนำท่าน ขึ้นกระเช้าสู่ยอดเทเบิลเมาน์เทน เพื่อชมทัศนียภาพที่งดงามเหนือเคปเพนินซูล่า ซึ่งพื้นของกระเช้าแต่ละคันสามารถหมุนให้ทุกคนได้ชมทิวทัศน์แบบมุมมอง 360 องศา      อีกด้วย

อิสระให้ท่านดื่มด่ำกับบรรยากาศและความงดงามของวิวทิวทัศน์ที่ท่านจะได้เห็น มหาสมุทรแอตแลนติก ได้ไกลสุดสายตา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปลายทางที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกอยากจะมาเยือน

จากนั้น นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก เพื่อเช็คอินและพักผ่อน

ค่ำ

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พิเศษ เมนูหอยเป๋าฮื้อ และ กุ้งมังกร

พักค้างแรม ณ โรงแรม Table Bay หรือในระดับเดียวกัน 

3
ส. 12 ส.ค. 66
เคปทาวน์ – เคปเพนินซูล่า – อ่าวไมเด้น – หาดแคมป์เบย์ – ท่าเรือฮูทเบย์ – เกาะแมวน้ำ – เคปพอยท์ – แหลมกู๊ด โฮป – อาณานิคมนกเพนกวิน

เช้า

เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ เคปเพนินซูล่า โดยเส้นทางเรียบชายฝั่งทะเล ระหว่างทาง

นำท่านแวะถ่ายรูปที่ อ่าวไมเด้น จุดชมวิวที่สวยงาม และ หาดแคมป์เบย์ ชายหาดด้านหลังอุทยานแห่งชาติเทเบิลเมาน์เทน และเขาหิน 12 ลูก เป็นหนึ่งในหาดที่สวยที่สุดของโลก 

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ ฮูทเบย์ หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ เพื่อล่องเรือไปชมแมวน้ำจำนวนมาก ที่พากันมานอนอาบแดดรับความอบอุ่นจากแสงอาทิตย์อย่างมีความสุขกันตามธรรมชาติอยู่บริเวณ เกาะซีล หรือ เกาะดุยเกอร์ ซึ่งเป็นอิริยาบถน่ารักๆ และวิถีชีวิตอันน่ามหัศจรรย์ของสัตว์โลกอีกชนิดที่หาดูไม่ได้ในบ้านเรา

จากนั้นนำท่านชมความงามของชายฝั่ง ลัดเลาะสู่ชายหาดที่สวยสะดุดตา ข้ามยอดเขาอันสวยงามที่มีชื่อเสียงก้องโลก แชปแมนส์ พีค ให้ท่านแวะถ่ายรูปและชมภูมิประเทศที่แปลกตาอันน่าประทับใจ ซึ่งในปัจจุบันเป็นสถานที่ตั้งของที่พักตากอากาศอันหรูหรา 

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เคปพอยท์

กลางวัน

อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านชม เคปพอยท์ จุดใต้สุดของ แหลมกู๊ดโฮป หนึ่งในสถานที่ที่สวยงามและ

มีชื่อเสียงที่สุดของแอฟริกาใต้ และเป็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์ฮอลลีวูด “Pirates of the  Caribbean” ที่ให้ความรู้สึกราวกับกำลังมองไปยังเส้นขอบโลก เคปพอยท์ตั้งอยู่ภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเทเบิลเมาน์เทน เป็นบริเวณที่ที่รู้จักกันดีว่ามีกระแสคลื่นและลมทะเลที่รุนแรง ด้วยหน้าผาสูงตระหง่าน และโขดหินโสโครกมากมาย นับเป็นปรากฏการณ์ทางภูมิศาสตร์ที่

โด่งดังระดับโลก และทำให้เรือใหญ่อัปปางมาแล้วถึง 26 ลำ ในขณะเดียวกันก็ยังมีความงดงามและความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ผิวน้ำที่ส่องประกายระยิบระยับเมื่อสะท้อนแสงอาทิตย์ หุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยดอกไม้และพืชพันธุ์ที่มีความหลากหลาย รวมไปถึงสัตว์และนกกว่า 250 สายพันธุ์

แล้วนำท่านชม อาณานิคมนกเพนกวิน พันธุ์แอฟริกัน เพื่อให้ท่านได้ชมความน่ารักของ

นกเพนกวินตัวน้อยนับพันตัวที่ หาดโบวล์เดอร์ ซึ่งเป็นนกเพนกวินแอฟริกัน JACKASS ที่ใกล้สูญพันธุ์ ในปี ค.ศ. 1982 นกเพนกวินเริ่มขยายพันธุ์มากขึ้น ณ หาด แห่งนี้จนกลายเป็นอาณานิคมนกเพนกวินที่มีนกเพนกวินอาศัยอยู่มากถึงราว 3,000 ตัว 

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางกลับสู่ เคปทาวน์

ค่ำ

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย

พักค้างแรม ณ โรงแรม Table Bay หรือในระดับเดียวกัน

4
อา. 13 ส.ค. 66
เคปทาวน์ – เส้นทางแห่งไวน์สแตลเลนบอช –  พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านสแตลเลนบอช – เคปทาวน์ – ช้อปปิ้งที่ วี แอนด์ เอ วอเตอร์ฟร้อนท์

เช้า

อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางผ่านเส้นทางแห่งไวน์สแตลเลนบอช (Stellenbosh Wine Route) สู่ เมืองสแตลเลนบอช หรือ City of Oak เมืองหลวงแห่งการทำไวน์เป็นเมืองเก่าแก่อันดับสองของแอฟริกาใต้ที่ยังคงรักษาไว้ได้ในสภาพที่ดีเยี่ยมและสวยงาม เมืองนี้มีไร่องุ่นมากมาย และเป็นไร่องุ่นที่ดี มีโรงงานผลิตไวน์แดง และมีบริการให้ชิมไวน์สแตลเลนบอช ยังมีมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนการทำไวน์โดยเฉพาะอีกด้วย

นอกจากนั้นยังเป็น เมืองที่มีตึกเก่าแก่ที่สวยงามสไตล์ดัตช์ จอร์เจีย และวิคตอเรีย นำท่านชม พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านสแตลเลนบอช ซึ่งภายในบ้านจำลองสภาพความเป็นอยู่ของคนสมัยก่อนถึง 4 ยุค อันได้แก่ กระท่อมชเรียดอร์เฮยสโบราณ (1690-1720) บ้านเบลตเตอร์มันเฮยส (1750-1790) บ้านกรอเวอร์เนอร์สไตล์จอร์เจีย (1800-1830) และ บ้านเมอเรย์สไตล์วิคตอเรียยุคกลาง (1840-1870)

อิสระให้ท่านได้เดินเล่นภายในเมือง ซึ่งยังคงรักษาอาคารบ้านเรือนสมัยเก่าไว้ได้ในสภาพที่ดีเยี่ยมและสวยงาม

กลางวัน

อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร พร้อมกับชิมไวน์เลิศรสแห่งแอฟฟริกา

หลังอาหาร นำท่านเดินทางกลับสู่ เคปทาวน์ แล้วนำท่านเดินทางสู่ วี แอนด์ เอ วอเตอร์ฟร้อนท์ คอมมูนิตี้มอลล์ หรือแหล่งช้อปปิ้ง ในรูปแบบสไตล์โมเดิร์น ที่ตั้งอยู่ริมท่าเรือเก่า มีร้านค้ามากมายให้ท่านได้เดินชมไม่ว่าจะเป็นร้านค้าเครื่องประดับ เครื่องสำอาง เสื้อผ้า ร้านอาหาร และซุปเปอร์มาร์เก็ต 

อิสระให้ท่านช้อปปิ้งจนถึงเวลานัดหมาย 

 

ค่ำ

18.00 น. อาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารทะเล

พักค้างแรม ณ โรงแรม Table Bay หรือในระดับเดียวกัน
5
จ. 14 ส.ค. 66
เคปทาวน์ – วิคตอเรียฟอลส์ ประเทศซิมบับเว – อุทยานแห่งชาติโชเบ- ประเทศบอตสวานา – Game Drive ท่องซาฟารี

เช้า

เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติ เคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้

09.45 น. โดยสายการบินแอร์ลิงค์ เที่ยวบินที่ 4Z386  นำท่านเหินฟ้าสู่ท่าอากาศยาน วิคตอเรียฟอลส์ ประเทศซิมบับเว

12.40 น. ถึงท่าอากาศยาน วิคทอเรียฟอลส์ประเทศซิมบับเว แล้วนำท่านสู่ภัตตาคาร

กลางวัน

กลางวัน อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ สาธารณรัฐบอตสวานา ผ่านด่านพรมแดนแล้ว นำคณะเข้าสู่ อุทยานแห่งชาติโชเบ เป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเพื่อเข้ามาท่องป่าดูสัตว์แบบซาฟารี 

อุทยานแห่งชาติแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 10,698 ตารางกิโลเมตร ซึ่งใหญ่เป็นดันดับ 3 ในบอตสวานา เป็นแหล่งรวมฝูงสัตว์ใหญ่นานาชนิด อาทิ ฝูงช้างป่าที่มีกว่า 60,000 เชือก ฝูงควายป่า ม้าลาย และสัตว์นักล่าอย่าง สิงโต เสือดาว เสือชีต้า ไฮยีน่าลายจุด 

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดูนก ที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมนกนานาชนิดกว่า 450 สายพันธุ์ ซึ่งสัตว์ป่าที่นี่มีชีวิตอยู่อย่างอิสระเสรีตามธรรมชาติ ให้ท่านตื่นเต้นกับการ ท่องซาฟารี หรือ Game Drive โดยรถแบบ 4WD ที่จะพาไปชมสัตว์ป่า เป็นรถแบบเปิดโล่งด้านข้าง รถแต่ละคันจะมีนายพรานหรือ Ranger ซึ่งเป็นทั้งคนขับรถ และไกด์คอยแนะนำวิธีการชมสัตว์ให้ทราบ 

จุดเด่นของอุทยานฯแห่งนี้คือท่านจะเห็นฝูงช้างป่าแอฟริกาออกหากินตามลำน้ำ เป็นภาพธรรมชาติที่หาชมได้ยากยิ่ง นอกจากนี้ท่านอาจเห็นฝูงฮิปโปโปเตมัสนับสิบตัวอาศัยอยู่ตามริมฝั่ง นอกจากนี้ท่านยัง สามารถพบเห็นสัตว์จำพวกกวางป่าหายาก อย่างตัว เซเบล เซลเซบี้ เรด รีชเว กวางโชเบ ฯลฯ ได้อีกด้วย

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก

ค่ำ

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

พักค้างแรม ณ โรงแรม Chobe Safari Lodge หรือในระดับเดียวกัน

6
อ. 15 ส.ค. 66

อุทยานแห่งชาติโชเบ – ล่องเรือท่องซาฟารี – ลิฟวิงสโตนประเทศแซมเบีย – น้ำตกวิคตอเรียฝั่งประเทศแซมเบีย

เช้า

อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านสัมผัสกับกิจกรรมที่น่าตื่นเต้น ล่องเรือท่องซาฟารีในแม่น้ำโชเบ (Boat Safari) (ใช้เวลาในการทํา Game Drive ทางน้ำประมาณ 3 ชั่วโมง) เพื่อดูวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของสัตว์ป่านานาชนิด ที่มาดื่มน้ำในแม่น้ำโชเบ สัตว์ป่าที่สามารถเห็นได้มากในแถบนี้คือ ฮิปโปโปเตมัส จระเข้ ช้าง และ นกกินปลานานาชนิด 

ให้ท่านได้เก็บภาพความน่า ประทับใจของสัตว์ป่านานาชนิดที่อาศัยในแม่น้ำโชเบ

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ที่พัก

กลางวัน

อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ ลิฟวิงสโตน ประเทศแซมเบีย ชม น้ำตกวิคตอเรีย หรือเรียกกันอีกชื่อว่า “โมซิ-โอวา-ทุนยา” น้ำตกที่มีความหมายว่า “ควันที่ส่งเสียงกึกก้อง” 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก (Seven Natural Wonders of the World) 

น้ำตกวิคตอเรีย ตั้งอยู่บริเวณรอยต่อของประเทศแซมเบีย และ ประเทศซิมบับเว เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ถูกค้นพบครั้งแรกโดย ดร.เดวิด ลิฟวิงสโตน ในปีค.ศ.1855 ซึ่งเป็นผู้ตั้งชื่อน้ำตกนี้เพื่อเป็นเกียรติแก่สมเด็จพระราชินีวิคตอเรีย น้ำตกวิคตอเรียเกิดจากแม่น้ำแซมเบซี ซึ่งเป็นแม่น้ำกั้นพรมแดนของทั้งสองประเทศตกลงมาสู่แอ่งลึก โดยน้ำตกมีขนาดกว้างกว่า 1,690 เมตร สูงราว 60 – 100 เมตร ไอน้ำจากน้ำตกวิคตอเรียสามารถมองเห็นได้จากระยะ 20 กิโลเมตร

น้ำตกวิคตอเรียแห่งนี้ได้รับการ ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก ในปี ค.ศ. 1989 ปัจจุบันนี้ น้ำตกวิคตอเรียเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งสร้างรายได้ที่สำคัญของประเทศแซมเบียและประเทศซิมบับเว จึงมีการสร้างโรงแรมและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนทั้งสองประเทศ

แล้วนำท่านชมน้ำตกที่สำคัญและสวยงามอีก 2 แห่งซึ่งอยู่ฝั่งประเทศแซมเบีย คือ น้ำตกอาร์มแชร์ (Armchair Falls) ซึ่งเป็นจุดที่น้ำตกมีความสูงเป็นอันดับสองรองจากน้ำตกเรนโบว์ (Rainbow Falls) ที่สูงถึง 101 เมตร อีกแห่งหนึ่งคือ น้ำตกอีสเทิร์นคาตาแร็คท์ (Eastern Cataract Falls) ซึ่งสวยงามไม่แพ้จุดอื่นๆ

ในการเดินชมน้ำตกท่านอาจจะต้องเปียกจากละอองน้ำ และฝนที่อาจตกเกือบตลอดทั้งปี เพราะฉะนั้นควรเตรียมเสื้อกันฝนที่มีฮู้ด และร่ม ติดตัวไปด้วย และอย่าลืม ถุงหรือกระเป๋ากันน้ำสำหรับกล้องต่างๆไปด้วย

ได้เวลาอันสมควร นำท่านสู่โรงแรมที่พัก

ค่ำ

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม 

พักค้างแรม ณ โรงแรม The Royal Livingstone หรือในระดับเดียวกัน
7
พ. 16 ส.ค. 66
ลิฟวิงสโตน – นั่งรถรางรางสู่สะพานน้ำตกวิกตอเรีย – สะพานน้ำตกวิกตอเรีย – น้ำตกวิคตอเรีย ฝั่งประเทศซิมบับเว – นั่งเฮลิคอปเตอร์ชมความงามของน้ำตกวิคตอเรีย – ล่องเรือชมแม่น้ำแซมเบซี – ลิฟวิงสโตน

เช้า

อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่น้ำตกวิกตอเรีย แล้วนำท่าน นั่งรถรางรางสู่สะพานน้ำตกวิกตอเรีย แล้วให้ท่านได้เดินเล่นบริเวณ สะพานน้ำตกวิคตอเรีย เป็นสะพานมิตรภาพที่เชื่อมต่อระหว่างซิมบับเว และแซมเบีย ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำแซมเบซี ระหว่างช่องแคบที่สองของน้ำตก สร้างจากเหล็กล้วนๆ มีความยาว 198 เมตร สูง 128 เมตร สามารถข้ามได้ทั้งรถไฟ รถยนต์และเดินเท้า ถือเป็นสถานที่ยอดนิยมอันดับสองรองจากน้ำตกวิกตอเรีย 

ความพิเศษของสะพานเส้นนี้นั้น นอกจากจะเป็นสะพานที่ท่านจะได้สัมผัสละอองน้ำจากน้ำตกวิกตอเรีย สะพานแห่งนี้ยังใช้เป็นสถานที่สำหรับกระโดดบันจี้จัมพ์ ของผู้ที่ชอบความหวาดเสียว เพราะที่นี่ นับเป็นจุดกระโดดบันจี้จัมพ์ที่สูงที่สุดในโลก

จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ ประเทศซิมบับเว โดยผ่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองที่ด่านวิคตอเรียฟอลส์ ประเทศซิมบับเวเดิมเรียกว่า โรดิเซีย (Rhodesia) ต่อมาในปี ค.ศ.1923 จักรวรรดิอังกฤษยึดเอาดินแดนส่วนที่ชื่อว่า โรดิเซียใต้ มาจากประเทศแอฟริกาใต้ แล้วผนวกเข้าเป็นอาณานิคม โดยมีรัฐบาลชาวผิวขาวซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยเป็นผู้ปกครอง จึงทำให้เกิดการต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิชอบธรรมจากชนพื้นเมืองซึ่งเป็นคนหมู่มาก ส่วนใหญ่เป็นชาวแอฟริกัน จนกระทั่งได้รับเอกราชจากอังกฤษในวันที่ 18 เมษายน ค.ศ.1980 แล้วเปลี่ยนชื่อมาเป็น สาธารณรัฐซิมบับเว 

แล้วนำท่านชม น้ำตกวิคตอเรีย ฝั่งประเทศซิมบับเว ซึ่งมีจุดชมน้ำตก 4 จุดที่ไม่ควรพลาดคือ 

1. เดวิลส์คาตาแร็คท์ (Devil’s Cataract)

2. น้ำตกหลัก (Main Falls) เป็นน้ำตกที่มีความกว้างถึง 830 เมตร

3. น้ำตกเกือกม้า (Horse Shoe Falls) เป็นจุดที่ได้รับการยกย่องว่าสวยที่สุด ตัวน้ำตกมีรูปทรงคล้ายเกือกม้า มีความสูงถึง 95 เมตร 

4. น้ำตกสายรุ้ง (Rainbow Falls) เป็นจุดที่น้ำตกมีความสูงที่สุดถึง 108 เมตร

ท่านจะได้สัมผัสความสวยงามและยิ่งใหญ่ของน้ำตกเหล่านี้อย่างใกล้ชิด ในการเดินชมน้ำตกท่านอาจจะต้องเปียกจากละอองน้ำ และฝนที่อาจตกได้ตลอดทั้งปี เพราะฉะนั้นควรเตรียมเสื้อกันฝนที่มีฮู้ด และร่ม ติดตัวไปด้วย และอย่าลืมถุงหรือกระเป๋ากันน้ำสำหรับกล้องถ่ายรูปไปด้วย

กลางวัน

อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย

หลังอาหาร นำท่านสัมผัสประสบการณ์การ นั่งเฮลิคอปเตอร์ชมน้ำตกวิคตอเรีย จากมุมสูง (ใช้เวลาบินประมาณ 15 นาที) เป็น 1 ใน 3 น้ำตกที่มีชื่อเสียงระดับโลกอีกด้วย และยังมีเวลาให้ท่านได้เต็มอิ่มกับการเก็บภาพน้ำตกวิคตอเรียแบบใกล้ชิด

จากนั้น นำท่าน ล่องเรือชมแม่น้ำแซมเบซี ในยามเย็น แม่น้ำแซมเบซีเป็นแม่น้ำสายใหญ่ที่อยู่เหนือน้ำตกวิคตอเรียไปไม่กี่กิโลเมตร ท่านจะได้ชมความกว้างใหญ่ของแม่น้ำและ
ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ในยามเย็น

ชมดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ในบรรยากาศอันแสนโรแมนติก สายลมอันสดชื่นที่กรุ่นกลิ่นทุ่งหญ้าอ่อนๆ และดอกไม้ป่าจะช่วยให้ท่านผ่อนคลาย พร้อมชมทิวทัศน์สองข้างทางซึ่งเต็มไปด้วยป่าไม้เขียวชอุ่ม 

ตื่นตาตื่นใจกับบรรดาชีวิตสัตว์ป่าที่หาชมได้ยาก อาทิ ฮิปโปโปเตมัส และนกนานาชนิด ทั้งหมดนี้จะทำให้ท่านรู้สึกว่า
2 ชั่วโมงที่ล่องเรือผ่านไปไวเหมือนสายลมพัด จนไม่ทันรู้สึกตัว 

นอกจากจะได้รับการยอมรับถึงความสวยงามและความยิ่งใหญ่แล้ว แซมเบซียังเป็นแม่น้ำที่เป็นแหล่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาหารของเหล่าสรรพสัตว์น้อยใหญ่ ทั้งสัตว์บกที่อาศัยอยู่ริม
พงไพร และบรรดาสัตว์น้ำต่างๆ รวมถึงผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ที่ใช้แม่น้ำเป็นเส้นทางการคมนาคม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สร้างชื่อเสียงและรายได้ที่สำคัญ และเป็นแหล่งผลิตพลังงานทางธรรมชาติด้วย

แม่น้ำแห่งนี้จึงได้รับอีกสมญานามว่าเป็น “The River of Life” หรือ แม่น้ำแห่งชีวิต

ค่ำ

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม 

พักค้างแรม ณ โรงแรม The Royal Livingstone หรือในระดับเดียวกัน
8

พฤ. 17 ส.ค. 66

ลิฟวิงสโตน – วิคทอเรียฟอลส์ ประเทศซิมบับเว – โจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ – อุทยานแห่งชาติ พิลาเนสเบิร์ก
เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยาน วิคทอเรียฟอลส์ ประเทศซิมบับเว

กลางวัน อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารภายในสนามบิน

13.10 น. โดยสายการบินเซาท์แอฟริกันแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ SA041 นำท่านเหินฟ้าสู่ โจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้

14.50 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติ โจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ 

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติ พิลาเนสเบิร์ก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศแอฟริกาใต้ 

อุทยานแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 572 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเกิดจากภูเขาไฟระเบิดเมื่อหลายร้อยปีก่อน ทำให้ผืนดินมีแร่ธาตุอุดมสมบูรณ์ มีความเขียวชอุ่มเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์นานับชนิด และต่อมาจึงเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบการท่องป่าแบบซาฟารี (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 2.40 – 3 ชั่วโมง)

ค่ำ อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ภายในโรงแรม

พักค้างแรม ณ โรงแรม Shepherd’s Tree Game Lodge หรือในระดับเดียวกัน
9
ศ. 18 ส.ค. 66
อุทยานแห่งชาติพิลาเนสเบิร์ก – Game Drive – เดอะ พลาเลซ ออฟ เดอะ ซันซิตี้ – พาเลส ออฟ เดอะลอส ซิตี้ – แซนตัน ซัน

เช้า

ออก Game Drive ในช่วงเช้าตรู่

นำท่านเปลี่ยนบรรยากาศในการออก Game Drive เพื่อชมสัตว์ป่าภายในเขตอุทยานแห่งชาติพิลาเนสเบิร์ก ที่ออกหากินในช่วงเช้ามืด พร้อมกับชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ท่ามกลางอากาศของธรรมชาติที่สุดแสนบริสุทธิ์

หมายเหตุ : ภาพประกอบสำหรับการเสนองานเท่านั้น

เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร อิสระตามอัธยาศัย ภายในที่พัก จนถึงเวลานัดหมาย

ได้เวลานัดหมาย นำท่านเดินทางสู่ เดอะ พาเลซ ออฟ เดอะ ซันซิตี้ เมืองที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของโจฮันเนสเบิร์กและได้รับฉายาว่า เป็น เมืองที่ไม่เคยหลับใหล เนื่องจากเป็นแหล่งที่ตั้งของโรงแรม รีสอร์ท และสถานบันเทิง คาสิโนรวมถึงสนามกอล์ฟ เป็นเมืองพักผ่อนตากอากาศที่ได้รับความนิยมอีกเมืองหนึ่ง

ความเป็นมา คือ พื้นที่แห่งนี้ได้รับการเนรมิตโดยอภิมหาเศรษฐีนามว่า Sol Kerzner ที่ใช้เงินลงทุนกว่า 28,000 ล้านบาท และใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 18 ปี ในการปรับเปลี่ยนที่ดินอันว่างเปล่าแห่งนี้ให้กลายมาเป็นเมืองอันยอดนิยม โดยเริ่มสร้างโรงแรมมาตั้งแต่ โรงแรมเดอะ ซัน ซิตี้ , โรงแรมเดอะคาบานาว, โรงแรมเดอะ คาสเคต จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1992 จึงได้เริ่มสร้างเดอะ พาเลส ออฟ เดอะ ลอส ซิตี้

กลางวัน

อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านเข้าสู่ พาเลส ออฟ เดอะ ลอส ซิตี้ ตั้งอยู่บนอดีตปล่องภูเขาไฟ รูปแบบของสถาปัตยกรรมเป็นแบบโคโลเนียนผสมแอฟริกัน ภายในวิจิตรไปด้วยศิลปะการตกแต่งประดับประดาโดยใช้กระจกสี โมเสก ภาพเฟรสโก ตัวอาคารตั้งตระหง่านอย่างโดดเด่น ที่ราวกับว่าเป็นปราสาทเทพนิยายของอาณาจักรแอฟริกันที่อยู่ท่ามกลางหุบเขาธรรมชาติ

 

อิสระให้ท่านได้เพลินเพลินและพักผ่อนตามอัธยาศัยภายในที่พักที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิเช่น สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และทะเลน้ำจืดเทียมขนาดยักษ์ ที่เรียกว่า Valley of Wave ที่มีลักษณะเหมือนทะเลจริงๆ รายล้อมด้วยขุนเขาและต้นไม้นานาชนิดที่ได้รับการตกแต่งอย่างเป็นระเบียบอย่างสวยงาม

ใกล้ๆกันนั้น คือ สะพานแก่งกาลเวลา ที่สองข้างทางจะมีช้างแกะสลักเรียงรายอยู่ ซึ่งสะพานนี้ได้เชื่อมต่อกับกองหินอันมหึมาที่มีความเชื่อว่าเป็น เมืองที่สูญหายไป และเพื่อเป็นการระลึกถึงความทรงจำนี้ ในทุกๆชั่วโมงสะพานจะถูกเขย่าเสมือนแผ่นดินไหว

อีกทั้ง ยังมี สนามกอล์ฟที่ได้มาตรฐานระดับโลกและเคยใช้เป็นสถานที่แข่งขันกอล์ฟนัดสำคัญๆ มาหลายครั้ง นอกจากนี้ ยังมีคาสิโนที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

จากนั้น นำท่านเดินทางกลับสู่ที่พัก

ค่ำ

พักค้างแรม ณ โรงแรม Shepherd’s Tree Game Lodge หรือในระดับเดียวกัน
10
ส. 19 ส.ค. 66
แซนตัน ซัน – โจฮันเนสเบิร์ก – หมู่บ้านวัฒนธรรม – โรสแบงค์ มอลล์

เช้า

เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ โจฮันเนสเบิร์ก หรือที่ชาวแอฟริกาใต้เรียกกันสั้นๆ ว่า โจเบิร์ก เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศแอฟริกาใต้ ได้รับฉายาว่า “THE GOLD CITY” เนื่องจากในช่วงศตวรรษที่ 20 มีการแบ่งแยกสีผิว ทำให้เกิดชุมชนต่างผิวขึ้นคนละมุมเมือง โดยแยกเป็น เมืองคนขาว คือ Sandton และเมืองคนดำคือ Soweto ปัจจุบัน

โจฮันเนสเบิร์กเป็นแหล่งเศรษฐกิจที่ใหญ่สุดของแอฟริกาใต้ เมืองแห่งความบันเทิงและการพักผ่อนหย่อนใจ เพราะโจฮันเนสเบิร์กเป็นเมืองซึ่งเต็มไปด้วยร้านอาหาร แสงสียามค่ำคืน ผับ บาร์ ซิการ์บาร์ แหล่งช้อปปิ้ง สปาเพื่อสุขภาพและความงาม

กลางวัน

อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านวัฒนธรรม เปิดประสบการณ์การเรียนรู้วัฒนธรรม ประเพณีของชนเผ่าต่าง ๆ ชาวแอฟริกันที่ หมู่บ้านวัฒนธรรม อันสะท้อนให้เห็นผ่านทางเสื้อผ้า บ้านเรือน ขนบธรรมเนียมโบราณที่ยึดถือกันมารุ่นต่อรุ่น ร่วมสนุกสนานไปกับการชมการแสดงเต้นประจำเผ่า ที่จะทำให้ท่านเพลิดเพลิน

จากนั้น นำท่านสู่ โรสแบงค์ มอลล์ อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้ามากมายหลากหลาย ทั้งสินค้า

แบรนด์เนมและสินค้าท้องถิ่น โดยแบ่งออกเป็นส่วนของห้างสรรพสินค้า และร้านค้าภายนอกที่เป็นสินค้าหัตถกรรม เช่น ของที่ระลึก ของตกแต่งบ้าน ผ้าพันคอ เครื่องหนัง และเครื่องประดับ เป็นต้น

อิสระให้ท่านได้เดินเล่น หรือเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย จนถึงเวลานัดหมาย

ค่ำ

อาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร 

บริการท่านด้วย บาร์บีคิวสไตล์แอฟริกัน ที่มีเนื้อหลากหลายชนิด ย่างจนหอมกรุ่น ให้ท่านได้ทดลองชิมท่ามกลางบรรยากาศอันเป็นกันเอง

พักค้างแรม ณ โรงแรม Sandton Sun หรือในระดับเดียวกัน
11
อา. 20 ส.ค. 66
โจฮันเนสเบิร์ก – สิงคโปร์
เช้า อาหารเช้า ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม

หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติ โจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้

กลางวัน อาหารกลางวัน อิสระตามอัธยาศัยภายในท่าอากาศยาน

13.45 น. โดยสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SQ479 นำท่านเหินฟ้าสู่ สิงคโปร์

ค่ำ อาหารค่ำบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม

เชิญท่านนอนหลับพักผ่อนตามอัธยาศัย 

พักค้างแรมบนเครื่องบิน
12
จ. 21 ส.ค. 66
สิงคโปร์ – กรุงเทพฯ
เช้า อาหารเช้าบริการบนเครื่องบินพร้อมเครื่องดื่ม

06.10 น. ถึงท่าอากาศยานชางกี ประเทศสิงคโปร์ แวะพักเพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง

08.20 น. โดยสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SQ8546 นำท่านเหินฟ้าสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย

09.50 น. ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมด้วยความประทับใจ

The Discovery of Africa Surprise! 12 วัน

โดยสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ (SQ)

สายการบินเซาท์แอฟริกันแอร์เวย์ (SA) และสายการบินแอร์ลิงค์ (4Z)

อัตราค่าบริการ (ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ)

ออกเดินทางวันที่
10 – 21 ส.ค. 66
ผู้ใหญ่ พักห้องคู่ ท่านละ
315,900 บาท
เด็กอายุไม่เกิน 12 ปี พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน มีเตียง
142,900 บาท
พักห้องเดี่ยว เพิ่มท่านละ
76,950 บาท
หมายเหตุ

– ทางบริษัท ฯ เป็นตัวแทนในการยื่นเอกสารกับทางสถานทูตเท่านั้น ผลการพิจารณาขึ้นอยู่กับสถานทูตแต่เพียงผู้เดียว

– ทางบริษัท ฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมการเดินทาง โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ และความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นหลัก

– ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิเนื่องจากข้อผิดพลาดทางการพิมพ์

กรณีไม่สามารถเดินทางได้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง
ค่าบริการรวม
– ค่ารถรับส่งตามรายการ

– ค่าธรรมเนียมการเข้าชมสถานที่ และกิจกรรมตามรายการ

– ค่าห้องพัก สองท่านต่อหนึ่งห้อง ในโรงแรมที่ระบุ หรือในระดับเดียวกัน

– ค่าอาหาร ตามรายการ

– ค่าธรรมเนียมวีซ่า ยกเว้นคนต่างด้าว

ค่าประกันภัยการเดินทางวงเงินท่านละ 2,000,000 บาท

ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุ วงเงินท่านละ 2,000,000 บาท

หัวหน้าทัวร์จากกรุงเทพฯ คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง

– ค่าทิปคนขับรถ

– ขนม และของว่างบริการระหว่างเดินทาง

– ของพรีเมี่ยม (Universal Travel Adapter, WST Shopping Bag)

ค่าบริการไม่รวม
– ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ

– ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม7% (คิดคำนวณจากค่าบริการ)

– ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ทางไกล ค่าเครื่องดื่ม

ดาวน์โหลดโปรแกรมการเดินทาง (PDF)